ชื่อผลงาน : รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
ชุด I Get English รายวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียนบ้านบือจะ
1. ความเป็นมา/แนวคิด
ภาษาอังกฤษมีบทบาทในชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยมากขึ้น การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นประโยชน์ต่อคนไทย รัฐบาลจึงได้กำหนดให้นักเรียนได้เรียนภาษาอังกฤษในทุกระดับชั้นกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศเป็นหนึ่งใน 8 กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยกำหนดวิสัยทัศน์ไว้
โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศ สามารถใช้ภาษาต่างประเทศ สื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ และศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจ
ในเรื่องราวและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลกและสามารถถ่ายทอดความคิดและวัฒนธรรมไทยไปยังสังคมโลกได้อย่างสร้างสรรค์ โดยได้กำหนดหัวข้อเกี่ยวกับด้านภาษาเพื่อการสื่อสารไว้เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาต่างประเทศในการฟัง พูด อ่าน เขียน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น ตีความ นำเสนอข้อมูลความคิดรวบยอดและความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างเหมาะสม (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551 : 190-191)
การรู้คำศัพท์ไม่เพียงพอส่งผลให้มีความสามารถในทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน อยู่ในเกณฑ์ต่ำ คือ ฟังภาษาอังกฤษไม่เข้าใจ พูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง ไม่เข้าใจบทอ่านในทันที อีกทั้งไม่สามารถเขียนภาษาอังกฤษได้ ดังนั้น คำศัพท์จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการเรียนภาษา จากความสำคัญของคำศัพท์ดังกล่าว Van (1963 อ้างถึงใน พะเยา พรหมเทศ, 2549 : 1) กล่าวว่า การรู้คำศัพท์และความสามารถในการใช้คำศัพท์ในสถานการณ์ต่าง ๆ จะช่วยให้ผู้เรียนมีความมั่นใจในการใช้ภาษา เพราะองค์ประกอบที่สำคัญในการสื่อสาร คือ คำศัพท์ การสื่อสารโดยใช้กฎไวยากรณ์ที่ผิด ๆ ก็ยังเป็นที่เข้าใจ แต่การสื่อสารโดยใช้คำศัพท์ที่ผิด ๆ กลับทำให้เกิดการเข้าใจผิดถึงการพัฒนาการด้านภาษาของตนเอง ผู้สอนจึงควรสอนคำศัพท์ให้แก่ผู้เรียนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองหรือภาษาต่างประเทศ เพราะการรู้คำศัพท์มีประโยชน์ต่อทักษะการใช้ภาษาด้านต่าง ๆ เป็นอย่างมาก
การอ่านมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยเฉพาะวัยเยาว์ ซึ่งกำลังมี
การพัฒนาในด้านต่าง ๆ มีความสนใจในขอบเขตกว้าง ต้องการเรียนรู้และแสวงหาประสบการณ์ใหม่
ซึ่งเป็นพื้นฐานชีวิตในอนาคต ดังนั้นสำหรับเด็ก ๆ แล้ว การอ่านจึงเป็นทักษะพื้นฐานในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และการอ่านยังเป็นทักษะที่เชื่อมโยงและบูรณาการกับทักษะอื่น ๆ ได้ง่าย (สุพรรณี วราทร, 2550 : 43) สำหรับการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศในประเทศไทยนั้น เมื่อเปรียบเทียบความสำคัญของทักษะทางภาษาทั้ง 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน จะพบว่า การอ่านเป็นทักษะที่สำคัญกว่าทักษะอื่น ๆ เพราะทักษะการอ่านเป็นเครื่องมือสำคัญของการแสวงหาความรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการศึกษา การเจรจาต่อรอง และเพื่อการแข่งขันทางการประกอบอาชีพ (วิสาข์ จัติวัตร์, 2556 : 41) มีนักการศึกษาจำนวนมากที่พยายามค้นคว้าหาวิธีการเพื่อพัฒนาและฝึกฝนทักษะการอ่าน แนวทางหนึ่ง คือ การพัฒนาสื่อการเรียนรู้และนวัตกรรมการเรียนการสอน ซึ่งพบว่า แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน ถือเป็นสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสม เพราะเป็นเอกสารที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ตามหลักสูตรที่กำหนด (สุนันทา สุนทรประเสริญ, 2547 : 17) และแบบฝึกทักษะการอ่านที่ดีและมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการฝึกได้เป็นอย่างดี เพราะผู้เรียนจะใช้แบบฝึกหลังเรียนจบเนื้อหาในช่วงหนึ่ง ๆ เพื่อฝึกฝนให้เกิดความรู้ความเข้าใจ รวมทั้งเกิดความชำนาญอย่างกว้างขวางมากขั้น ซึ่งสอดคล้องกับ Moor (2005 : 225 อ้างถึงใน อุบลรัตน์ อ่วมด้วง, 2555 : 6) ที่กล่าวว่า ครูต้องมีความรู้ความเข้าใจในการเลือกแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านให้เหมาะสมกับระดับความสามารถและตรงกับความสนใจและความต้องการของผู้เรียน นอกจากนี้ Tomlinson (1998 : 8 อ้างถึงใน อุบลรัตน์ อ่วมด้วง, 2555 : 7) กล่าวเสริมว่า แบบฝึกที่ให้นักเรียนทำต้องมีความหลากหลายรูปแบบ ให้นักเรียนได้ใช้ความคิด