ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนวัดเจ้าเจ็ดใน ปีการศึกษา 2564

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนวัดเจ้าเจ็ดใน ตำบลเจ้าเจ็ด อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยใช้รูปแบบชิปป์ (CIPP Model) ซึ่งเป็นการศึกษาตามแนวคิดของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) มาใช้ประเมินโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)ประเมินบริบท (Context Evaluation) ของโครงการตามตัวชี้วัด ความต้องการจำเป็นของการทำโครงการและความเป็นไปได้ของโครงการ 2)ประเมินปัจจัยเบื้องตัน (Input Evaluation) ของโครงการตามตัวชี้วัดความเหมาะสมของบุคลากรและความเหมาะสมของกิจกรรม 3)ประเมินกระบวนการ(Process Evaluation) ของโครงการตามตัวชี้วัดการดำเนินงานของกิจกรรมและการติดตามโครงการ 4)ประเมินผลผลิต (Product Evaluation) ของโครงการตามตัวชี้วัดทักษะการอ่าน ทักษะการคิดวิเคราะห์ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย นิสัยรักการอ่านของนักเรียน และระดับความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และครู

ประชากรที่ใช้ในการประเมินโครงการครั้งนี้ มีจำนวน 231 คน ประกอบด้วย นักเรียน 1)นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 106 คน 2)ผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 - ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 106 คน 3)ครูโรงเรียนวัดเจ้าเจ็ดใน ปีการศึกษา 2564 จำนวน 10 คน 4)คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนวัดเจ้าเจ็ดใน ปีการศึกษา2564 จำนวน 9 คน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการครั้งนี้ประกอบด้วย นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 70 คน ผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 70 คน ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน ครู จำนวน 10 คน ศึกษาจากจำนวนประชากร รวมทั้งสิ้น จำนวน 157 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างได้มาจากวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน จำนวน 7 ฉบับ ประกอบด้วยแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) จำนวน 7 ฉบับ แบบบันทึก จำนวน 3 ฉบับ และแบบสัมภาษณ์ จำนวน 2 ฉบับ

สถิติที่ใช้ในการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านในครั้งนี้ ได้แก่การหาค่าความตรงเชิงเนื้อหาของเครื่องมือเก็บข้อมูล IOC โดยใช้สูตรแอลฟา หาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามโดยใช้สูตรของคอนบาร์ค สถิติวิเคราะห์ข้อมูลในการประเมิน คือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ยละส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเปรียบเทียบ คือ การเปรียบเทียบตัวชี้วัดทักษะการอ่านการคิดวิเคราะห์ ผลสัมฤทธิ์วิชาภาษาไทยของนักเรียน ใช้ t-test แบบไม่อิสระ ปีการศึกษา2564

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมินด้านบริบท (Context Evaluation) พบว่าผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากและมีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 2 ตัวชี้วัด ดังนี้

1.1 ความเป็นไปได้ของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

1.2 ความต้องการจำเป็นของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) พบว่าผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากและมีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์ประเมินทั้ง 2 ตัวชี้วัด ดังนี้

2.1 ระดับความหมาะสมของบุคลากร พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับปานกลาง

2.2 ระดับความเหมาะสมของกิจกรรม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) พบว่าผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุดและมีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 2 ตัวชี้วัด ดังนี้

3.1 ร้อยละของกิจกรรมที่ดำเนินการ ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด

3.2 ร้อยละของการติดตาม ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) พบว่าผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 8 ตัวชี้วัด ดังนี้

4.1 ทักษะการอ่าน พบว่าหลังจากเข้าร่วมโครงการแล้วนักเรียนมีทักษะการอ่านในระดับมากอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งผ่านเกณฑ์

4.2 ทักษะการคิดวิเคราะห์ พบว่าหลังจากเข้าร่วมโครงการแล้วนักเรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ในระดับป่านกลางอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งผ่านเกณฑ์

4.3 ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์วิชาภาษาไทยของนักเรียน พบว่า ร้อยละของค่าความต่างของคะแนนเฉลี่ยผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

4.4 นิสัยรักการอ่านของนักเรียน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

4.5 ความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

4.6 ความพึงพอใจของผู้ปกครอง พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

4.7 ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

4.8 ความพึงพอใจของครู พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

ผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนวัดเจ้าเจ็ดใน ปีการศึกษา 2564 ในภาพรวมพบว่าผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก ซึ่งประเด็นการประเมินทั้ง 4 ด้าน ผ่านเกณฑ์ การประเมินที่ตั้งไว้ โดยประเด็นที่ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับมากที่สุดมี 1 ประเด็น คือประเด็นกระบวนการ รองลงมาผ่านเกณฑ์การประเมินระดับมากทั้ง 3 ประเด็น คือด้านปัจจัยนำเข้าด้านบริบท และด้านผลผลิต

