ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1

ชื่อ การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนนามลวิทยาคาร

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1

ผู้เสนอผลงาน นายเสริม เถรี

โรงเรียน นามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1

ปีที่พิมพ์ 2563

…………………………………

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1ครั้งนี้ ผู้ประเมินดำเนินการประเมินโดยใช้รูปแบบจำลอง CIPP Model มีความมุ่งหมายเพื่อ1) ประเมินสภาวะแวดล้อม(Context evaluation)เกี่ยวกับ ความพร้อม ความเหมาะสมของสถานศึกษา ความต้องการ ความเป็นประโยชน์ ความสอดคล้องกับกฎหมาย นโยบายและสนองความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 2) เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้า (Input evaluation) เกี่ยวกับทรัพยากรบุคคล งบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์และการบริหารงาน มีความพอเพียง เหมาะสมกับการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 3) เพื่อประเมินกระบวนการ ( Process evaluation) เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์โครงการสอดคล้อง กับเป้าหมาย มีการวางแผน การดำเนินงาน การกำกับติดตาม และประเมินผลของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1และ 4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการ ในด้าน 4.1) พฤติกรรมการอ่านและผลการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 และ 4.2) ความพึงพอใจของครูและนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมตามโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1กลุ่ม ประชากรและกลุ่มตัวอย่างจำนวน 254 คนได้แก่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 9 คน ครูจำนวน 15 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาศึกษาปีที่ 3 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที 3 จำนวน 115 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาศึกษาปีที่ 3 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที 3 ได้มาโดยเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.แบบประเมินมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale) จำนวน 5 ฉบับเพื่อประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1ทั้ง 4 ด้าน คือด้านสภาวะแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และประเมินผลการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาศึกษาปีที่ 3 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที 3 และประเภทที่ 2 แบบสอบถาม เป็นแบบสอบถามความพึงพอใจของครูและนักเรียนชั้นประถมศึกษาศึกษาปีที่ 3 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินพบว่า

1.การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก (μ= 4.25,σ= 0.62) เรียงอันดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรกคือด้านผลผลิต (μ= 4.50,σ= 0.61) ด้านกระบวนการ (μ= 4.48,σ= 0.67) และด้านปัจจัยนำเข้า (μ= 4.34 σ= 0.60)

2. ด้านสภาวะแวดล้อมโดยรวมอยู่ในระดับมาก (μ= 4.25,σ= 0.32) เรียงอันดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรกคือวัตถุประสงค์ของโครงการฯมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมสามารถนําไปปฏิบัติได้จริง (μ= 4.85,σ= 0.41) วัตถุประสงค์ของโครงการฯมีความสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนและชุมชน(μ= 4.50,σ= 0.84) วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการมีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมรักการอ่าน ( μ= 4.49,σ= 0.64)

3.การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงาน เขต 1 พื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 ด้านปัจจัยนำเข้าโดยรวมอยู่ในระดับมาก (μ= 4.34,σ= 0.60) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุดเรียงอันดับค่าเฉลี่ยจากน้อยไปหามาก 3 อันดับแรกคือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษามีส่วนร่วมในการจัดทำแผนงาน/โครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน(μ= 4.67,σ= 0.52) มีการจัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เอื้อต่อการอ่าน (μ= 4.67,σ= 0.52) สถานที่สำหรับใช้ปฏิบัติกิจกรรมตามโครงการและมีแผนงาน/โครงการที่ชัดเจน (μ= 4.53,σ= 0.55)

4.การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัดสำนัก งานเขต 1 พื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 ด้านกระบวนการ พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก (μ= 4.48,σ= 0.67) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด เรียงอันดับค่าเฉลี่ยจาก มากไปหาน้อย 3 อันดับแรกคือ มีการประสานงานระหว่างครูกับผู้ปกครองนักเรียนในการทำแบบบันทึกการอ่านอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ (μ= 4.70,σ= 0.55) มีการส่งเสริมให้ครูและบุคลากร,นักเรียนได้รวบรวมองค์ความรู้ที่ได้จากการอ่านและจัดทำรายงาน (μ= 4.69,σ= 0.61)และ มีการสร้างแรงจูงใจ สนับสนุนให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน.(μ= 4.60,σ= 0.59)

