|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 12 จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน 2) แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 12 3) แผนการจัดการเรียนรู้ 4) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน รายงานผลข้อมูลโดยการบรรยายสรุปเป็นความเรียง พรรณนาความ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้การทดสอบค่าที (t-test Dependent Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่มีความต้องการที่สอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model ซึ่งมี 3 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้น P: Plan วิเคราะห์วางแผนและออกแบบการจัดการเรียนรู้ ขั้น L : Learning สนับสนุนการเรียนรู้ ประกอบไปด้วยกระบวนการจัดการเรียนการสอนดังต่อไปนี้ ขั้นที่ 1 สร้างแรงบันดาลใจชวนสงสัย ขั้นที่ 2 สืบเสาะแล้วสร้างความคิดเป็นของตนเอง ขั้นที่ 3 คิดคู่/กลุ่ม/ทั้งชั้นเรียน ขั้นที่ 4 สรุปความรู้และนำความรู้ไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ ขั้น A : Assessment การประเมินผลและรายงานการพัฒนาของผู้เรียน ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ค่าประสิทธิภาพ E1 /E2 จากการทดลองภาคสนาม มีค่าเท่ากับ 82.16/81.67 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ผลการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ความเหมาะสมโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ได้ค่าประสิทธิภาพ E1 /E2 เท่ากับ 86.78/85.10 และนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการการคิดวิเคราะห์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ PLA Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชานาฎศิลป์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย นางยุวธิดา สุวรรณเมฆ : [14 เม.ย. 2565 เวลา 19:19 น.] อ่าน [3132] ไอพี : 118.173.210.255
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 17,333 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,034 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,989 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,741 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,619 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,081 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,286 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,093 ครั้ง
| เปิดอ่าน 78,802 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,638 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,303 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,107 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,095 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,771 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,173 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 11,660 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,972 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,840 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,018 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,237 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|