โพสต์โดย กานดา : [15 มิ.ย. 2565 เวลา 09:11 น.]
อ่าน [63229] ไอพี : 124.122.9.67
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,172 ครั้ง
น้ำคั้นหัวบีทรู้ท ช่วยลดความดันได้ชัวร์
น้ำคั้นหัวบีทรู้ท ช่วยลดความดันได้ชัวร์

เปิดอ่าน 1,081 ครั้ง
วิธีการลงทุนทองคำสำหรับมือใหม่: เริ่มต้นอย่างไรให้ปลอดภัย
วิธีการลงทุนทองคำสำหรับมือใหม่: เริ่มต้นอย่างไรให้ปลอดภัย

เปิดอ่าน 64,352 ครั้ง
เครื่องแบบข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ
เครื่องแบบข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ

เปิดอ่าน 13,874 ครั้ง
โลโก้ วันเด็กแห่งชาติ ปี 2563
โลโก้ วันเด็กแห่งชาติ ปี 2563

เปิดอ่าน 17,630 ครั้ง
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด

เปิดอ่าน 20,311 ครั้ง
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม

เปิดอ่าน 13,381 ครั้ง
ผิวสวย หน้าใส ด้วยมะพร้าว
ผิวสวย หน้าใส ด้วยมะพร้าว

เปิดอ่าน 26,153 ครั้ง
ส่งเครื่องมือไปพิสูจน์หลักฐานว่ามนุษย์โลกเป็น ลูกหลานดาวอังคาร
ส่งเครื่องมือไปพิสูจน์หลักฐานว่ามนุษย์โลกเป็น ลูกหลานดาวอังคาร

เปิดอ่าน 13,783 ครั้ง
12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน
12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน

เปิดอ่าน 28,628 ครั้ง
ดอกไม้ ประจำวันเกิด
ดอกไม้ ประจำวันเกิด

เปิดอ่าน 15,662 ครั้ง
เผยโฉมสาวงามทั่วโลกชิง มิสยูนิเวิร์ส 2009
เผยโฉมสาวงามทั่วโลกชิง มิสยูนิเวิร์ส 2009

เปิดอ่าน 11,645 ครั้ง
อยากได้กันมั๊ย ชมคลิปโชว์ความสามารถ Google Glass แว่นตาอัจฉริยะ
อยากได้กันมั๊ย ชมคลิปโชว์ความสามารถ Google Glass แว่นตาอัจฉริยะ

เปิดอ่าน 14,909 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 79 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถึงเวลาจัดทัพใหม่ด้านคุณภาพการศึกษา
จดหมายฉบับที่ 79 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถึงเวลาจัดทัพใหม่ด้านคุณภาพการศึกษา

เปิดอ่าน 14,777 ครั้ง
กินถั่วช่วยคุ้มกัน โรคมะเร็ง-หัวใจ
กินถั่วช่วยคุ้มกัน โรคมะเร็ง-หัวใจ

เปิดอ่าน 14,941 ครั้ง
ลูกบาศก์ของรูบิค
ลูกบาศก์ของรูบิค

เปิดอ่าน 21,380 ครั้ง
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นอกเหนือจากเงินเดือน (2)
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นอกเหนือจากเงินเดือน (2)
เปิดอ่าน 19,112 ครั้ง
ผมขอร้องนะ..ครู
ผมขอร้องนะ..ครู
เปิดอ่าน 11,153 ครั้ง
วิกฤติโลกร้อน มนุษย์ย้ายไปดาวอังคาร ปี ค.ศ.2020
วิกฤติโลกร้อน มนุษย์ย้ายไปดาวอังคาร ปี ค.ศ.2020
เปิดอ่าน 21,926 ครั้ง
ปัจจัยแห่งความล้มเหลว ในการปฏิรูปการศึกษาไทยคืออะไร โดย เพชร เหมือนพันธุ์
ปัจจัยแห่งความล้มเหลว ในการปฏิรูปการศึกษาไทยคืออะไร โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เปิดอ่าน 63,227 ครั้ง
เอกสารการใช้หลักสูตรใหม่ และทำหน่วยอิงมาตรฐานด้วยเทคนิคBackward Design ฉบับ update‏
เอกสารการใช้หลักสูตรใหม่ และทำหน่วยอิงมาตรฐานด้วยเทคนิคBackward Design ฉบับ update‏

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