5.การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัด สำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 ด้านผลผลิต พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก (μ= 4.50,σ= 0.60) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุดเรียงอันดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรกคือ อ่านเป็นจับประเด็นได้ (μ= 4.53,σ= 0.58) ผลการดำเนินกิจกรรมทำให้นักเรียนอ่านออกเสียง และจับใจความได้ดีขึ้น นักเรียนสามารถวิเคราะห์เรื่องจากการอ่านอย่างถูกต้องและนักเรียนสามารถจับประเด็นเรื่องราวที่ได้จากการอ่านได้อย่างถูกต้อง กิจกรรมยอดรัก นักอ่าน(μ= 4.51,σ= 0.59) ผลการดำเนินกิจกรรมทำให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านมากขึ้น นักเรียนชอบเข้าห้องสุมดบ่อยขึ้น นักเรียนอ่านหนังสือได้ถูกต้องมากขึ้นและที่คั่นหนังสือสื่อความรู้ (μ= 4.51,σ= 0.65) ผลการดำเนินกิจกรรมทำให้นักเรียนสามารถนำคำคมที่นักเรียนอ่านแล้วประทับใจนำมาเขียนลงในที่คั่นหนังสือได้ นักเรียนสามารถอ่านคำหรือประโยคที่อยู่ในที่คั่นหนังสือได้และนักเรียนสามารถบอกความหมายของคำหรือประโยคในที่คั่นหนังสือได้

6. ความพึงพอใจของครูและนักเรียนฯ พบว่า ครูและนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 มีความพึงพอใจต่อมีต่อการจัดกิจกรรมส่งเสริมรักการอ่านตามโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (μ= 4.52,σ= 0.64) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าอยู่ในระดับมาก ถึงมากที่สุดเรียงอันดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรกคือการจัดกิจกรรมส่งเสริมรักการอ่านให้นักเรียนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มและรายบุคคล(μ= 4.53,σ= 0.61) กิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียนมีการจดบันทึกข้อความหรือเนื้อเรื่องที่น่าสนใจจากการอ่านโดยเริ่มจากการบันทึกด้วยข้อความสั้น ๆ แล้วเพิ่มความยาวของเนื้อหาขึ้นไปตามลำดับ (μ= 4.53,σ= 0.62) และการจัดกิจกรรมส่งเสริม รักการอ่านให้นักเรียนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มและรายบุคคล(μ= 4.53,σ= 0.64)

7.การประเมินผลการอ่านนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียน นามลวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 มีผลการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (μ= 4.51,σ= 0.60) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าอยู่ในระดับมากถึง มากที่สุดเรียงอันดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรกคือ มีการแลกเปลี่ยนหนังสืออ่าน กับเพื่อนเสมอ (μ= 4.55,σ= 0.65) เข้าใจในเรื่องที่อ่าน (μ= 4.54,σ= 0.51) และเห็นคุณค่า ของการอ่าน (μ= 4.53,σ= 0.51)

Abstract

The Evaluation of the Project on Promoting Reading Habits of Namol Wittayakarn School under the Office of Kalasin Primary Educational Service Area

This research was studied by using CIPP Model and the objectives of this research were: 1) to evaluate the context of the readiness, appropriation, requirement, usefulness, agreement of law, the policy and students, parents, and community from all the participants in the process of the project on promoting reading habits 2) to evaluate input of human resources, budget, materials and management of the project reading habits 3) to evaluate the agreement of process of the project on promoting reading habits and the planning, following up and evaluation the result of the project reading habits 4) to evaluate the output of the project on promoting reading habits in two aspects: 4.1) Prathomsuksa 3 to Mattayomsuksa students’ reading behavior and the reading result of 3 students. 4.2) Students and teachers’ satisfaction with the project on promoting reading habits. The sample of this research was 254 participants including with; 9 the committee of basic educational school, 15 teachers, 115 Prathomsuksa 3 to Mattayomsuksa Students, and the parents these students. It is using Purposive Sampling. The tools used to collect data were 1)five rating scales using for evaluating the project on promoting based on CIPP Model, consisted of 4 aspects: context, input, process, and output and result of reading evaluation of Prathomsuksa 3 to Mattayomsuksa students. 2) The questionnaire used to evaluate the teachers and students’ satisfaction with the project on promoting reading habits. The data was analyzed by using percentage, mean and standard deviation.

