ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์บ้านสามฝัน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563

ชื่อผลงาน รายงานการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์บ้านสามฝัน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563

ผู้รายงาน นางวารี แก้วเรือง ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2563

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์บ้านสามฝัน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) ระดับคุณภาพการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ปีการศึกษา 2563 2) การพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพและสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข 3) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อการดำเนินโครงการ 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการดำเนินโครงการ 5) ความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อการดำเนินโครงการ 6) ความพึงพอใจของเบญจภาคีที่มีต่อการดำเนินโครงการ 7) คุณภาพผู้เรียน จำแนกเป็น 7.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา ปีการศึกษา 2563 (GPA) 7.2) สมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 7.3) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างนักเรียน จำนวน 121 คน กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน กลุ่มตัวอย่างผู้ปกครอง จำนวน 95 คน ประชากรครู จำนวน 17 คน ประชากรเบญจภาคี จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ จำนวน 11 ฉบับ มี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า จำนวน 8 ฉบับ ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง .88-.96 และแบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับสถานศึกษา ปีการศึกษา 2563 ตามสภาพจริง แบบบันทึกผลการประเมินสมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2563 ตามสภาพจริง แบบบันทึกการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ปีการศึกษา 2563 ตามสภาพจริง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านบริบทของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์บ้านสามฝัน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครูมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu,= 4.59,sigma=0.15) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.54, S.D. = 0.19) เช่นกัน ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์บ้านสามฝัน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่าน เกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครู มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu = 4.57, sigma=0.11) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.51, S.D.=0.10) เช่นกัน ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

3. ผลการประเมินข้อมูลด้านกระบวนการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์บ้านสามฝัน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของครู พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu = 4.57, sigma = 0.10) สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดแต่ละด้าน พบว่า ด้านการนำผลมาใช้ในการพัฒนา มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด (mu = 4.60, sigma=0.31) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 2 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมา คือ ด้านการดำเนินการจัดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.56, sigma=0.20) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 2 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ด้านการติดตามและประเมินผล มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.55,sigma=0.40) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 2 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการวางแผนการดำเนินงานมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.54, sigma=0.28) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 2 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณาแต่ละกิจกรรมของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนทั้ง 5 กิจกรรม พบว่า การส่งต่อนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด (mu = 4.61, S.D.=0.33) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 3 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมาคือ การป้องกันช่วยเหลือและแก้ไขมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.60, S.D.=0.30) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 3 ผ่านเกณฑ์การประเมิน การส่งเสริมนักเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.58, S.D.=0.24) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 2 ผ่านเกณฑ์การประเมิน การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.57, S.D.=0.35) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 2 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกิจกรรมที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การคัดกรองนักเรียนนักเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu = 4.52, sigma=0.26) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 2 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ได้แก่

4.1 ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับคุณภาพโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์บ้านสามฝัน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของครู พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.52, sigma=0.09) เมื่อพิจารณาแต่ละรายการพบว่า รายการฝ่ายบริหารมีบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวกและสนับสนุนปัจจัยเอื้อ มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.82, sigma=0.39) รองลงมา ได้แก่ การส่งเสริมสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในโรงเรียนและห้องเรียนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.76,sigma=0.43) ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การส่งเสริมให้ครูมีเวลาหรืออำนวยความสะดวกให้ครูได้พบปะเพื่อสะท้อนผลการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนซึ่งกันและกัน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (mu=4.17,sigma=0.63) ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและรายตัวชี้วัด

4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับนักเรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพและสามารถดำรงอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ตามความคิดเห็นของครู นักเรียน และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครูมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu = 4.59, sigma=0.14) ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมา คือ ผู้ปกครองมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.53, S.D=0.20) ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และนักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.51, S.D.=0.20) ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็น

4.3 ความพึงพอใจของครูที่มีต่อการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์บ้านสามฝัน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563 พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.55, sigma = 0.16) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า รายการการสนับสนุนให้ครูใช้ภาวะผู้นำหรือการปรับปรุงโรงเรียนและเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.82, sigma=0.39) รองลงมา คือ รายการการประสานความร่วมมือกับเบญจภาคีเครือข่ายมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu = 4.70, sigma=0.48) ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ รายการการแสวงหาและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( mu= 4.41, sigma=0.50) ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

4.4 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้

กลยุทธ์บ้านสามฝัน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563 พบว่า โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.53, S.D. = 0.21) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า รายการการติดต่อสื่อสารระหว่างครูกับผู้ปกครองนักเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.68, S.D.=0.46) รองลงมา คือ รายการนักเรียนสามารถหลีกเลี่ยงและป้องกันตนเองให้ห่างจากสิ่งเสพติดมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.66, S.D.=0.55) ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ รายการมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงขึ้นมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.39, S.D.=0.68) ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

4.5 ความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์บ้านสามฝัน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563 พบว่า โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.52, S.D = 0.22) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า รายการนักเรียนได้รับการดูแลเอาใจใส่ในด้านการเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด

(x̄ = 4.61, S.D =0.58) รองลงมาคือ รายการการประสานความร่วมมือในเรื่องการสังเกตพฤติกรรมนักเรียนมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.60, S.D.=0.53) ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.38, S.D.=0.65) ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

4.6 ความพึงพอใจของเบญจภาคีที่มีต่อการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์บ้านสามฝัน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu = 4.58, sigma=0.14) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 6 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า รายการการจัดกิจกรรมประชุมนักเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.86, sigma=0.35) รองลงมาคือ รายการนักเรียนได้รับการดูแลเอาใจใส่ในด้านการเรียนมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (mu= 4.80, sigma=0.41) ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ นักเรียนได้รับการดูแลเอาใจใส่ในด้านความประพฤติมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (mu= 4.33, sigma=0.81) ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

