ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

โครงงานน้ำตะไคร้...สมุนไพรเพื่อสุขภาพที่ดี

จากการให้เด็กได้เดินสำรวจบริเวณรอบๆ โรงเรียน เพื่อให้เด็กได้รู้จักการสังเกต และรู้จักชื่อของต้นไม้ พืช ผักแต่ละชนิด เมื่อเด็กเดินไปเจอต้นมะม่วงครูจึงถามว่า มะม่วงมีสีอะไร เด็กๆ ตอบสีเขียวและสีเหลือง และครูก็บอกว่าที่จริงแล้วมะม่วงก็มีสีม่วงด้วย ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่ได้เรียกชื่อว่ามะม่วง การเดินสำรวจบริเวณโรงเรียนของเด็กๆ จึงเกิดความอยากรู้เกี่ยวกับชื่อต้นไม้แต่ละชนิด อยากรู้ว่าจะมีลักษณะ รูปร่าง และสีที่แตกต่างกันอย่างไร เมื่อเด็กเดินไปเจอต้นตะไคร้ จึงถามคำถามว่านั้นต้นอะไร

ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ

จากการนำพาเด็กเดินสำรวจบริเวณรอบๆ โรงเรียน เพื่อเป็นการฝึกทักษะให้เด็กรู้จักการคิดและสังเกตและเกิดคำถามในใจหรือข้อสงสัย โดยมีหัวข้อหรือประเด็นในการเดินสำรวจคือ ให้เด็กๆ รู้จักการคิดและสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว ให้รู้จักต้นไม้สีเขียว พืชผักสีเขียวที่มีลักษณะ รูปร่างแตกต่างกัน แล้วนำเด็กเดินสำรวจไปบริเวณสวนผักของโรงเรียน เด็กๆ จึงถามว่านั่นต้นอะไรครับ มีใบแหลมๆ ยาวๆ ครูจึงถามว่ามีใครบอกครูได้ไหมครับว่าต้นนั้นคือต้นอะไร

จุดประสงค์ เพื่อต้องการรู้ว่าตะไคร้เจริญเติบโตมาได้อย่างไร

ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน

เด็กๆ และครูสนทนาร่วมกันว่าตะไคร้เจริญเติบโตมาได้อย่างไร โดยครูใช้คำถามกระตุ้นเด็กๆ ให้เล่าประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับตะไคร้ตามประสบการณ์ของตนเอง

ขั้นที่ 3 ขั้นทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ

จากคำถามที่ว่า “ตะไคร้เจริญเติบโตขึ้นมาได้อย่างไร” เด็กๆ ได้เรียนรู้ในกิจกรรมการเจริญเติบโตของต้นไม้ เด็กช่วยกันออกแบบกิจกรรมร่วมกัน โดยที่ต้องรู้ก่อนว่าต้นตะไคร้เจริญเติบโตได้อย่างไร โดยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ตรวจสอบวิวัฒนาการของการเจริญเติบโตของต้นตะไคร้ด้วยตนเอง โดยได้เรียนรู้ทางอินเทอร์เน็ตแล้ว คุณครูจึงถามเด็กๆ เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเจริญเติบโตของต้นตะไคร้ ซึ่งได้รับคำตอบ

ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย

จากที่ให้เด็กๆ ไปสอบถามหาข้อมูลตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำมาเล่าให้เพื่อนฟังหน้าชั้นเรียน บางคนไปถามพ่อ แม่ ผู้ปกครอง คุณครู และหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต จึงได้ข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของต้นตะไคร้ มี 4 ระยะ ดังนี้

1. ระยะเตรียมหน่อตะไคร้ โดยหน่อตะไคร้ที่ตัดไปออกไปชำไว้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ก็จะออกราก

2. ระยะเตรียมดินไว้ปลูกหรือระยะนำหน่อที่ออกรากแล้วไปลงแปลงดินหรือว่าดินที่ได้เตรียมไว้โดยการปักชำลงไปในดิน

