ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบปัญหาร่วมกับสร้างสรรค์เป็นฐานภายใต้เมกเกอร์สเปซ (The Creative Maker) เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและทักษะการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึ

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนการสอนแบบปัญหาร่วมกับสร้างสรรค์เป็นฐาน ภายใต้เมกเกอร์สเปซ (The Creative Maker)

แนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน มาจากทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism Theory) เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความขัดแย้งทางปัญญาเพื่อให้ผู้เรียนปรับโครงสร้างทางปัญญา โดยการจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานก็มีพื้นฐานมาจากการสร้างความรู้ด้วยตนเอง โดยผู้วิจัยได้สังเคราะห์ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน จากนักการศึกษา 8 ท่าน ได้ผลการสังเคราะห์ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ดังต่อไปนี้ 1) ทำความเข้าใจสถานการณ์ปัญหา 2) ระบุปัญหาในสถานการณ์ 3) วิเคราะห์ปัญหา 4) ตั้งสมมติฐาน 5) กำหนดวัตถุประสงค์การแก้ปัญหา 6) ดำเนินการแก้ปัญหา 7) สังเคราะห์ความรู้ 8) ประเมินคุณค่าของคำตอบ 9) นำเสนอ อภิปราย และสรุปผลการเรียนรู้

แนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานทฤษฎี Constructionism มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองในด้านการใช้สื่อ เทคโนโลยี วัสดุ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เหมาะสมในการให้ผู้เรียนสร้างผลงานต่างๆ ด้วยตนเอง การจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี ผู้วิจัยได้สังเคราะห์ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน จากนักการศึกษา 6 ท่าน ได้ผลการสังเคราะห์ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ดังต่อไปนี้ 1) สร้างแรงบันดาลใจการสร้างสรรค์ 2) การตั้งปัญหาและแบ่งกลุ่ม 3) ค้นคว้าหาความรู้เพื่อเป็นฐานการสร้างสรรค์ 4) สร้างสรรค์ผลงาน 5) นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ 6) ประเมินผลงานสร้างสรรค์

แนวคิดเมกเกอร์สเปซ (makerspace) เพื่อการศึกษา เป็นแนวคิดที่ผู้เรียนได้สร้างความรู้ด้วยตนเอง โดยผ่านการสร้างสรรค์ผลงานหรือชิ้นงานที่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้บรรยากาศในการจัดกิจกรรมจะต้องเอื้อให้นักเรียนได้คิดค้น ประดิษฐ์และสร้างความสนใจ

จากการสังเคราะห์แนวทางการจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานและแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน ผู้วิจัยได้บูรณาการขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ทั้งสองการจัดการเรียนรู้ ภายใต้แนวคิดเมกเกอร์สเปซเพื่อการศึกษา ดังรายละเอียดของแต่ละขั้นตอนเป็นดังนี้

ขั้นที่ 1 สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ (Inspire to be creative)

ผู้สอนตรวจสอบความรู้เดิม (prior knowledge) ของผู้เรียนโดยใช้การทดสอบก่อนเรียน (pre-test) หรือการซักถามเพื่อให้มั่นใจว่า มีความรู้เดิมที่เพียงพอต่อการเรียนเรื่องใหม่ จากนั้นผู้สอนกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจ (inspiration) ในการสร้างสรรค์ให้แก่ผู้เรียนด้วยสื่อและวิธีการที่น่าสนใจและหลากหลาย เช่น ใช้เหตุการณ์หรือสถานการณ์ปัญหาที่น่าสนใจที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้เรียนและสอดคล้องกับสาระการเรียนรู้เป้าหมาย หรือการใช้สื่อมัลติมีเดีย คลิปวิดีทัศน์ ภาพยนตร์สั้น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับบทเรียน

ขั้นที่ 2 ระบุปัญหาและหาทางแก้ไข (Identify the problem and find solutions)

ผู้สอนให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มแบบคละความสามารถเก่ง ปานกลาง และอ่อน (mixed abilities group) จากนั้นให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทำความเข้าใจสถานการณ์ปัญหา ระบุปัญหาที่กลุ่มสนใจจะแก้ปัญหา ผู้เรียนทุกกลุ่มร่วมกันเลือกปัญหาของชั้นเรียน จากนั้นแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาอย่างละเอียดในแง่มุมต่าง ๆ เช่น ลักษณะของปัญหา สาเหตุของปัญหา แนวทางการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ เงื่อนไขหรือปัจจัยในการแก้ปัญหา สิ่งที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม เป็นต้น โดยผู้สอนเป็นผู้กระตุ้น ให้คำปรึกษา และส่งเสริมให้ผู้เรียนร่วมกันทำงาน

ขั้นที่ 3 ตั้งสมมติฐานและกำหนดวัตถุประสงค์การแก้ปัญหา (Set hypothesis and problem solving goal)

ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันระดมสมองเพื่อตั้งสมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับ โดยอาจตั้งได้มากกว่า 1 สมมติฐาน ในกรณีนี้ผู้เรียนต้องจัดลำดับความสำคัญของสมมติฐาน จากนั้นให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันกำหนดวัตถุประสงค์การแก้ปัญหา โดยผู้สอนเป็นผู้ให้คำปรึกษาการตั้งสมมติฐานและการกำหนดวัตถุประสงค์การแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาที่ยกมา และออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาและคัดเลือกแนวทางการแก้ปัญหาที่เหมาะสมตามความคิดเห็นของกลุ่ม

