ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรัการอ่าน โรงเรียนบ้านตลุกหิน ปีการศึกษา 2563

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน

โรงเรียนบ้านตลุกหิน ปีการศึกษา 2563

ผู้ประเมิน นายนัธวุฒิ สมศรี

ระยะเวลาการประเมิน 16 พฤษภาคม 2563 ถึง 31 มีนาคม 2564

ปีที่พิมพ์ 2565

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านตลุกหิน ปีการศึกษา 2563 ใน 4 ด้าน คือ ด้านสภาวะแวดล้อม ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการและด้านผลผลิต โดยใช้รูปแบบการประเมินโครงการ CIPP MODELของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) โดยกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการประเมินโครงการ คือ ครู คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน นักเรียนระดับประถมศึกษา และผู้ปกครองนักเรียนระดับประถมศึกษาโรงเรียนบ้านตลุกหิน ปีการศึกษา 2563 รวมทั้งสิ้น 131 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่าชนิด 5 ระดับ ของลิเคิร์ต (Likert’ five Rating Scale) และแบบสัมภาษณ์

แบบมีโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยค่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา

ผลการประเมินโครงการ พบว่า

1. ด้านสภาวะแวดล้อม (Context) โดยภาพรวมมีความเหมาะสม ความสอดคล้องกันอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า การดำเนินโครงการสอดคล้องกับสภาพปัญหา ของโรงเรียนมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือการดำเนินโครงการสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเป็นการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ

2. ด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input) โดยภาพรวมมีความเหมาะสม ความเพียงพอ อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า บุคลากรที่ร่วมดำเนินโครงการมีความพร้อม ความถนัด มีความมุ่งมั่นและทุ่มเท เพื่อให้งานบรรลุเป้าหมายมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือบุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือจำนวนบุคลากรที่ร่วมดำเนินโครงการมีเพียงพอ และโรงเรียนมีงบประมาณเพียงพอ

3. ด้านกระบวนการ (Process) โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า การจัดกิจกรรมหลากหลายโดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาการให้ความร่วมมือในการร่วมกิจกรรมของครูและนักเรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ การจัดกิจกรรมในการชี้แนะให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน

4. ด้านผลผลิต (Product) โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือ นักเรียนไม่มีความรู้สึกฝืนใจที่ต้องอ่านหนังสือ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือนักเรียนเขียนบันทึก เรื่องราวจากการอ่านและการฟังได้

5. ด้านผลผลิต (Product) เกี่ยวกับพฤติกรรมแสดงนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โดยภาพรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า อ่านหนังสือที่มุมหนังสือในห้องเรียนเวลาว่างมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือ อ่านป้าย คำขวัญ ประกาศ หรือข้อความต่าง ๆ ที่พบเห็น ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือยืมหนังสือจากห้องสมุดไปอ่านที่บ้าน

6. ข้อเสนอแนะจากคำถามปลายเปิด พบว่า โรงเรียนควรจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอย่างหลากหลาย ปัญหาสำคัญในการจัดกิจกรรมคือหนังสือยังไม่เพียงพอ กับเด็กทุกๆ วัยตามความสนใจ ต้องการให้โรงเรียนจัดหาให้มากขึ้น อีกยังต้องจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้หลากหลายขึ้น โรงเรียนแก้ไขปัญหาโดย จัดหาคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต เพื่อค้นคว้าและส่งเสริมการอ่าน รวมทั้งจัดหาหนังสือราคาถูกเข้ามาให้มากขึ้น

7. ผลการสัมภาษณ์นักเรียน พบว่า นักเรียนส่วนมากชอบกิจกรรมการเล่านิทานเพราะ สนุกสนาน นักเรียนได้นำนิทานไปแสดงในกิจกรรมวันสำคัญต่างๆ ที่ทางโรงเรียนได้จัดขึ้น เช่น วันเด็ก และการเข้าค่ายพักแรม ได้คติสอนใจ กิจกรรมที่นักเรียนชอบรองลงมาคือ กิจกรรมมุมหนังสือที่หนูชอบ เพราะ เมื่อว่างจากงานที่ครูให้ทำในชั่วโมง ทุกคนสามารถใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ได้พักได้เรียนรู้หนังสือที่ตนสนใจได้ทันที และอยากให้โรงเรียนจัดโครงการอย่างต่อเนื่อง

