ชื่อเรื่อง การพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษา โดยใช้กลยุทธ์ BOKR โมเดล
ของโรงเรียนบ้านโคกกะทอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภูเขต 2
ผู้รายงาน นางฐิติพร จันทร์ลอย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกกะทอ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภูเขต 2
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2562 -2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา ผลการพัฒนากลยุทธ์ที่นำมาพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษา และผลการนำกลยุทธ์ BOKR โมเดลมาพัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนบ้านโคกกะทอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2
กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ผู้บริหาร ครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียนและกรรมการสถานศึกษา จำนวน 190 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้เชิงปริมาณ ได้แก่ แบบสอบถามวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ แบบแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. สภาพปัจจุบัน ปัญหาการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนบ้านโคกกะทอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ ปานกลาง ( =3.52, S=0.82) ค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านการจัดระบบบริหารและสารสนเทศ ( =4.12, S=0.74 ) ค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ด้านการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ( =3.07, S=0.84)
2. ผลการพัฒนากลยุทธ์ การพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนบ้านโคกกะทอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 มีดังนี้
1) กลยุทธ์ด้านการระดมความคิดเห็น การมีส่วนร่วม (Brainstorming) ประกอบด้วย
(1) การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา
(2) การระดมความคิด และแลกเปลี่ยนแนวคิดในการวางแผนการประกันคุณภาพการศึกษา
(3) การกระตุ้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในความเป็นผู้นำ
(4) การกระตุ้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการตัดสินใจร่วมกัน
(5) การสร้างเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
(6) ผู้บริหารใช้ภาวะผู้นำในการบริหารงานประกันคุณภาพการศึกษา
(7) การสร้างความร่วมมือ และมีส่วนร่วมในงานประกันคุณภาพการศึกษา
(8) การกำกับติดตามการใช้ภาวะผู้นำการดำเนินงานระบบประกันคุณภาพการศึกษา
2) กลยุทธ์ด้านกำหนดเป้าหมาย กำหนดมาตรฐาน (Objective) ประกอบด้วย
(1) การกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย และความสำเร็จของการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาอย่างชัดเจน
(2) การวิเคราะห์แผนการดำเนินงานระบบประกันคุณภาพการศึกษา
(3) จัดทำแผนการดำเนินงานระบบประกันคุณภาพการศึกษา
(4) จัดทำโครงสร้างการบริหารงานที่ชัดเจน
(5) การกำหนดระเบียบ แนวปฏิบัติที่เอื้อต่อการประกันคุณภาพการศึกษา
(6) การกำหนดและมอบหมายให้บุคลากรมีการพัฒนาตนเอง
(7) การกำหนดแผนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
(8) การกำหนดความสำเร็จของการพัฒนาระบบประกันคุณภาพที่ชัดเจน
3) กลยุทธ์ด้านการสร้างองค์ความรู้ การพัฒนา (Knowledge) ประกอบด้วย
(1) จัดทำแผนงาน แนวปฏิบัติ และระเบียบสู่การประกันคุณภาพการศึกษา
(2) การดำเนินตามแผนการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษา
(3) การอบรมพัฒนา ให้ความรู้กับผู้มีส่วนส่วนเสียจัดเก็บข้อมูล
(4) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมในงานประกันคุณภาพการศึกษา
(5) การมอบหมายงานให้บุคลากรพัฒนาตามความรู้ความสามารถ
(6) การสร้างโอกาสให้ผู้มีส่วนส่วนเสีย มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
(7) ส่งเสริมให้บุคลากรทุกคน มีการพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง
(8) การติดตาม ประเมินผลการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษา
4) กลยุทธ์ด้านการสะท้อนกลับข้อมูล การปรับปรุงแก้ไข (Reflection) ประกอบด้วย
(1) การจัดระบบข้อมูลสารสนเทศที่เป็นระบบ
(2) จัดทำแผนการนำข้อมูลสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการ
(3) นำผลการประเมินมาพัฒนา ปรับปรุง ระบบการประกันคุณภาพการศึกษา
(4) ผู้บริหาร กำกับ ติดตาม และนำผลมาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
(5) ปฏิบัติตามแผนการจัดระบบสารสนเทศอย่างเป็นระบบที่ถูกต้องพร้อมใช้งาน
(6) มอบหมายผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน และเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
(7) นำเสนอผลการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างต่อเนื่อง
(8) ติดตาม ควบคุมและประเมินผล การนำข้อมูลสารสนเทศมาใช้ในงานประกันคุณภาพการศึกษา
3. ผลการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษา โดยใช้กลยุทธ์ BOKR โมเดล ของโรงเรียนบ้าน โคกกะทอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 พบว่า โดยภาพรวม การพัฒนาระบบประกันคุณภาพโดยใช้กลยุทธ์ BOKR โมเดล ของโรงเรียนบ้านโคกกะทอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มาก ( =3.55, S=0.43) ค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านการกำหนดเป้าหมาย กำหนดมาตรฐาน ( =3.85, S=0.39) ค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ การระดมความคิดเห็น การมีส่วนร่วม ( =3.39, S=0.37)