ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การวิจัย เรื่อง รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา

บทคัดย่อ

การวิจัย เรื่อง รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาขอเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา เป็นกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development :R & D) มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา 2) สร้างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา และ 3) ประเมินรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา โดยแบ่งการดำเนินการวิจัยออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้นำทางศาสนา และผู้ปกครองนักเรียน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง ระยะที่ 2 การสร้างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิในการตรวจความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาเบื้องต้น ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง และระยะที่ 3 การประเมินรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา กลุ่มผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วย ครูผู้รับผิดชอบโครงการ ครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้นำทางศาสนา และผู้ปกครองนักเรียนในโรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็น แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกตและบันทึกพฤติกรรม แบบสอบถามความเหมาะสมและความเป็นไปได้ ของรูปแบบ แบบประเมินระดับการมีส่วนร่วม แบบประเมินระดับการปฏิบัติตน แบบประเมินความพึงพอใจ และแบบบันทึกผลการนิเทศติดตาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่เฉลี่ยและ

ค่าส่วนเบียงเบนมาตรฐาน

สรุปผลการวิจัย

ผู้วิจัยได้นำเสนอสรุปผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้

1. ผลการศึกษาสภาพการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการชับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา แบ่งออกเป็น 2 ตอน ดังนี้

1.1 สภาพการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการชับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาด้านการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับน้อยมีค่าเลี่ยอยู่ระหว่าง 203 - 221 โดยขั้นตอนที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การบริหารแบบมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและประเมินผลมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.21 และชั้นตอนที่มีค่เฉลี่ยต่ำสุด คือ

การบริหารแบบมีส่วนร่วมระดมความคิดและการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานมีค่เฉลี่ยเท่ากับ 2.03

1.2 ผลการศึกษารูปแบบ การบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล (Best Practice) สรุปใด้ว่า การบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา ทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ด้านการบริหารแบบมีส่วนร่วมระดมความคิด ด้านการมีร่วมในการวางแผน ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ด้านการมีร่วมในการปฏิบัติงาน ด้านการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและประเมินผล และด้านการมีส่วนร่วมรับผลประโยชน์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในลักษณะการประชุมขี้แจง การประชาวิจารณ์ การสนทนากลุ่มและการประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องการบริหารงบประมาณค่อนข้างน้อย

2. ผลการสร้างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการชับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาเบื้องต้น สรุปผลได้เป็น 2 ตอน ดังนี้

2.1 ผลการสร้างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาเบื้องต้น พบว่า รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาเบื้องต้นประกอบด้วย 7 องค์ประกอบหลัก ได้แก่

2.1.1 องค์ประกอบด้านหลักการของรูปแบบ ประกอบด้วย 4 หลักการ คือ

1) หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม 2) หลักการ กระจายอำนาจ 3 หลักการทำงานเป็นทีม และ

4) หลักการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

2.1.2 องค์ประกอบด้านวัตถุประสงค์ของรูปแบบ ประกอบด้วย 3 ข้อ คือ

1) เพื่อศึกษาระดับการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ในสถานศึกษา 2) เพื่อศึกษาระดับการปฏิบัติตน 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการบริหารจัดการ

สถานศึกษา ด้านหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ด้านการ

พัฒนาบุคลากรของสถานศึกษา และด้านผลลัพธ์และภาพความสำเร็จ และ3) เพื่อศึกษาความพึง

พอใจของชุมชนที่มีต่อรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงในสถานศึกษา

2.1.3 องค์ประกอบค้านระบบและกลไกของรูปแบบ ประกอบด้วย 4 ระบบ

คือ 1) ระบบ การสร้างแรงจูงใจ 2) ระบบการทำงานเป็นทีม 3) ระบบการนิเทศ กำกับ ติดตาม และ

4) ระบบสนับสนุนในการรับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

2.1.4 องค์ประกอบด้านวิธีคำเนินงานของรูปแบบประกอบด้วย 4 ชั้นตอน คือ

1) ชั้นการวางแผน (P - Plan) 2) ขั้นปฏิบัติตามแผน (D -0o) 3) ขั้นตรวจสอบ วัดและประเมินผล

การปฏิบัติ (C - Check) และ 4) ชั้นตอนการแก้ไขปรับปรุงและพัฒนา (A - Ac)

2.1.5 องค์ประกอบด้านการประเมินรูปแบบ ประกอบด้วย 1) ประเด็นในการ

ประเมินรูปแบบ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินรูปแบบ 3) วิธีการประเมินรูปแบบ 4) การวิเคราะห์

ผลการประเมินรูปแบบ และ 5) เกณฑ์ในการพิจารณาผลการประเมินรูปแบบ

2.1.6 องค์ประกอบด้านเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ประกอบด้วย 3 ข้อ คือ

