ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี

วัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการจำเป็นในการนิเทศภายในสถานศึกษา สร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษา ทดลองใช้และศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษา และประเมินรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดด้วยการสอนโครงงาน ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี จำนวน 63 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามและแบบประเมิน จำนวน 6 ชุด ได้แก่ 1) แบบบันทึกข้อมูลการสนทนาเกี่ยวกับการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับ ความต้องการในการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี 3) แบบประเมินคุณภาพของรูปแบบการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี 4) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี และ 6) แบบประเมินการใช้รูปแบบการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี สำหรับประเมินการใช้รูปแบบการนิเทศ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา บรรยายสรุปใน เชิงพรรณนา และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. สาเหตุของปัญหาที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ปัญหานักเรียนติด 0 ร มส. นักเรียน ไม่จบการศึกษาพร้อมรุ่นตามหลักสูตร พบว่า มีสาเหตุ 3 ประการคือ 1) สาเหตุจากตัวนักเรียน ได้แก่ ลักษณะหรือพฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่เหมาะสม พื้นฐานทางการเรียนเดิม นิสัยในการเรียน การมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการเรียน 2) สาเหตุมาจากลักษณะครอบครัวของนักเรียน และ 3) สาเหตุมาจากการจัดการศึกษาของโรงเรียน สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาทักษะการคิดและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ที่ประชุมเห็นว่า ควรดำเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การบริหารจัดการศึกษาในสถานศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะการคิดและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยการนิเทศภายในสถานศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดด้วยการสอนโครงงานทั้งระบบจึงจะเกิดผลสำเร็จได้ แต่การนิเทศภายในสถานศึกษาในปัจจุบันพบว่า การดำเนินการยังไม่ประสบผลสำเร็จและไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ ผู้บริหารและครูผู้สอนจึงมีความต้องการในการนิเทศภายในสถานศึกษาตามแนวคิดการนิเทศการศึกษา ของกลิคแมน 5 ด้าน คือ การให้ความช่วยเหลือแก่ครูโดยตรง การพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่ม การเสริมสร้างประสบการณ์ทางวิชาชีพ การพัฒนาหลักสูตร การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน

2. ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า รูปแบบการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี และคู่มือการใช้รูปแบบการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีที่สร้างขึ้น มีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านที่มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด คือด้านจุดประสงค์ในการสร้างรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษา ด้านความชัดเจนของเนื้อหาในการใช้รูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษา ด้านความชัดเจน ในการใช้ภาษา ด้านความเหมาะสมในการพิมพ์และรูปเล่ม ยกเว้น ด้านความสะดวกในการนำรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาไปใช้ ซึ่งมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก

3. ผลจากการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี พบว่า 1) ผู้บริหารครูผู้นิเทศ และครูผู้สอนซึ่งเป็นผู้รับการนิเทศ สามารถดำเนินการและปฏิบัติตามรูปแบบ การนิเทศได้ 2) ผู้บริหารและครูผู้สอนมีความเห็นว่า การนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ทั้ง 5 ด้าน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด 3 ด้าน คือ การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน การพัฒนาหลักสูตร และการเสริมสร้างประสบการณ์ทางวิชาชีพ ส่วนด้านการให้ความช่วยเหลือแก่ครูโดยตรง และการพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่ม เห็นว่ามีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก 3) ครูมีความพึงพอใจต่อการดำเนินการนิเทศตามกระบวนการนิเทศอยู่ในระดับมากที่สุด และครูมีความพึงพอใจต่อผลการดำเนินการนิเทศ ทั้ง 3 ด้าน คือ พฤติกรรมการทำงานและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครู พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก

4. รูปแบบการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน คือ มาตรฐานด้านความถูกต้อง มาตรฐานด้านความเหมาะสม มาตรฐานด้านความเป็นประโยชน์ และมาตรฐานด้านความเป็นไปได้ โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย

5. ผลจากการพัฒนารูปแบบการนิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ด้วยการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ดังกล่าว ทำให้ได้รูปแบบการนิเทศที่มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย

5.1) การให้ความช่วยเหลือแก่ครูโดยตรง ประกอบด้วย การวางแผนร่วมกับครูในการให้ความช่วยเหลือ เข้าไปมีส่วนร่วมกับครูเพื่อช่วยเหลือ สรุปผลการช่วยเหลือและวางแผนที่จะประชุมตรวจสอบความช่วยเหลือร่วมกับครู การประชุมวิเคราะห์ผลการช่วยเหลือร่วมกับครู ประชุมสรุปและวิเคราะห์กระบวนการช่วยเหลือครูทุกขั้นตอนเพื่อวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อยของกระบวนการ

5.2) การพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่ม ประกอบด้วย การพัฒนาครูให้มีศักยภาพใน การแสวงหาความรู้และประสบการณ์ การสร้างวินัยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในทีมงาน การกำหนดปัญหาและเป้าหมายการแก้ปัญหาร่วมกัน การวางแผนและดำเนินการแก้ปัญหาของทีมงาน การสร้างแรงจูงใจ การเสริมแรงและสร้างขวัญกำลังใจ

