ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การวิจัยเกี่ยวกับผลการจัดประสบการณ์โดยใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบ

รายงานการวิจัยในชั้นเรียน

เรื่อง การวิจัยเกี่ยวกับผลการจัดประสบการณ์โดยใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบ

ชื่อผู้วิจัย ครูสร้อยสุดา สาสะเดาะห์

ความสำคัญและที่มา

การเตรียมเด็กให้สงบในกาในการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เป็นการฝึกให้เด็กมีวินัยเป็นคุณลักษณะที่ควรปลูกจิตสำนึกทางด้านจิตใจและพฤติกรรมที่สร้างให้เด็กมีความสามารถควบคุมตนเองและปฏิบัติตนตามระเบียบ เพื่อมีสมาธิในการรับฟังและการโต้ตอบในขณะที่เข้าร่วมกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ โดยมิต้องให้ใครบังคับ จึงควรปลูกฝังให้เด็กตั้งแต่อายุ 3 – 4 ปี ได้รับการฝึกจากสื่อง่าย ๆ ไม่สลับซับซ้อนเป็นการสร้างวินัยและความมั่นใจให้กับเด็ก ดัง (กุลยา ตันติพลาลีวะ. 2542) กล่าวไว้ว่า การสร้างความมั่นใจให้กับเด็กจากการเรียนรู้ที่ใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบและเรียนรู้อย่างมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาในขั้นต่อไป

ในการจัดประสบการณ์ การเตรียมเด็กให้สงบโดยใช้สื่อ ผู้วิจัยมีความสนใจที่จะศึกษาเด็กหญิงภัครภิรมย์ ทองล้วน นักเรียนอนุบาล 4 ขวบ ที่มีปัญหาในการเรียนรู้และการปรับพฤติกรรมการฟังและการตอบคำถาม ซึ่งเป็นปัญหาในการสื่อสารและการโต้ตอบจากการจัดประสบการณ์ เพื่อพัฒนาการให้ครบทั้ง 4 ด้าน และสอดคล้องกับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของเด็กปฐมวัย

จุดมุ่งหมาย

1. เพื่อฝึกเด็กให้ปรับพฤติกรรมในด้านการฟังและการสงบนิ่ง

2. เพื่อฝึกให้เด็กเรียนรู้จากรูปธรรมไปหานามธรรมได้

ตัวแปรที่ศึกษา

1. ตัวแปรต้น ในการจัดกิจกรรม 2 แบบ คือ

1.1 การใช้สื่อในการเตรียมให้เด็กสงบก่อนจัดกิจกรรม

1.2 การสอนปกติโดยไม่ต้องใช้สื่อเตรียมเด็ก

2. ตัวแปรตาม ได้แก่ การเตรียมสื่อให้เด็กสงบก่อนจัดกิจกรรม 2 ด้าน คือ

2.1 การควบคุมตนเอง

2.2 การแสดงความคิดเห็น

กรอบแนวคิดในการวิจัย

การควบคุมตนเอง

การแสดงความคิดเห็น

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. เด็กที่ได้รับการจัดกิจกรรมโดยใช้สื่อเตรียมให้สงบจะมีการควบคุมตนเองได้ดีขึ้นและกล้าแสดงความคิดเห็น

2. เด็กที่จัดประสบการณ์โดยไม่ใช้สื่อจะขาดการควบคุมตนเองและขาดสมาธิในการฟัง

ขอบเขตในการวิจัย

ประชากรที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ เป็นเด็กนักเรียนในระดับอนุบาล 3 ขวบ อายุ 3- 4 ปี ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านไก่คำ จำนวน 22 คน แบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม ใช้วิธีการจัดประสบการณ์โดยจัดกลุ่มที่ 1 ใช้วิธีจัดประสบการณ์โดยไม่ใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบจัดประสบการณ์ตามแผนที่วางไว้ กลุ่มที่ 2 ใช้วิธีจัดประสบการณ์โดยใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบก่อนจัดประสบการณ์ตามแผนที่วางไว้ โดยให้ภัครภิรมย์ ทองล้วน ได้เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 2 กลุ่ม ใช้แบบทดสอบประเมินพฤติกรรมโดยหาค่าความต่างจากการสังเกตในระดับ ดี ปานกลาง และควรเสริม

วิธีดำเนินการวิจัย

1. เตรียมศึกษาแผนจัดประสบการณ์ในแต่ละสัปดาห์ โดยการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่มในการทดลองวิจัย