1) ผู้ที่มีส่วนได้ ส่วนเสียในชุมชนมีความตระหนักและเห็นคุณค่าของการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา 2) มีระบบการนิเทศ กำกับติดตามที่มีประสิทธิภาพโดยเน้นการนิเทศ

แบบมีส่วนร่วม การนิเทศแบบกัลยาณมิตรและการนิเทศแบบเพื่อนนิเทศเพื่อน

และ 3) ผู้บริหาร

สถานศึกษาส่งเสริมสนับสนุนปัจจัยที่เอื้อต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญา

ของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา เช่น งบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ เอกสารแหล่งข้อมูล ระบบ

เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูล วิทยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น

2.1.7 องค์ประกอบด้านคำอธิบายประกอบรูปแบบ เป็นการอธิบายรายละเอียด

ในแต่ละองค์ประกอบของรูปแบบตามแผนภูมิที่สร้างขึ้นตามลำดับ

2.2 ผลการตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการบริหาร

แบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา พบว่า รูปแบบการ

บริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาที่สร้างขึ้นมี

ความเหมาะสมโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.60 - 4.31 และมีความ

เป็นไปได้โดยรวมและรายด้านอยู่ในระตับมากมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 9.00 - 4.17

2.3 การนำเสนอรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญา

ของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาเบื้องต้นที่ปรับปรุงแล้ว สรุปได้ว่า รูปแบบการบริหารแบบมีส่วน

ร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ

หลัก ได้แก่

2.3.1 องค์ประกอบด้านหลักการของรูปแบบ ประกอบด้วย 4 หลักการ คือ

1) หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม 2) หลักการกระจายอำนาจ 3) หลักการทำงานเป็นทีม และ4)

หลักการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

2.3.2 องค์ประกอบด้านวัตถุประสงค์ของรูปแบบ ได้แก่ เพื่อออกแบบระบบ

และวิธีดำเนินงานของรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงในสถานศึกษา

2.3.3 องค์ประกอบด้านระบบและกลไกของรูปแบบ ประกอบด้วย 5 ระบบ

คือ 1) ระบบการสร้างแรงจูงใจ 2) ระบบการทำงานเป็นทีม 3) ระบบการนิเทศ กำกับ ติดตาม

4) ระบบสนับสนุนในการดำเนินงาน และ5) ระบบการสร้างเครือข่าย

1) ชั้นการวางแผน (P - Plan) 2) ขั้นปฏิบัติตามแผน (O -00) 3) ขั้นตรวจสอบ วัดและประเมินผล

2.3. 4 องค์ประกอบด้านวิธีดำเนินงานของรูปแบบประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ

การปฏิบัติ (C - Check) และ 4) ขั้นตอนการแก้ไซปรับปรุงและพัฒนา (A - Ac)

2.3.5 องค์ประกอบด้านการประเมินรูปแบบ เพื่อประเมินประสิทธิผล

ของรูปแบบประกอบด้วย 1) ระดับการบริหารแบบมีส่วนร่วม 2) ระดับการปฏิบัติในขับเคลื่อนหลัก

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ 3) ระดับความพึงพอใจ

2.3.6 องค์ประกอบด้านเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ประกอบด้วย 5 ข้อ คือ

1) ผู้ที่มีส่วนได้ ส่วนเสียมีความตระหนักและเห็นคุณค่าของการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงในสถานศึกษา 2) มีระบบการนิเทศ กำกับ ติดตามที่มีประสิทธิภาพ โดยเน้นการนิเทศแบบมี

ส่วนร่วม การนิเทศแบบกัลยาณมิตร และการนิเทศแบบเพื่อนนิเทศเพื่อน 3 โรงเรียนจัดทำแผนการ

ดำเนินงานเพื่อการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง

4) ผู้บริหารโรงเรียนส่งเสริมสนับสนุนปัจจัยที่เอื้อต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการชับเคลื่อนหลัก

ปรัชญาชองเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา เช่น งบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ เอกสารแหล่งข้อมูล

ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูล วิทยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น และ 5) หน่วยงาน

ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ควรมีนโยบายและกิจกรรมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง

3. ผลการทดลองใช้และประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม

ในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา

จากการนำรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของ

ศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาไปทดลองใช้จริงในสถานศึกษาเพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบ

การบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาโดย

สรุปผลการประเมินได้เป็น 2 ตอน ดังนี้

3.1 ผลการประเมินระดับการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญา

ของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา โดยรวม พบว่า อยู่ในระดับมาก ทุกขั้นตอน มีค่เฉลี่ยอยู่

ระหว่าง 3.92 - 4.05 โดยขั้นตอนที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การบริหารแบบมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน

มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.05 และขั้นตอนที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การบริหารแบบมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.92

3.2 ผลการประเมินระดับการปฏิบัติการดำเนินการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา พบว่า การปฏิบัติในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงในสถานศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.74 เมื่อพิจารณาเป็นร้ายด้านอยู่ใน

ระดับมากทุกด้านมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.71 - 3.76 โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการพัฒนา

บุคลากรของสถานศึกษามีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.76 และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านหลักสูตรและการ

จัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.71

3.3 ผลการประเมินความพึงพอใจของชุมชนที่มีต่อรูปแบบการบริหารแบบมีส่วน

ร่วมของชุมชนในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา พบว่า ความพึง

พอใจของชุมชนที่มีต่อรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงในสถานศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ยอยู่เท่ากับ 3.81 เมื่พิจารณาเป็นรายด้านอยู่

ในระดับมากทุกด้านโดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินงานตาม

รูปแบบมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.84 และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านองค์ประกอบของรูปแบบมีค่าเฉลี่ย

เท่ากับ 3.76

โพสต์โดย นภารัตน์ กุลสิริรัตกุล : [23 มี.ค. 2565 เวลา 07:59 น.]
อ่าน [3272] ไอพี : 180.180.178.218
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,042 ครั้ง
ผักผลไม้ฟอกฟันให้ขาวสะอาดได้
ผักผลไม้ฟอกฟันให้ขาวสะอาดได้

เปิดอ่าน 75,054 ครั้ง
ทำไมมีจุดแดงบนหน้าผากสตรีอินเดีย
ทำไมมีจุดแดงบนหน้าผากสตรีอินเดีย

เปิดอ่าน 18,982 ครั้ง
โรคฉี่หนู...เชื้อร้ายที่มาพร้อมหน้าฝน
โรคฉี่หนู...เชื้อร้ายที่มาพร้อมหน้าฝน

เปิดอ่าน 12,552 ครั้ง
เรียนต่ออังกฤษต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มาเจาะลึกกัน
เรียนต่ออังกฤษต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มาเจาะลึกกัน

เปิดอ่าน 9,595 ครั้ง
คุณครูเคยดูหรือยัง : การเรียนการสอนในสิงคโปร์
คุณครูเคยดูหรือยัง : การเรียนการสอนในสิงคโปร์

เปิดอ่าน 4,693 ครั้ง
10 ข้อเสนอจากเวทีระดมสมอง "เปิดเทอมใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม"
10 ข้อเสนอจากเวทีระดมสมอง "เปิดเทอมใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม"

เปิดอ่าน 50,569 ครั้ง
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางการฯ 2551 ชั้นป. 6
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางการฯ 2551 ชั้นป. 6

เปิดอ่าน 12,621 ครั้ง
ระบบออนไลน์ข้อสอบ PISA ใช้งานได้ฟรี ! คลิกที่นี่
ระบบออนไลน์ข้อสอบ PISA ใช้งานได้ฟรี ! คลิกที่นี่

เปิดอ่าน 19,105 ครั้ง
สัญญาณ WiFi มีอันตรายต่อสมองหรือไม่
สัญญาณ WiFi มีอันตรายต่อสมองหรือไม่

เปิดอ่าน 19,097 ครั้ง
ฮอร์โมน : ชีววิทยา
ฮอร์โมน : ชีววิทยา

เปิดอ่าน 25,944 ครั้ง
กำเนิดไอศครีม มาจากที่ใด
กำเนิดไอศครีม มาจากที่ใด

เปิดอ่าน 12,588 ครั้ง
โลโก้ วันเด็กแห่งชาติ ปี 2563
โลโก้ วันเด็กแห่งชาติ ปี 2563

เปิดอ่าน 100,721 ครั้ง
ประเภทของระบบสารสนเทศ
ประเภทของระบบสารสนเทศ

เปิดอ่าน 22,078 ครั้ง
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู

เปิดอ่าน 1,401 ครั้ง
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้

เปิดอ่าน 15,249 ครั้ง
คลี่ปม "หนี้ครู" 1.2 ล้านล้านบาทมาจากไหน?
คลี่ปม "หนี้ครู" 1.2 ล้านล้านบาทมาจากไหน?
เปิดอ่าน 462,262 ครั้ง
สักนิด เตือนสติคุณครู
สักนิด เตือนสติคุณครู
เปิดอ่าน 14,147 ครั้ง
เซอร์บาเดน เพาเวล
เซอร์บาเดน เพาเวล
เปิดอ่าน 69,662 ครั้ง
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562
เปิดอ่าน 13,367 ครั้ง
"เดอะ ฮ็อบบิท" กับทฤษฎีวิวัฒนาการมนุษย์
"เดอะ ฮ็อบบิท" กับทฤษฎีวิวัฒนาการมนุษย์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