The Result of Evaluation

1. The overall of evaluation of the project on promoting reading habits of Namol Wittayakarn School under the office of Kalasin Primary Educational Service area 1 were at high level (μ= 4.25,σ= 0.62) by sorted mean from high to low as follows. The highest aspect was the output (μ= 4.50,σ= 0.61). The second aspect was the process (μ= 4.48,σ= 0.67) and the least aspect is input(μ= 4.34 σ= 0.60)

2. The overall of context of the evaluation of project on promoting reading habits of Namol Wittayakarn School under the office of Kalasin Primary Educational Service Area 1 were at high level (μ= 4.25,σ= 0.32) by sorted mean from high to low as follows. The highest objective of the project was clear and it was practical (μ= 4.85,σ= 0.41). The objective of the project was relevant to the school and community environment (μ= 4.50,σ= 0.84). The least objective and the aims of the project was relevant to the appropriate environment for promoting reading habits operation (μ= 4.49,σ= 0.64).

3. The overall of input of the evaluation project on promoting reading habits of Namol Wittayakarn School under the Office of Kalasin Primary Educational Service Area 1 were at high level (μ= 4.34,σ= 0.60). The consideration revealed that the highest input was the participants of the project by planning and operating the activities for promoting students’ reading habits (μ= 4.67,σ= 0.52). The operating of suitable environment and atmosphere for reading (μ= 4.67,σ= 0.52). The location for operating the activities of the project and there was obvious project plan (μ= 4.53, σ= 0.55).

4. The overall of process of the evaluation of project of promoting reading habits of Namol Wittayakarn School under the Office of Kalasin Primary Educational Service Area 1 were at high level (μ= 4.48,σ= 0.67) by sorted mean from high to low as follows. The highest level was co-operation between teachers and parents in reading record regularly (μ= 4.70,σ= 0.55). There was the support of teachers and students compile explicit knowledge from reading and operating report (μ= 4.69, σ= 0.61). There was influence and motivation on students’ reading habit (μ= 4.60, σ= 0.59).

5. The overall of process of the evaluation of project of promoting reading habits of Namol Wittayakarn School under the Office of Kalasin Primary Educational Service Area 1 were at high level (μ= 4.50,σ= 0.60) by sorted mean from high to low as follows. The highest level was capture reading (μ= 4.53,σ= 0.58). The results were: students were able to get better on reading aloud and getting main idea. The students were able to analyze the story correctly and capture from the story correctly (μ= 4.51,σ= 0.59). The result of operating the passion of reading promoted the students get more passionate on reading. The students come to the library more often and they were able to read correctly. Bookmark (μ= 4.51,σ= 0.65). The result of operating this activity can promote the students can pick the favorite motto to write down on the bookmark. The students were able to read the motto that written on the bookmark and tell the meaning.

6. The Prathomsuksa 3 to Mattayomsuksa 3 students and teachers’ satisfaction of Namol Wittayakarn School under the Office of Kalasin Primary Educational Service Area 1 revealed the results were at high level. The students and teachers satisfied with the operating of promoting the activities for reading (μ= 4.52,σ= 0.64) by sorted mean from highest to high as follows. The operating of promoting students’ reading can lead the students worked with their classmates and work individually (μ= 4.53,σ= 0.61). The activities that promoted the students took note the interesting sentence from the story with the short words or short sentences and literally increase the length of the words or sentences (μ= 4.53,σ= 0.62). And the promoting students’ reading habit activities worked in group and individual. (μ= 4.53,σ= 0.64)

7. The Prathomsuksa 3 to Mattayomsuksa 3 students and teachers’ reading result of Namol Wittayakarn School under the Office of Kalasin Primary Educational Service Area 1 revealed the results were at the highest level (μ= 4.51,σ= 0.60) by sorted mean from highest to high as follows. The students always exchanged the books with their friends (μ= 4.55,σ= 0.65). The students were able to understand the stories (μ= 4.54,σ= 0.51). And the students realized the value of reading (μ= 4.53,σ= 0.51).

