ชื่อเรื่อง การนิเทศด้วยกระบวนการวิจัยเพื่อส่งเสริมความสามารถในการพัฒนานวัตกรรม
การจัดการเรียนรู้ของครูโรงเรียนขุนยวม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1
ผู้วิจัย นายอรรถพล ชุมพู
หน่วยงาน โรงเรียนขุนยวม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความรู้และความสามารถด้านการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ของครูโรงเรียนขุนยวม ก่อนและหลังได้รับการนิเทศด้วยกระบวนการวิจัย
2) ประเมินคุณภาพของนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูโรงเรียนขุนยวม ที่ได้รับการนิเทศด้วยกระบวนการวิจัย 3) ศึกษาความพึงพอใจของครูต่อการนิเทศด้วยกระบวนการวิจัยของครูโรงเรียนขุนยวม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ครูโรงเรียนขุนยวม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในครั้งนี้ประกอบด้วย 1) แบบประเมินความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ 2) แบบประเมินนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบความรู้ด้านการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครู 4) แบบประเมินความพึงพอใจ
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการประเมินความรู้ความเข้าใจของครูก่อนได้รับการนิเทศมีคะแนนเฉลี่ย 9.36 หลังจากได้รับการนิเทศด้วยกระบวนการวิจัยครูมีความรู้ความเข้าใจด้านการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครู สูงกว่าก่อนได้รับการนิเทศ โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 25.03 เมื่อวิเคราะห์คะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ได้เท่ากับ 75.92 อยู่ในระดับมาก แสดงว่าครูที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมีคะแนนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับคะแนนเต็มที่เหลืออยู่ สามารถทำเพิ่มขึ้นได้เท่ากับ 75.92 คะแนน จาก 100 คะแนน
2. การประเมินตนเองด้านความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูโรงเรียนขุนยวม จำนวน 30 คน ซึ่งคะแนนเต็ม 100 คะแนน พบว่า ก่อนได้รับการนิเทศครูประเมินตนเองด้านความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครู มีคะแนนเฉลี่ย 48.03 หลังจากได้รับการนิเทศด้วยกระบวนการวิจัยครูมีความสามารถด้านการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนได้รับการนิเทศ โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 81.76 เมื่อวิเคราะห์คะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ได้เท่ากับ 64.90 อยู่ในระดับปานกลาง แสดงว่าครูที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมีคะแนนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับคะแนนเต็มที่เหลืออยู่ สามารถทำเพิ่มขึ้นได้เท่ากับ 64.90 คะแนน จาก 100 คะแนน
3. การประเมินคุณภาพของนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูโรงเรียนขุนยวม ที่ได้รับการนิเทศด้วยกระบวนการวิจัยจำนวน 30 คน พบว่า หลังจากครูได้รับการนิเทศติดตามด้วยกระบวนการวิจัยครูสามารถสร้างและพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูได้ทุกคนเมื่อประเมินคุณภาพของนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้พบว่า นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูมีคุณภาพระดับดี มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.20 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านกระบวนการพัฒนานวัตกรรมมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.31 มีคุณภาพระดับดี โดยกระบวนการพัฒนานวัตกรรมครบทุกขั้นตอนมีคะแนนสูงที่สุด มีค่าเฉลี่ย 2.40 คุณภาพระดับดีมาก รองลงมาคือด้านคุณค่านวัตกรรมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.30 คุณภาพระดับดี ซึ่งการเรียนรู้ร่วมกัน มีค่าเฉลี่ย 2.43 ระดับดีมาก ส่วนด้านความเป็นนวัตกรรม
มีคุณภาพน้อยที่สุด มีค่าเฉลี่ย 2.16 อยู่ในระดับดี
4. ความพึงพอใจของครูต่อการนิเทศด้วยกระบวนการวิจัยของครูโรงเรียนขุนยวม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ทุกข้อมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีความพึงพอใจสูงสุด 3 ลำดับแรกคือ การนิเทศช่วยให้ครูพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ รองลงมาคือ การนิเทศช่วยให้ครูสามารถหานวัตกรรมที่เหมาะสมมาใช้ในการแก้ปัญหา และการนิเทศช่วยให้ครูแก้ปัญหาได้ตรงตามสภาพ ส่วนข้อที่มีความพึงพอใจน้อยที่สุดคือ การนิเทศช่วยให้ครูได้มีโอกาสศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมมากขึ้น