2. ผลิตสื่อตรงกับแผนจัดประสบการณ์

3. สังเกตการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มของภัครภิรมย์ ทองล้วน ในแต่ละกิจกรรมของแต่ละกลุ่ม

4. ประเมินผลจากการสังเกตภัครภิรมย์ ทองล้วน ในแต่ละกิจกรรม

5. บันทึกผลการทดสอบและการตอบคำถามในแต่ละกิจกรรม

6. สรุปผลการวิจัย

เครื่องมือในการวิจัย

1. นิทาน

2. เพลง

3. คำคล้องจอง

ผลการวิเคราะห์

จากการจัดประสบการณ์ให้กับภัครภิรมย์ ทองล้วน ทั้งแบบไม่ใช้สื่อและใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบ ผู้วิจัยได้ทำการทดสอบเด็กโดยใช้แบบทดสอบ มีผลปรากฎดังนี้

การจัดประสบการณ์โดยไม่ใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบ

การจัดประสบการณ์โดยใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบ

จากแผนภูมิจะพบว่า การจัดประสบการณ์โดยไม่ใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบนั้น ในแต่ละกิจกรรมที่ครูกำหนดขึ้นภัครภิรมย์ ทองล้วน จะมีผลการประเมินในระดับปานกลาง และควรเสริม ทุกกิจกรรม ในขณะเดียวกันการจัดประสบการณ์โดยใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบ จะพบว่า ภัครภิรมย์ ทองล้วน มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีทุกกิจกรรม

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าการจัดประสบการณ์โดยใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของภัครภิรมย์ ทองล้วน ได้

สรุปผล

การจัดประสบการณ์โดยใช้สื่อเตรียมเด็กให้สงบนั้น เป็นกิจกรรมที่เหมาะกับเด็กหญิงภัครภิรมย์ ทองล้วน เป็นอย่างมาก ในแต่ละกิจกรรมเมื่อมีสื่อเด็กจะให้ความสนใจกับการจัดกิจกรรมที่มีสื่อในการปฏิบัติจริง เพราะเป็นการกระตุ้นความสนใจเด็กให้มีสมาธิในด้านต่าง ๆ และจินตนาการคล้อยตามจากรูปธรรมไปหานามธรรมได้ดี ทั้งนี้ยังเปลี่ยนอิริยาบทให้เด็กเกิดความสนใจในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากสื่อได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ซึ่งเด็กหญิงภัครภิรมย์ ทองล้วน จะมีพฤติกรรมปรับเปลี่ยนไปอย่างมาก เกิดความสนุกสนาน ได้แสดงท่าทางต่าง ๆ อย่างตั้งใจและอยู่นิ่งได้ พร้อมที่จะเริ่มกิจกรรมใหม่ต่อไป การรอคอยก่อนหลังได้ดีตามกติกาที่ตกลงร่วมกัน

ในด้านกิจกรรมที่ไม่มีการเตรียมเด็กให้สงบก่อนเข้าร่วมกิจกรรมนั้น เด็กหญิงภัครภิรมย์ ทองล้วน จะไม่อยู่นิ่งหันหน้าคุยกับเพื่อนตลอด ไม่ค่อยฟังคำสั่ง ไม่ตอบคำถามบางครั้ง ร้องไห้เมื่อปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับเพื่อนไม่ได้ ไม่สนใจกิจกรรมที่ครูจัดให้

ดังนั้นจากการจัดกิจกรรมโดยการใช้สื่อในการเตรียมให้เด็กสงบก่อนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ จีงมีประโยชน์ในการจัดกิจกรรมให้กับเด็กหญิงภัครภิรมย์ ทองล้วน เป็นอย่างมากและควรได้รับการฝึกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนในระดับสูงต่อไป

ข้อคิดที่ได้จากการวิจัย

การจัดกรรมต่าง ๆ ที่ไม่มีการเตรียมเด็กให้สงบจะมีผลเสียทั้งเด็กและครูผู้สอน ดังนั้นการเตรียมเด็กให้สงบก่อนจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้เด็กปฐมวัยมีความสำคัญมาก เปรียบดังการเล่นกีฬาอะไรก็ตามจะต้องมีการอบอุ่นร่างกายทุกครั้งในการเล่นเพื่อสุขภาพที่ดี และเป็นการป้องกันความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อด้วย