โพสต์โดย serm_teree : [6 มิ.ย. 2565 เวลา 14:22 น.]
อ่าน [3441] ไอพี : 223.206.235.112
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 32,197 ครั้ง
"ฮาร์เล็ม เชค (Harlem Shake)" ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดแล้ว มาชมคลิปกันครับ
"ฮาร์เล็ม เชค (Harlem Shake)" ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดแล้ว มาชมคลิปกันครับ

เปิดอ่าน 17,382 ครั้ง
เคล็ดลับเร่ง "ผม" ให้ยาวเร็วขึ้น
เคล็ดลับเร่ง "ผม" ให้ยาวเร็วขึ้น

เปิดอ่าน 18,241 ครั้ง
วันออกพรรษา
วันออกพรรษา

เปิดอ่าน 17,566 ครั้ง
คลิปข่าวทุจริตสอบ ล่าสุดจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ 9 มี.ค.56
คลิปข่าวทุจริตสอบ ล่าสุดจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ 9 มี.ค.56

เปิดอ่าน 26,391 ครั้ง
วิธีลดต้นขา แบบญี่ปุ่น ง่ายๆ ไม่เสียตังค์
วิธีลดต้นขา แบบญี่ปุ่น ง่ายๆ ไม่เสียตังค์

เปิดอ่าน 13,705 ครั้ง
5 สุดยอดมอยส์เจอไรเซอร์ที่หาได้จากในครัว!
5 สุดยอดมอยส์เจอไรเซอร์ที่หาได้จากในครัว!

เปิดอ่าน 12,390 ครั้ง
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?

เปิดอ่าน 20,870 ครั้ง
ร่าง พรบ.ระเบียบข้าราชการครูฯ (ฉบับที่.) พ.ศ....
ร่าง พรบ.ระเบียบข้าราชการครูฯ (ฉบับที่.) พ.ศ....

เปิดอ่าน 20,844 ครั้ง
ภาษาพูด
ภาษาพูด

เปิดอ่าน 13,159 ครั้ง
วาซาบิ
วาซาบิ

เปิดอ่าน 30,676 ครั้ง
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?

เปิดอ่าน 15,971 ครั้ง
ชาวเน็ตชื่นชมมาก วงดนตรีเด็ก ร.ร.เล็กในทุ่งกว้าง
ชาวเน็ตชื่นชมมาก วงดนตรีเด็ก ร.ร.เล็กในทุ่งกว้าง

เปิดอ่าน 36,931 ครั้ง
เจ๋งอะ! มาดูวิธีวาดภาพสามมิติแบบง่ายๆ กัน
เจ๋งอะ! มาดูวิธีวาดภาพสามมิติแบบง่ายๆ กัน

เปิดอ่าน 11,929 ครั้ง
ดื่มนม วิธีเสริมแคลเซียมอย่างประหยัด
ดื่มนม วิธีเสริมแคลเซียมอย่างประหยัด

เปิดอ่าน 23,873 ครั้ง
10 สุดยอดโปรแกรมป้องกันไวรัส ฟรี!! ปี 2013
10 สุดยอดโปรแกรมป้องกันไวรัส ฟรี!! ปี 2013

เปิดอ่าน 14,010 ครั้ง
ทำโยคะบนใบหน้าตนเอง เพื่อใบหน้าเต่งตึง
ทำโยคะบนใบหน้าตนเอง เพื่อใบหน้าเต่งตึง
เปิดอ่าน 14,738 ครั้ง
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?
เปิดอ่าน 10,268 ครั้ง
"โรงเรียนนิติบุคคล" ปฏิรูปการศึกษา...เกิดขึ้นจริง
"โรงเรียนนิติบุคคล" ปฏิรูปการศึกษา...เกิดขึ้นจริง
เปิดอ่าน 14,868 ครั้ง
ประเทศไทยเคยเกิด "ฮีทเวฟ" หรือไม่ ?
ประเทศไทยเคยเกิด "ฮีทเวฟ" หรือไม่ ?
เปิดอ่าน 15,187 ครั้ง
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