|
|
ชื่อผู้วิจัย : นางภพวรรณ ยิ้มสรวย
ตำแหน่ง : ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดพันปี)
สำนักการศึกษา เทศบาลนครพิษณุโลก
ปีการศึกษา : 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ดังนี้
1) เพื่อศึกษาแนวคิดเกี่ยวข้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง อาหารพื้นถิ่นเมืองสองแคว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น (3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น (3.2) เพื่อเปรียบเทียบความรู้พื้นฐาน เรื่อง ศาสตร์พระราชาระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น (3.3) เพื่อศึกษาความตระหนัก และการเห็นคุณค่าของศาสตร์พระราชา และภูมิปัญญาท้องถิ่น 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดพันปี) สำนักการศึกษา เทศบาลนครพิษณุโลก ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 28 คน จัดกิจกรรมในชั่วโมงสอนปกติสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง รวม 16 ชั่วโมง ทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน-หลังเรียน 2 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 18 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง อาหารพื้นถิ่นเมืองสองแคว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนการสอน จำนวน 16 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ แบบทดสอบวัดความรู้พื้นฐาน เรื่อง ศาสตร์พระราชา แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบประเมินความตระหนักและเห็นคุณค่าของศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าที (t-test แบบ dependent)
ผลการวิจัยพบว่า (1) ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษา โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ระดับมากที่สุด ( X-bar = 4.84, S.D. = 0.32) และผลการสัมภาษณ์ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับประถมศึกษา พบว่า จากการสังเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานทั้ง 9 ประเด็น ในภาพรวมส่วนใหญ่เทคนิค วิธีการที่ครูผู้สอนนำมาใช้จัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์มีความหลากหลาย มีทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติ ได้แก่การสอนแบบบรรยาย การลงมือปฏิบัติจริงโดยการทดลอง การทำแบบฝึกหัด การสืบค้นข้อมูลมี่ทั้งแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนและนอกโรงเรียน มีการใช้สื่อเทคโนโลยีทาง Social Network แต่ยังไม่ชัดเจนในเรื่องการส่งเสริมทักษะด้านต่างๆ การสอนแบบบูรณาการ เพื่อให้นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้ควบคู่กับความรัก และความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเองแบบยั่งยืน และเป็นรากฐานในการปรับใช้ในชีวิต การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต ผู้วิจัยได้แนวคิดที่จะนำไปพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง อาหารพื้นถิ่นเมืองสองแคว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ (2) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง อาหารพื้นถิ่นเมืองสองแคว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีองค์ประกอบ 5 องค์ประกอบหลัก คือ หลักการของรูปแบบ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผล มีกระบวนการเรียนการสอนตามรูปแบบการการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง อาหารพื้นถิ่นเมืองสองแคว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มี 5 ขั้น ประกอบด้วย 1) ขั้นตระหนักและรับรู้ 2) ขั้นเรียนรู้คู่บูรณาการ 3) ขั้นสืบเสาะและสืบสาน 4) ขั้นสรุปผลการเรียนรู้ 5) ขั้นถอดบทเรียนศาสตร์พระราชา พบว่าโดยภาพรวมรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง อาหารพื้นถิ่นเมืองสองแคว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความเหมาะสมอยู่ระดับมากที่สุด ( X-bar = 4.84, S.D.= 0.32) คู่มือการใช้รูปแบบการสอน มีความเหมาะสมอยู่ระดับมากที่สุด ( X-bar = 4.86, S.D.= 0.27) และแผนการจัดการเรียนรู้ มีความเหมาะสมอยู่ระดับมากที่สุด ( X-bar = 4.50, = 0.60) มีความเหมาะสมและสามารถนำไปทดลองใช้ได้ 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการสอนพบว่า (3.1) นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง อาหารพื้นถิ่นเมืองสองแคว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 (3.2) นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง อาหารพื้นถิ่นเมืองสองแคว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนความรู้พื้นฐาน เรื่อง ศาสตร์พระราชาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดศาสตร์พระราชาผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง อาหารพื้นถิ่นเมืองสองแคว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( X-bar= 4.42, S.D. = 0.62) 5) ผลการประเมินความตระหนักและเห็นคุณค่าของศาสตร์พระราชา และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยภาพรวมมีระดับการปฏิบัติอยู่ระดับมาก (X-bar= 4.49, S.D.= 0.58)
|
โพสต์โดย ครูลูกจันทร์ : [21 มิ.ย. 2565 เวลา 19:48 น.] อ่าน [3722] ไอพี : 118.172.202.31
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 15,312 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,418 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,150 ครั้ง
| เปิดอ่าน 66,085 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,707 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,858 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,359 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,014 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,705 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,979 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,308 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,965 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,040 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,206 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,438 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 59,467 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,895 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,896 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,152 ครั้ง
| เปิดอ่าน 67,827 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|