4.7 คุณภาพผู้เรียน จำแนกเป็น

4.7.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวม พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา ปีการศึกษา 2563 มีคะแนนเฉลี่ย GPA ร้อยละ 2.70 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 8 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.7.2 สมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2563 ตามสภาพจริง โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับดี-ดีเยี่ยม ร้อยละ 92.71 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 8 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.7.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2563 ตามสภาพจริง โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับดี-ดีเยี่ยม ร้อยละ 93.32 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 9 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

สรุปผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิโดยใช้กลยุทธ์บ้านสามฝัน ปีการศึกษา 2563 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) มีค่าน้ำหนัก 100 ได้คะแนนเฉลี่ย 100 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. โรงเรียนควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางในการพัฒนาโครงการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. ควรจัดให้มีโครงการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นโครงการต่อเนื่อง และนำสารสนเทศที่ได้มาใช้วางแผนอย่างน้อย 2 ปีการศึกษา

3. ควรนำผลการประเมินโครงการเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนและเผยแพร่อย่างกว้างขวาง

4. โรงเรียนควรพัฒนาการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จนกลายเป็นวิถีของโรงเรียนที่มีความเด่นชัดและมีความเป็นอัตลักษณ์เป็นของตัวเองสามารถเป็นแบบอย่างให้กับโรงเรียนอื่น ๆ ได้

ข้อเสนอแนะในการประเมินโครงการหรือการวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรนำรูปแบบการประเมินโครงการของ CIPP Model ไปปรับใช้กับการประเมินโครงการอื่น ๆ ในโรงเรียน เนื่องจากสารสนเทศที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการยกระดับพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนต่อไป

2. ควรมีการประเมินโครงการเชิงสาเหตุเพื่อให้ทราบว่าสาเหตุหรือปัจจัยใดที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จของโครงการ ซึ่งจะทำให้เป็นแนวทางการนำมาปรับปรุงพัฒนาโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

3. ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆ ในระดับหน่วยงานหรือกลุ่มงานย่อยทุกโครงการโดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม

โพสต์โดย varee : [29 พ.ค. 2565 เวลา 09:01 น.]
อ่าน [3628] ไอพี : 182.232.210.253
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,402 ครั้ง
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร

เปิดอ่าน 16,239 ครั้ง
ยาคุมแบบฉีด ทำมวลกระดูกเสื่อมอย่างน้อย 5%
ยาคุมแบบฉีด ทำมวลกระดูกเสื่อมอย่างน้อย 5%

เปิดอ่าน 15,625 ครั้ง
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร

เปิดอ่าน 15,906 ครั้ง
การพิมพ์ TILDE ( ~ ) ใน Windows 7
การพิมพ์ TILDE ( ~ ) ใน Windows 7

เปิดอ่าน 18,469 ครั้ง
เทศกาล ไหว้พระจันทร์
เทศกาล ไหว้พระจันทร์

เปิดอ่าน 31,703 ครั้ง
พายุไต้ฝุ่น
พายุไต้ฝุ่น

เปิดอ่าน 25,512 ครั้ง
แห่กดไลค์ ด.ญ.จิตราภา พูดอังกฤษหน้าชั้น ผู้ใหญ่ยังอาย
แห่กดไลค์ ด.ญ.จิตราภา พูดอังกฤษหน้าชั้น ผู้ใหญ่ยังอาย

เปิดอ่าน 20,843 ครั้ง
น้ำสมุนไพร ปรับสมดุลธาตุ เวลาไหนควรดื่ม
น้ำสมุนไพร ปรับสมดุลธาตุ เวลาไหนควรดื่ม

เปิดอ่าน 12,374 ครั้ง
รับมืออย่างไรเมื่อทำงานพลาด
รับมืออย่างไรเมื่อทำงานพลาด

เปิดอ่าน 45,254 ครั้ง
1 กรกฎาคม วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ
1 กรกฎาคม วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ

เปิดอ่าน 1,366 ครั้ง
กรมอนามัย แนะ "4 ดี เสริม 4 ห้องหัวใจแข็งแรง"
กรมอนามัย แนะ "4 ดี เสริม 4 ห้องหัวใจแข็งแรง"

เปิดอ่าน 12,013 ครั้ง
ช่วยลูกทำการบ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
ช่วยลูกทำการบ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 11,980 ครั้ง
สาวยูเครน 19 คลั่งอนิเมะ แปลงตัวเองเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น
สาวยูเครน 19 คลั่งอนิเมะ แปลงตัวเองเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 30,781 ครั้ง
นมวัว กับ นมถั่วเหลือง.. นมไหนดีกว่ากัน
นมวัว กับ นมถั่วเหลือง.. นมไหนดีกว่ากัน

เปิดอ่าน 20,357 ครั้ง
ปัญหาขาดแคลนครูในโรงเรียนขนาดเล็ก แก้ไขอย่างไรดี
ปัญหาขาดแคลนครูในโรงเรียนขนาดเล็ก แก้ไขอย่างไรดี

เปิดอ่าน 21,427 ครั้ง
การวัดความเร็วและทิศทางของลม
การวัดความเร็วและทิศทางของลม
เปิดอ่าน 10,900 ครั้ง
วิตามินอี ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
วิตามินอี ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
เปิดอ่าน 10,026 ครั้ง
บังคับรถก๊าซแอลพีจีติดสติกเกอร์
บังคับรถก๊าซแอลพีจีติดสติกเกอร์
เปิดอ่าน 20,792 ครั้ง
LearnSquare
LearnSquare
เปิดอ่าน 12,459 ครั้ง
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