ขั้นที่ 4 ดำเนินการแก้ปัญหาเพื่อเป็นฐานการสร้างสรรค์(Solve the problem for creating)

ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันดำเนินการแก้ปัญหาตามแนวทางที่ได้ออกแบบไว้ พร้อมทั้งระดมสมองเพื่อระบุแนวทางการสร้างสรรค์แนวคิดหรือชิ้นงานใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการแก้ปัญหานั้น ๆ ผู้สอนคอยกระตุ้น ให้กำลังใจ ชี้แนะแนวทางเพื่อให้ผู้เรียนสามารถสร้างสรรค์แนวคิดหรือชิ้นงานใหม่ได้ และป้องกันความคลาดเคลื่อนในการทำกิจกรรม

ขั้นที่ 5 สร้างสรรค์ผลงาน (Create the product)

ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานหรือชิ้นงานตามแนวทางที่ผ่านการระดมสมองในขั้นตอนก่อนหน้านี้ โดยผู้สอนคอยสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ ชี้แนะและให้กำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานหรือชิ้นงาน

ขั้นที่ 6 นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ (Present the created product)

ผู้เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานหรือชิ้นงานสร้างสรรค์ต่อเพื่อนร่วมชั้นและผู้สอนโดยใช้สื่อและวิธีการที่หลากหลายและน่าสนใจ เช่น Info graphic บทบาทสมมติ ละครสั้น คลิปวิดีทัศน์ ภาพยนตร์สั้น จากนั้นเพื่อนร่วมชั้นและผู้สอนร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์ (critique) และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงผลงานหรือชิ้นงานสร้างสรรค์

ขั้นที่ 7 ขั้นประเมินผลงานและสรุปผลการเรียนรู้ (Evaluate and summarize learning)

ผู้เรียนแต่ละกลุ่มประเมินผลงานหรือชิ้นงานสร้างสรรค์ของกลุ่มตนเอง (self-assessment) และกลุ่มเพื่อน (peer-assessment) ครูประเมินผลงานของนักเรียนตามสภาพจริง (authentic assessment) โดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้จากนั้นผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้จากการสร้างสรรค์ผลงานหรือชิ้นงานโดยอาจแบ่งเป็นการเรียนรู้ด้านความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์

โพสต์โดย สลิลทิพย์ : [12 มิ.ย. 2565 เวลา 02:36 น.]
อ่าน [2606] ไอพี : 113.53.42.150
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,919 ครั้ง
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม

เปิดอ่าน 14,843 ครั้ง
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59

เปิดอ่าน 18,439 ครั้ง
เฉาก๊วยทำมาจากอะไร
เฉาก๊วยทำมาจากอะไร

เปิดอ่าน 9,584 ครั้ง
วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด
วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด

เปิดอ่าน 16,641 ครั้ง
กระเทียม....เปี่ยมคุณค่า
กระเทียม....เปี่ยมคุณค่า

เปิดอ่าน 47,889 ครั้ง
111 ประโยคอังกฤษสั้นๆ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา
111 ประโยคอังกฤษสั้นๆ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา

เปิดอ่าน 17,258 ครั้ง
การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ตอน1
การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ตอน1

เปิดอ่าน 32,977 ครั้ง
วัสดุในชีวิตประจำวัน
วัสดุในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 31,683 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 6 ผู้ตัดสินที่ 2 (THE SECOND REFEREE)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 6 ผู้ตัดสินที่ 2 (THE SECOND REFEREE)

เปิดอ่าน 13,113 ครั้ง
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้

เปิดอ่าน 44,095 ครั้ง
ประโยชน์ของดวงอาทิตย์
ประโยชน์ของดวงอาทิตย์

เปิดอ่าน 15,180 ครั้ง
แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

เปิดอ่าน 7,974 ครั้ง
แนะพ่อแม่เลือกเฟ้น หลีกของเล่นอันตราย
แนะพ่อแม่เลือกเฟ้น หลีกของเล่นอันตราย

เปิดอ่าน 11,322 ครั้ง
เตือนเด็กต่ำกว่า 16 ใช้มือถือ เสี่ยง 5 เท่า เนื้องอกสมอง
เตือนเด็กต่ำกว่า 16 ใช้มือถือ เสี่ยง 5 เท่า เนื้องอกสมอง

เปิดอ่าน 9,658 ครั้ง
อันตรายจากการกินของดอง
อันตรายจากการกินของดอง

เปิดอ่าน 22,125 ครั้ง
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์
เปิดอ่าน 133,539 ครั้ง
รวมพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการศึกษา
รวมพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการศึกษา
เปิดอ่าน 25,851 ครั้ง
ราคามาตรฐานครุภัณฑ์
ราคามาตรฐานครุภัณฑ์
เปิดอ่าน 1,285 ครั้ง
ซอฟต์แวร์สร้างศักยภาพให้โลกใบนี้
ซอฟต์แวร์สร้างศักยภาพให้โลกใบนี้
เปิดอ่าน 8,512 ครั้ง
17 วิธี Refresh สุขภาพแบบฮอต ฮอต
17 วิธี Refresh สุขภาพแบบฮอต ฮอต

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