ในการวิจัยครั้งนี้จึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กหญิงภัครภิรมย์ ทองล้วน ได้ดีระดับหนึ่งและควรได้รับการเชื่อมโยงกิจกรรมต่าง ๆ ให้เชื่อมโยงในการฝึกระเบียบวินัยให้กับเด็กเพื่อฝึกให้มีมารยาทในการรับฟังผู้อื่น มีมารยาทในการเข้าห้องประชุมและมีวินัยที่ดีตลอดไป

โพสต์โดย จุ๋ม : [6 มิ.ย. 2565 เวลา 11:27 น.]
อ่าน [1955] ไอพี : 1.20.189.214
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,072 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : คุณสมบัติของครูในศตวรรษที่ 21 คือ...
ตูนส์ศึกษา : คุณสมบัติของครูในศตวรรษที่ 21 คือ...

เปิดอ่าน 39,913 ครั้ง
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต

เปิดอ่าน 13,773 ครั้ง
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะจีน 3-2 เซต เมื่อวันที่ 20 ก.ย.56
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะจีน 3-2 เซต เมื่อวันที่ 20 ก.ย.56

เปิดอ่าน 15,233 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2552

เปิดอ่าน 16,552 ครั้ง
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 44,335 ครั้ง
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร

เปิดอ่าน 11,964 ครั้ง
ไปรษณีย์ไทย ยัน แสตมป์เซเว่น ใช้ส่งจดหมายไม่ได้
ไปรษณีย์ไทย ยัน แสตมป์เซเว่น ใช้ส่งจดหมายไม่ได้

เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง
ซูปเปอร์ไฮเวย์การศึกษา
ซูปเปอร์ไฮเวย์การศึกษา

เปิดอ่าน 9,807 ครั้ง
ลดการสอบเพื่ออะไร ?
ลดการสอบเพื่ออะไร ?

เปิดอ่าน 14,401 ครั้ง
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น

เปิดอ่าน 11,332 ครั้ง
"ราชบัณฑิตยสภา"
"ราชบัณฑิตยสภา"

เปิดอ่าน 9,565 ครั้ง
ทำไม ชีวจิต ถึงไม่แนะนำให้รับประทานเนื้อสัตว์
ทำไม ชีวจิต ถึงไม่แนะนำให้รับประทานเนื้อสัตว์

เปิดอ่าน 13,863 ครั้ง
พจนานุกรมตัวชี้วัดการประเมินผลการจัดการศึกษาของประเทศ (KPI Dictionary for Thai Education Evaluation)
พจนานุกรมตัวชี้วัดการประเมินผลการจัดการศึกษาของประเทศ (KPI Dictionary for Thai Education Evaluation)

เปิดอ่าน 8,625 ครั้ง
เตรียมตัวก่อนไปทะเล
เตรียมตัวก่อนไปทะเล

เปิดอ่าน 37,991 ครั้ง
การใช้อินเทอร์เน็ตและผลกระทบต่อคะแนนวิทยาศาสตร์ : FOCUS ประเด็นจาก PISA : ฉบับที่ 33 (กันยายน 2561)
การใช้อินเทอร์เน็ตและผลกระทบต่อคะแนนวิทยาศาสตร์ : FOCUS ประเด็นจาก PISA : ฉบับที่ 33 (กันยายน 2561)

เปิดอ่าน 36,891 ครั้ง
Why Do We Get Goose Bumps? (ทำไมเราจึงเกิด อาการขนลุก)
Why Do We Get Goose Bumps? (ทำไมเราจึงเกิด อาการขนลุก)
เปิดอ่าน 13,436 ครั้ง
อาหารมงคลรับปีใหม่-สมุนไพรไล่หนาว
อาหารมงคลรับปีใหม่-สมุนไพรไล่หนาว
เปิดอ่าน 16,565 ครั้ง
6 เคล็ดลับเด็ด "การลดหน้าท้อง"
6 เคล็ดลับเด็ด "การลดหน้าท้อง"
เปิดอ่าน 33,489 ครั้ง
"รศ.ดร.สุธีร์" ไอน์สไตน์ เมืองไทย ผู้สร้าง "สายอากาศสุธี" ที่ในหลวงรับสั่งว่า &q
"รศ.ดร.สุธีร์" ไอน์สไตน์ เมืองไทย ผู้สร้าง "สายอากาศสุธี" ที่ในหลวงรับสั่งว่า &q
เปิดอ่าน 18,374 ครั้ง
เกมส์ต่อสู้
เกมส์ต่อสู้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