ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning สำหรับ ครูผู้สอนระดับการศึกษาภาคบังคับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2

การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning สำหรับ

ครูผู้สอนระดับการศึกษาภาคบังคับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2

มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโครงงานวิทยาศาสตร์ของ

ครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ปีการศึกษา 2561 2)สร้างคู่มือการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์

ระดับการศึกษาภาคบังคับแบบ Active Learning ปีการศึกษา 2562 3) เพื่อใช้แนวการจัดกิจกรรม

การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning สำหรับครูผู้สอนระดับการศึกษาภาคบังคับ

(ฉบับปรับปรุง) ปีการศึกษา 2563 และ4) ศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์

ด้วย Active Learning ปีการศึกษา 2564 โดยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาสภาพการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโครงงานวิทยาศาสตร์

ของครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ปีการศึกษา 2561 แหล่งข้อมูลได้แก่ครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทุกโรงเรียนๆละ 1 คน รวม185 คน เครื่องมือที่ใช้

จำนวน 1 ฉบับ มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า5 ระดับ (Rating Scale) เก็บรวบรวม

ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลโดยส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ตามระบบราชการและผู้วิจัยเก็บรวบรวม

ข้อมูลด้วยตนเองเป็นบางส่วน รวบรวมข้อมูลได้ร้อยละ 89.19 วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาค่าร้อยละ

ค่าเฉลี่ย(x̄) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)

ขั้นตอนที่ 2 การสร้างคู่มือการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับการศึกษาภาคบังคับ

แบบ Active Learning” ปีการศึกษา 2562 แหล่งข้อมูลได้แก่ครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทุกโรงเรียนๆละ 1 คน รวม185 คน เครื่องมือที่ใช้

ได้แก่ 1) คู่มือการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ระดับการศึกษาภาคบังคับแบบ Active

Learning ในปีการศึกษา 2562 2) แบบประเมินความเหมาะสมของคู่มือการจัดการเรียนรู้

โครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับการศึกษาภาคบังคับแบบ Active Learning 3) แบบสอบถามครูผู้สอน

โครงงานวิทยาศาสตร์ระดับการศึกษาภาคบังคับ แบบสอบถามมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณ

ค่า 5 ระดับ (Rating Scale) เก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลโดยส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์

ตามระบบราชการและผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองเป็นบางส่วน รวบรวมข้อมูลได้ร้อยละ

94.05 วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย(x̄) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)

ขั้นตอนที่ 3 การใช้แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active

Learning สำหรับครูผู้สอนระดับการศึกษาภาคบังคับ (ฉบับปรับปรุง) ปีการศึกษา 2563 จากการ

ทดลองใช้ในปีการศึกษา 2562 พบว่า ผลการประเมินความเหมาะสมต้องมีการปรับปรุง ผู้วิจัยจึงได้

ปรับปรุงชื่อและแยกโครงงานออกเป็น 3 เล่ม โดยปรับเป็น “แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงาน

วิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning สำหรับครูผู้สอนระดับการศึกษาภาคบังคับ (ฉบับปรับปรุง)

ปีการศึกษา 2563 และได้นำไปใช้ในปีการศึกษา 2563 แหล่งข้อมูลได้แก่ครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทุกโรงเรียนๆ ละ 1 คน รวม185 คน เครื่องมือที่ใช้

ได้แก่ 1) แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning สำหรับครูผู้สอน

ระดับการศึกษาภาคบังคับ (ฉบับปรับปรุง) ปีการศึกษา 2563 โครงงานประเภทสำรวจ ประเภท

ทดลอง และประเภทสิ่งประดิษฐ์2) แบบประเมินความเหมาะสมของแนวการจัดกิจกรรมการเรียน

การสอนโครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning สำหรับครูผู้สอนระดับการศึกษาภาคบังคับ ปี

การศึกษา 2563 โดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3) แบบสอบถามครูผู้สอนโครงงานวิทยาศาสตร์ปีการศึกษา

2563 เก็บรวบรวมข้อมูลจากครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ ที่ผ่านการอบรมโครงงานวิทยาศาสตร์โดยส่ง

หนังสือขอความอนุเคราะห์ตามระบบทางราชการและผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองเป็นบางส่วน

ได้รับแบบสอบถามคืนร้อยละ 91.35 วิเคราะห์ข้อมูลวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาค่าเฉลี่ย(x̄)และค่าส่วน

เบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)

ขั้นตอนที่ 4 การศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active

Learning ปีการศึกษา 2564 แหล่งข้อมูลได้แก่ 1) ครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทุกโรงเรียนๆ ละ 1 คน รวม 185 คน 2) นักเรียนได้จากการเลือกแบบ

เจาะจง (Purposive Selection) โดยเลือกจากนักเรียนที่มีโครงงานวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใน 131 โรงเรียน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ใน 54 โรงเรียน ๆ ละ 3

คนรวมทั้งสิ้น 555 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ 1) แบบสอบถามครูผู้สอน จำนวน 1 ฉบับ มีลักษณะเป็น

แบบมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale) 5 ระดับ 2) แบบสอบถามนักเรียนจำนวน 1 ฉบับ

มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยส่งหนังสือ

ขอความอนุเคราะห์ตามระบบทางราชการและผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองเป็นบางส่วน ได้รับ

แบบสอบถามคืนจากครูร้อยละ 85.95 และจากนักเรียนร้อยละ 85.94 วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหา

ค่าเฉลี่ย(x̄) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโครงงานวิทยาศาสตร์ ปีการศึกษา

2561 พบว่า

1.1 ครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ระดับการศึกษาภาคบังคับ มีคุณวุฒิระดับปริญญา

ตรีมากที่สุดร้อยละ 59.22 และสูงกว่าระดับปริญญาตรีร้อยละ 40.78 สำเร็จการศึกษาสาขาอื่นๆ

ร้อยละ 53.40 ส่วนสำเร็จสาขาวิทยาศาสตร์ร้อยละ 46.60

1.2 ครูมีความรู้ความเข้าใจในการจัดกิจกรรมการสอนโครงงานวิทยาศาสตร์

อยู่ในระดับปานกลาง

1.3 สภาพการจัดกิจกรรมการสอนโครงงานวิทยาศาสตร์ของครูผู้สอนอยู่ใน

ระดับปานกลาง

2. ผลการสร้างคู่มือการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ระดับการศึกษาภาคบังคับ

แบบ Active Learning ในปีการศึกษา 2562 พบว่า

2.1 ผลการพิจารณาคู่มือการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์แบบ Active

Learning โดยผู้ทรงคุณวุฒิพบว่า คู่มือโครงงานฯ ที่ใช้ในปัจจุบันรวมอยู่ในเล่มเดียวกันทั้ง 3

ประเภท ผู้ทรงคุณวุฒิมีความเห็นไม่สอดคล้องกัน แต่มีความเห็นสอดคล้องกัน ในเรื่องการแยกคู่มือ

โครงงานฯ ออกจากกัน โดยแยกออกเป็น 3 ประเภทตามลักษณะของโครงงาน

2.2 ความเหมาะสมของคู่มือการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์แบบ Active

Learning โดยครูผู้สอน พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก โดยเฉพาะการแยกคู่มือโครงงานฯ

ออกจากกันโดยแยกออกเป็น 3 ประเภทตามลักษณะของโครงงาน และความเหมาะสมที่อยู่ในระดับ

น้อย ได้แก่ คู่มือโครงงานฯ ที่ใช้ในปัจจุบันรวมอยู่ในเล่มเดียวกันทั้ง 3 ประเภทไม่เหมาะสม

2.3 ข้อมูลพื้นฐานของครูผู้สอนโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับการศึกษาภาคบังคับ

พบว่า ครูผู้สอนจบสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 41.95 ส่วนสาขาอื่น ๆ ร้อยละ 58.05

ประสบการณ์การสอนวิชาวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ 5 ปีลงไปร้อยละ 41.38 ระหว่าง 6 – 10 ปีร้อยละ

44.83 และประสบการณ์ตั้งแต่ 11 ปี ร้อยละ 13.79 ครูสอนเฉพาะกลุ่มสาระฯ/รายวิชา

วิทยาศาสตร์ร้อยละ 35.01 สอนตั้งแต่ 2 กลุ่มสาระฯ/รายวิชาขึ้นไป ร้อยละ 64.99

2.4 ความรู้ความเข้าใจของครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์

ระดับการศึกษาภาคบังคับแบบ Active Learning ในปีการศึกษา 2562 พบว่า ความรู้ความเข้าใจ

ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

2.5 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์แบบ Active Learning

ปีการศึกษา 2562 ของครูผู้สอน พบว่า ครูดำเนินการจัดกิจกรรมอยู่ในระดับมาก

2.6 ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์แบบ Active Learning

ในปีการศึกษา 2562 พบว่า ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานอยู่ในระดับมาก

3. ผลการใช้แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning

สำหรับครูผู้สอนระดับการศึกษาภาคบังคับปีการศึกษา 2563 (ฉบับปรับปรุง) เป็นผลมาจากการ

ทดลองใช้ในปีการศึกษา 2562 ที่ต้องมีการปรับชื่อและแยกโครงงานออกเป็นประเภทละ 1 เล่ม

ผลการวิจัยพบว่า

3.1 ผลการพิจารณาความตรงเชิงเนื้อหาของผู้ทรงคุณวุฒิ9 คน พบว่าโครงงาน

ประเภทสำรวจ(ฉบับปรับปรุง) โครงงานประเภททดลอง(ฉบับปรับปรุง) และโครงงานประเภท

สิ่งประดิษฐ์ (ฉบับปรับปรุง) ผู้ทรงคุณวุฒิมีความเห็นสอดคล้องกันสามารถนำไปใช้จัดกิจกรรมการ

เรียนรู้ได้

3.2 ความเหมาะสมของของแนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์

ด้วย Active Learning ปีการศึกษา 2563 (ฉบับปรับปรุง) โดยผู้ทรงคุณวุฒิ9 คน พบว่า โครงงาน