5.3) การเสริมสร้างประสบการณ์ทางวิชาชีพ ประกอบด้วย สำรวจความต้องการจำเป็นในการพัฒนาครูด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน พัฒนาความสามารถในการสอนให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ การจัดกิจกรรมสัมมนาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พัฒนาคุณธรรม จริยธรรมตามมาตรฐานวิชาชีพครู

5.4) การพัฒนาหลักสูตร ประกอบด้วย การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษา การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา วางแผนการดำเนินการใช้หลักสูตร ดำเนินการบริหารหลักสูตร การนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผล สรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหลักสูตรของสถานศึกษา การปรับปรุง พัฒนากระบวนการบริหารจัดการหลักสูตร โดยการติดตามประเมินผล การเปลี่ยนแปลงการพัฒนาของนักเรียน จะทำให้ทราบปัญหาข้อบกพร่องของหลักสูตรเป็นข้อมูลย้อนกลับในการนำมาพิจารณาถึงการพัฒนาหลักสูตร

5.5) การวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน ประกอบด้วย การกำหนดปัญหา หรือ เป้าหมายการวิจัย การกำหนดวิธีการวิจัย หรือวิธีหาคำตอบ หรือวิธีการแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน การรวบรวมข้อมูลตามวิธีการที่กำหนด การวิเคราะห์ข้อมูล การสรุปและเขียนรายงานเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน

โพสต์โดย krutang : [30 พ.ค. 2565 เวลา 07:46 น.]
อ่าน [2092] ไอพี : 110.78.166.196
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,289 ครั้ง
ทานอาหารช่วยบำบัดความเครียด
ทานอาหารช่วยบำบัดความเครียด

เปิดอ่าน 11,569 ครั้ง
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน

เปิดอ่าน 173,323 ครั้ง
วิธีทำ ส้มตำข้าวโพด เมนูสุขภาพ
วิธีทำ ส้มตำข้าวโพด เมนูสุขภาพ

เปิดอ่าน 87,610 ครั้ง
แบบฟอร์มขอมีบัตรข้าราชการ ต่าง ๆ
แบบฟอร์มขอมีบัตรข้าราชการ ต่าง ๆ

เปิดอ่าน 8,427 ครั้ง
ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา
ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา

เปิดอ่าน 18,925 ครั้ง
ฎุมิปัญญาชาวบ้าน
ฎุมิปัญญาชาวบ้าน

เปิดอ่าน 14,582 ครั้ง
ดื่มน้ำจากขวดพลาสติก ระวังสารบีพีเอปนเปื้อน
ดื่มน้ำจากขวดพลาสติก ระวังสารบีพีเอปนเปื้อน

เปิดอ่าน 14,779 ครั้ง
QR CODE คืออะไร
QR CODE คืออะไร

เปิดอ่าน 9,144 ครั้ง
คุณครูเคยดูหรือยัง : การเรียนการสอนในสิงคโปร์
คุณครูเคยดูหรือยัง : การเรียนการสอนในสิงคโปร์

เปิดอ่าน 31,385 ครั้ง
สำนวนภาษาอังกฤษ
สำนวนภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 14,831 ครั้ง
วิธีแก้ปัญหาเด็กกินยาก
วิธีแก้ปัญหาเด็กกินยาก

เปิดอ่าน 11,846 ครั้ง
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก

เปิดอ่าน 13,791 ครั้ง
หยุดทำร้ายเด็กไทยโดยใช้ผลการสอบ O-NET ตัดสินเลื่อนชั้น(ได้-ตก)
หยุดทำร้ายเด็กไทยโดยใช้ผลการสอบ O-NET ตัดสินเลื่อนชั้น(ได้-ตก)

เปิดอ่าน 19,999 ครั้ง
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี

เปิดอ่าน 8,969 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 80 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning ทางรอดของการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
จดหมายฉบับที่ 80 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning ทางรอดของการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 13,743 ครั้ง
น่ารักสุดๆ วงโยธวาทิตมหาวิทยาลัยโอไฮโอเล่นกังนัมสไตล์
น่ารักสุดๆ วงโยธวาทิตมหาวิทยาลัยโอไฮโอเล่นกังนัมสไตล์
เปิดอ่าน 13,745 ครั้ง
ชมคลิป น้องปุ๊ กุลปรียา นักเรียนบุรีรัมย์ โชว์เล่านิทานไข่ทองคำยุคอาเซียน
ชมคลิป น้องปุ๊ กุลปรียา นักเรียนบุรีรัมย์ โชว์เล่านิทานไข่ทองคำยุคอาเซียน
เปิดอ่าน 9,158 ครั้ง
กังนัมสไตล์เริ่ด ฮิตยันไฮโซอังกฤษ เด็กอีตันยังเลียนแบบ
กังนัมสไตล์เริ่ด ฮิตยันไฮโซอังกฤษ เด็กอีตันยังเลียนแบบ
เปิดอ่าน 8,896 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา ติดอาวุธครูสอนคิด
ปฏิรูปการศึกษา ติดอาวุธครูสอนคิด
เปิดอ่าน 54,081 ครั้ง
พิชิตคณิตให้เป็นเรื่องง่าย
พิชิตคณิตให้เป็นเรื่องง่าย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