โพสต์โดย AAA : [5 พ.ค. 2565 เวลา 19:54 น.]
อ่าน [3762] ไอพี : 118.175.156.179
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,946 ครั้ง
แชร์การแสดงสร้างสรรค์ "Cup song โรงเรียนบ้านต้นโชค"
แชร์การแสดงสร้างสรรค์ "Cup song โรงเรียนบ้านต้นโชค"

เปิดอ่าน 13,593 ครั้ง
บุคลิกภาพที่อาจนำไปสู่โรคร้าย
บุคลิกภาพที่อาจนำไปสู่โรคร้าย

เปิดอ่าน 9,887 ครั้ง
H1N1...ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
H1N1...ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

เปิดอ่าน 11,859 ครั้ง
ผลสำรวจพบคนใช้รถ50%เลือกซื้อรถในใจ
ผลสำรวจพบคนใช้รถ50%เลือกซื้อรถในใจ

เปิดอ่าน 33,013 ครั้ง
พืชกับศิลปะไทยโบราณ
พืชกับศิลปะไทยโบราณ

เปิดอ่าน 23,157 ครั้ง
เป็นหนี้บัตรเครดิต ธนาคารยึดเงินจากบัญชีเงินเดือนลูกหนี้ได้หรือไม่?
เป็นหนี้บัตรเครดิต ธนาคารยึดเงินจากบัญชีเงินเดือนลูกหนี้ได้หรือไม่?

เปิดอ่าน 12,735 ครั้ง
"โดนัท เซลฟี่" เทรนด์ใหม่มาแรง คืออะไร ไปดูกันครับ
"โดนัท เซลฟี่" เทรนด์ใหม่มาแรง คืออะไร ไปดูกันครับ

เปิดอ่าน 14,796 ครั้ง
ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ
ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ

เปิดอ่าน 208,078 ครั้ง
ระบบย่อยอาหาร
ระบบย่อยอาหาร

เปิดอ่าน 5,129 ครั้ง
ฝึกกล้ามเนื้อเข่าให้แข็งแรง ช่วยป้องกันและลดการบาดเจ็บข้อเข่าจากกีฬา
ฝึกกล้ามเนื้อเข่าให้แข็งแรง ช่วยป้องกันและลดการบาดเจ็บข้อเข่าจากกีฬา

เปิดอ่าน 29,332 ครั้ง
ครูทึ่ง ! เด็กป.1 ฝีมือบรรเจิด วาดภาพสวยเกินวัย-ความจำดีเลิศ
ครูทึ่ง ! เด็กป.1 ฝีมือบรรเจิด วาดภาพสวยเกินวัย-ความจำดีเลิศ

เปิดอ่าน 11,427 ครั้ง
ชมคลิปที่ แอ๊ด คาราบาว จัดเอ็มวี "นาวารัฐบุรุษ" ให้บิ๊กตู่
ชมคลิปที่ แอ๊ด คาราบาว จัดเอ็มวี "นาวารัฐบุรุษ" ให้บิ๊กตู่

เปิดอ่าน 10,947 ครั้ง
แนะนำแอพลิเคชัน escivocab : พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี สสวท.
แนะนำแอพลิเคชัน escivocab : พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี สสวท.

เปิดอ่าน 6,048 ครั้ง
วิธีเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิว
วิธีเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิว

เปิดอ่าน 11,544 ครั้ง
ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว
ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว

เปิดอ่าน 13,260 ครั้ง
เอกราช เก่งทุกทาง เขียนเตือนทีมชาติไทยชุดแชมป์ซูซูกิคัพ อย่าเป็นดรีมทีม!
เอกราช เก่งทุกทาง เขียนเตือนทีมชาติไทยชุดแชมป์ซูซูกิคัพ อย่าเป็นดรีมทีม!
เปิดอ่าน 115,885 ครั้ง
อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า
อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า
เปิดอ่าน 21,653 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
เปิดอ่าน 10,107 ครั้ง
"อยากไปโรงเรียน" โจทย์ใหญ่? พ่อแม่ช่วยลูกได้..ด้วย "สนุก"
"อยากไปโรงเรียน" โจทย์ใหญ่? พ่อแม่ช่วยลูกได้..ด้วย "สนุก"
เปิดอ่าน 11,151 ครั้ง
นั่งให้ถูกท่า หน้าคอมพิวเตอร์
นั่งให้ถูกท่า หน้าคอมพิวเตอร์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