ประเภทสำรวจ โครงงานประเภททดลอง และโครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ มีความเหมาะสมอยู่ใน

ระดับมากทั้งสามโครงงาน

3.3 ความรู้ความเข้าใจของครูผู้สอน ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงาน

วิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning ปีการศึกษา 2563 อยู่ในระดับมาก

3.4 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning

ของครูผู้สอนในปีการศึกษา 2563 พบว่า ครูผู้สอนมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมากทั้งสาม

โครงงานได้แก่ โครงงานประเภทสำรวจ โครงงานประเภททดลอง และโครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์

3.5 ผลที่เกิดกับนักเรียนในการเรียนรู้ โครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning

ในปีการศึกษา 2563 พบว่า ผลที่เกิดกับนักเรียนอยู่ในระดับมาก

4. ผลการศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning

ในปีการศึกษา 2564 พบว่า

4.1 ความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงาน

วิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning พบว่า ครูมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก

4.2 ผลที่เกิดกับนักเรียนจากการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active

Learning ตามความเห็นของครูอยู่ในระดับมาก

4.3 นักเรียนที่เรียนโครงงานวิทยาศาสตร์ด้วย Active Learning ในปีการศึกษา

2564 พบว่า ด้านความรู้ความเข้าใจโครงงานวิทยาศาสตร์ ด้านการปฏิบัติกิจกรรมโครงงาน

วิทยาศาสตร์ และด้านความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์อยู่ในระดับมากทั้ง

สามด้าน

โพสต์โดย นายกันตวิชญ์ มะโนคำ : [12 มิ.ย. 2565 เวลา 12:45 น.]
อ่าน [3409] ไอพี : 49.228.238.223
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,389 ครั้ง
หนอนคืบ
หนอนคืบ

เปิดอ่าน 30,123 ครั้ง
วังสุโขทัยหรือวังศุโขทัย
วังสุโขทัยหรือวังศุโขทัย

เปิดอ่าน 11,972 ครั้ง
อย่ารีรอ !! เรื่องสุขภาพหน้าจอ
อย่ารีรอ !! เรื่องสุขภาพหน้าจอ

เปิดอ่าน 16,672 ครั้ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง

เปิดอ่าน 436 ครั้ง
ซื้อขาย มอเตอร์ไซค์กับ ENNXO แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์
ซื้อขาย มอเตอร์ไซค์กับ ENNXO แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์

เปิดอ่าน 574 ครั้ง
5 เทคนิคเลือกใช้บริการขนย้ายของที่ปลอดภัยและคุ้มค่า
5 เทคนิคเลือกใช้บริการขนย้ายของที่ปลอดภัยและคุ้มค่า

เปิดอ่าน 9,048 ครั้ง
ภัยผิวที่แฝงมากับฤดูฝน
ภัยผิวที่แฝงมากับฤดูฝน

เปิดอ่าน 62,564 ครั้ง
เอกสารการใช้หลักสูตรใหม่ และทำหน่วยอิงมาตรฐานด้วยเทคนิคBackward Design ฉบับ update‏
เอกสารการใช้หลักสูตรใหม่ และทำหน่วยอิงมาตรฐานด้วยเทคนิคBackward Design ฉบับ update‏

เปิดอ่าน 21,491 ครั้ง
ออมเงิน..คนเงินเดือนน้อย
ออมเงิน..คนเงินเดือนน้อย

เปิดอ่าน 30,680 ครั้ง
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?

เปิดอ่าน 14,841 ครั้ง
อาการแบบไหนที่เรียกว่ากำลังขาดวิตามินซี
อาการแบบไหนที่เรียกว่ากำลังขาดวิตามินซี

เปิดอ่าน 20,342 ครั้ง
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 2
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 2

เปิดอ่าน 15,484 ครั้ง
ปีใหม่แล้ว.....แต่การศึกษาไทยยังบ้าไม่เลิก!
ปีใหม่แล้ว.....แต่การศึกษาไทยยังบ้าไม่เลิก!

เปิดอ่าน 28,153 ครั้ง
พิธีวิวาห์ซาไก
พิธีวิวาห์ซาไก

เปิดอ่าน 16,612 ครั้ง
เด็กกับโรคหวัด
เด็กกับโรคหวัด

เปิดอ่าน 15,906 ครั้ง
การพิมพ์ TILDE ( ~ ) ใน Windows 7
การพิมพ์ TILDE ( ~ ) ใน Windows 7
เปิดอ่าน 12,786 ครั้ง
วิธีถ่ายรูปให้ดูดีกว่าตัวจริง
วิธีถ่ายรูปให้ดูดีกว่าตัวจริง
เปิดอ่าน 32,460 ครั้ง
หลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก่อนแต่งตั้งให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ
หลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก่อนแต่งตั้งให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ
เปิดอ่าน 147,275 ครั้ง
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7
เปิดอ่าน 12,989 ครั้ง
กรมอุตุฯเตือนภัยพายุฤดูร้อนในประเทศไทย
กรมอุตุฯเตือนภัยพายุฤดูร้อนในประเทศไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