เรียงลำดับเหตุการณ์ และมีภาพประกอบเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียน ดังนั้นครูผู้สอนภาษาอังกฤษจึงต้องมีการพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถนำเอาความรู้ ประสบการณ์และทักษะต่าง ๆ ที่ได้รับการสอน ฝึกฝนและถ่ายทอดไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงได้ด้วยตนเอง นักเรียนที่มีทักษะการอ่านที่ดีย่อมสัมฤทธิ์ผลในการศึกษาสูง เมื่อนักเรียนได้พัฒนาทักษะการอ่านจนใช้การได้แล้ว ทักษะนี้จะยังคงอยู่กับตัวนักเรียนผู้นั้นไปตลอด และทำให้มีความสามารถที่จะเพิ่มพูนความรู้ด้วยตนเองได้ ดังนั้นทักษะการอ่านถือว่าเป็นทักษะที่เป็นเป้าหมายสำคัญยิ่งของการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
ผู้รายงานสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2เป็นระยะเวลา 7 ปี จากการสังเกตพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชาวิชาภาษาอังกฤษ ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนดไว้ร้อยละ 70 ดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 แสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนบ้านบือจะ กับเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด
ปีการศึกษา เป้าหมายที่กำหนด
ร้อยละ ผลการดำเนินการ
ร้อยละ ผลลัพธ์
(สูงหรือต่ำกว่าเป้าหมาย)
2562 70 68.86 ต่ำกว่าเป้าหมาย
ที่มา : โรงเรียนบ้านบือจะ. รายงานการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนบ้านบือจะ ปีการศึกษา 2563 : 93
จากตารางที่ 1 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านบือจะ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2562 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 68.86 (บ้านบือจะ, โรงเรียน. 2562 : 93)
ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนดไว้ร้อยละ 70 และเมื่อวิเคราะห์บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2562 พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ไม่กลาออกเสียงภาษาอังกฤษ เนื่องจากขาดการฝึกฝนการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้องตามสำเนียงของเจาของภาษา ฟังภาษาอังกฤษไม่เข้าใจ พูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง ไม่เข้าใจบทอ่านในทันที ไม่สามารถเขียนภาษาอังกฤษและไม่รู้ความหมายของคำศัพท์ ซึ่งอยู่ในสาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 ตัวชี้วัด ป.2/2 ระบุตัวอักษรและเสียง อ่านออกเสียงคำ สะกดคำ และอ่านประโยคง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ป.2/3 เลือกภาพตรงตามความหมายของคำ กลุ่มคำ และประโยคที่ฟัง ป.2/4 ตอบคำถามจากการฟัง ประโยคบทสนทนาหรือ นิทานง่าย ๆ ที่มีภาพประกอบ มาตรฐาน ต 1.3 ตัวชี้วัด ป.2/1 พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องตนเองและใกล้ตัว และ ต.4.2 ตัวชี้วัด ป.2/1 ใช้ภาษาต่างประเทศ เพื่อรวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องใกล้ตัวและใกล้ตัว
สภาพปัญหาดังกล่าว ผู้รายงานจึงมีความจำเป็นต้องหาแนวทางเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ จึงได้สร้างแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยรวบรวมคำจากบัญชี
คำพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และคำในบทเรียนที่ได้พบจากการเรียนการสอนมาจัดทำเป็นแบบฝึกทักษะให้มีรูปแบบที่น่าสนใจ มีกิจกรรมการฝึกปฏิบัติที่หลากหลาย เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจ ไม่เกิด
ความเบื่อหน่าย จัดเนื้อหาของแบบฝึกให้เหมาะสมกับระดับความรู้ ความสามารถของผู้เรียนและ
เป็นแนวทางในการปรับปรุงการเรียนการสอนให้ได้ผลยิ่งขึ้น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยพัฒนาทักษะการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านบือจะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 ให้สูงยิ่งขึ้น และยังเป็นแนวทางให้ครูได้นำไปใช้พัฒนากิจกรรม
การเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิผลยิ่งขึ้นต่อไป ดังที่ สุคนธ์ สินธพานนท์ (2551 : 95)
ได้กล่าวไว้ว่า แบบฝึกทักษะเป็นสื่อที่ช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในบทเรียน ซึ่งครูผู้สอนได้ออกแบบแบบฝึกทักษะที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามศักยภาพของตน ทำให้ผู้เรียนมีความแม่นยำในเรื่องที่ต้องการฝึก นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างคุณลักษณะของผู้เรียนให้คิดเป็น มีความรับผิดชอบและมีเจตคติที่ดี
ต่อการเรียนรู้ ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการเรียนรู้ ในรูปแบบต่าง ๆ ที่หลากหลายและบรรลุวัตถุประสงค์
ที่กำหนดไว้