บทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการจำเป็นการนิเทศภายในแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์ 2) เพื่อออกแบบและการพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์ 3) เพื่อทดลองการใช้รูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์ และ4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์ กลุ่มเป้าหมายจำนวน 1,090 คน ได้แก่ รองผู้อำนวยการโรงเรียน 2 คน ครู 58 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 จำนวน 1,030 คนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์แบบทดสอบ แบบสอบถาม แบบสังเกต และประเด็นสนทนากลุ่ม การวิเคราะห์ขอ้ มูลใช้ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่า Wilcoxon Signed Ranks Test ค่า t –test แบบ dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัย พบว่า
1. ครูมีความต้องการจำเป็นในเป็นการพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู 3 วิธี คือ ครูที่มีสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนต่ำกว่าระดับมาตรฐานใช้วิธีการนิเทศแบบพี่เลี้ยง (Mentoring) ระดับมาตรฐานใช้วิธีการนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อน (Peer Coaching) และระดับสูงกว่ามาตรฐานใช้วิธีการนิเทศแบบพัฒนาตนเอง (Self-directed Development)
2. รูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์ (DSLK Model) ประกอบด้วย หลักการ วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการนิเทศภายในแบบบูรณาการ 4 ขั้นตอน และเงื่อนไขความสำเร็จ มีความสอดคล้อง สมเหตุสมผล และเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติ
3. ผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียน พบว่า ครูผู้นิเทศมีสมรรถนะในการนิเทศภายในแบบบูรณาการอยู่ในระดับสูง และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศแตกต่างกันอย่ามีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหลังการใช้รูปแบบการนิเทศมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศ ครูผู้รับการนิเทศมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนิเทศภายในแบบบูรณาการก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหลังการใช้รูปแบบการนิเทศมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบ โดยมีสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนอยู่ในระดับสูงมาก และมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการอยู่ในระดับมากที่สุด นักเรียนมีผลการเรียนรู้ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการของครูผู้รับการนิเทศ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหลังการใช้รูปแบบการนิเทศนักเรียนมีผลการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบ
4. ผลการประเมินรูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์ (DSLK Model) จะเห็นว่าทุกองค์ประกอบมีความเหมาะสม และสอดคล้องกันโดยเป็นกระบวนการที่มีความต่อเนื่องและสัมพันธ์กันของแต่ละขั้นตอน ทำให้เกิดการพัฒนาสมรรถนะการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูได้เป็นอย่างดี