3. ระยะแตกใบออกและแตกหน่อออกลำต้นหนึ่งก็จะแตกออกอีกประมาณ 5 – 8 ลำต้นเป็นหน่อใหม่เจริญเติบโตโดยการรดน้ำเช้าเย็น ชอบอากาศกลางแจ้ง หรืออยู่บริเวณที่มีแดด และน้ำชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลาก็จะเจริญเติบโตได้ดี

4. ระยะพุ่มสมบูรณ์ก็จะมีใบแหลมคมยาวเรียวและมีลำต้นที่อวบใหญ่ โดยวัดความกว้างได้ประมาณ 1 – 2 เซนติเมตร ก็จะสามารถตัดไปทำประกอบอาหารหรือนำไปจำหน่ายได้ตามที่ต้องการ

ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล

จากการสืบเสาะสังเกตและบรรยายเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการรู้ว่าตะไคร้เจริญเติบโตได้อย่างไร เด็กๆ ทุกคนได้บันทึกผลตามที่ออกแบบไว้ วาดรูปวิวัฒนาการเจริญเติบโตของต้นตะไคร้ แล้วนำมาเล่าสรุปหน้าชั้นเรียนให้เพื่อนๆ ได้ฟัง ซึ่งเด็กๆ ทุกคนสามารถทำได้เป็นอย่างดี

ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล

เด็กๆ และครูได้ร่วมกันสรุปเกี่ยวกับ “ตะไคร้เจริญเติบโตขึ้นมาได้อย่างไร” สามารถสรุปได้ว่า การปลูกตะไคร้ให้เจริญเติบโตสามารถปลูกได้โดยการปักชำต้นเหง้า โดยตัดใบออกให้เหลือตอนโคนประมาณหนึ่งคืบ นำมาปักชำไว้สักหนึ่งสัปดาห์ก็จะมีรากงอกออกมา แล้วนำไปลงแปลงดินที่เตรียมไว้ หรืออาจใช้วิธีเอาโคนปักลงไปที่ดินซึ่งเตรียมไว้เลย ให้ห่างประมาณหนึ่งศอก ถ้าปลูกในกระถางใช้วิธีปักโคนลงในกระถางๆ ละ 2-3 ต้นก็ได้ แล้วหมั่นรดน้ำให้ชุ่มเช้าเย็น ตั้งไว้ให้โดนแดดตลอดวันจะทำให้โตได้เร็ว ตะไคร้ชอบดินร่วนซุย เป็นพืชที่ชอบน้ำ ชอบแดด ดูแลรดน้ำเสมอและโดนแดดได้ตลอดวัน เจริญได้ในดินแทบทุกชนิด เวลาจะใช้ก็ให้ตัดที่โคนสุด ส่วนรากเลย

แล้วถอนออกมาทั้งต้นตามต้องการ ต้องคอยตรวจดูเมื่อตะไคร้มีกอเจริญเติบโตได้เต็มที่แล้ว ต้องถอนทิ้งหรือแยกออกไปปลูกใหม่บ้างหรือเอาไปใช้บ้าง จะนำมาหั่นเป็นฝอยๆ ตากลมไว้ให้แห้งสนิทแล้วแพ็คเก็บไว้ใช้ได้นานๆ เพื่อให้ต้นอ่อนโตขึ้นมาใหม่ ถ้าไม่แยกออกไปต้นจะเล็กและลีบลงเรื่อยๆ และบางที่ก็แคระแกร็น ต้นและกอก็จะโทรม ต้องล้างและปลูกใหม่ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นการแตกหน่อทำให้การปลูกและการขยายพันธ์ได้ง่าย

นอกจากนี้ ครูได้ถามเด็กๆ เพิ่มเติมว่า จากการที่เด็กๆ ได้ปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันจนสามารถรู้ได้ว่าตะไคร้เจริญเติบโตมาได้อย่างไรนั้น เด็กๆ ยังมีคำถามเพิ่มเติมอีกไหมครับ เด็กๆ สามารถยกมือถามสิ่งที่อยากรู้ได้นะครับ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กๆ สามารถแสดงความคิดเห็นหรือตั้งคำถามเพิ่มเติมได้ และมีเด็กที่ต้องการแสดงความคิดเห็นและถามคำถาม

ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย

1. ผลการพัฒนาความสามารถพื้นฐาน 4 ด้าน

1.1 ด้านการเรียนรู้

- เด็กสามารถบอกเล่าวิธีการหาคำตอบของตนเองได้

- เด็กได้เรียนรู้วิวัฒนาการเจริญเติบโตของต้นตะไคร้

1.2 ด้านภาษา

- เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาจากการสนทนาโต้ตอบแสดงความคิดเห็น

- เด็กมีทักษะในด้านการพูดคุย สื่อสาร บรรยาย บอกเล่าสิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้

1.3 ด้านสังคม

- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี

- เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น

1.4 ด้านการเคลื่อนไหวและทักษะการรับรู้ประสาทสัมผัส

- เด็กได้ใช้กล้ามเนื้อมือมัดเล็กและกล้ามเนื้อมือมัดใหญ่ในการเคลื่อนไหวหยิบจับ เดินสำรวจ

และได้หยิบจับอุปกรณ์วาดภาพระบายสีได้อย่างคล่องแคล่ว

2. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

2.1 ทักษะการสังเกต

- เด็กสามารถบอกลักษณะของต้นตะไคร้ เช่น ลำต้นกลม ยาว เหมือนแท่งดินสอ ใบยาวเรียวรี

2.2 ทักษะการจำแนกประเภท

- เปรียบเทียบสิ่งที่คาดคะเนกับผลการศึกษาได้

2.3 ทักษะการพยากรณ์หรือคาดคะเนคำตอบ

- เด็กสามารถคาดคะเนคำตอบที่คิดว่าต้นตะไคร้เจริญเติบโตขึ้นมาได้อย่างไร

2.4 ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล

- เด็กสามารถสรุปผลสิ่งที่สังเกต โดยการวาดภาพ เล่าเรื่องให้ครูและเพื่อนๆ ฟัง และสามารถนำเสนอหน้าชั้นเรียนให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจถูกต้อง ชัดเจน

2.5 ทักษะการลงความคิดเห็นจากข้อมูล

- เด็กสามารถให้เหตุผลเพิ่มเติมโดยใช้ความคิดเห็นส่วนตัว และประสบการณ์เดิมแสดง

ความคิดเห็นต่างๆ ได้

2.6 ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปส และสเปสกับเวลา

- สามารถบอกสถานที่ที่เหมาะสมกับการปลูกตะไคร้ และสามารถบอกทิศทางที่จะเดินไปซ้ายหรือขวาได้ตามคำสั่งหรือเดินไปได้ตามต้องการ

โพสต์โดย ปริญญา ภูหวล (ป.กุลวัฒน์) : [15 มี.ค. 2565 เวลา 16:28 น.]
อ่าน [66905] ไอพี : 223.204.61.120
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 5,592 ครั้ง
"ไข่มดแดง" โปรตีนสูง-ไขมันต่ำ กรมอนามัยแนะ เลี่ยงกินสุก ๆ ดิบ ๆ เสี่ยงท้องร่วง
"ไข่มดแดง" โปรตีนสูง-ไขมันต่ำ กรมอนามัยแนะ เลี่ยงกินสุก ๆ ดิบ ๆ เสี่ยงท้องร่วง

เปิดอ่าน 13,808 ครั้ง
มิติใหม่การศึกษา ... เดินหน้า TEPE Online พัฒนา "ครู" สนับสนุน "ครูตู้" พัฒนาเด็กไทยอย่างเท่าเทียม
มิติใหม่การศึกษา ... เดินหน้า TEPE Online พัฒนา "ครู" สนับสนุน "ครูตู้" พัฒนาเด็กไทยอย่างเท่าเทียม

เปิดอ่าน 21,915 ครั้ง
วิธีการดูแลรักษาหน้าจอ Touch Screen
วิธีการดูแลรักษาหน้าจอ Touch Screen

เปิดอ่าน 34,703 ครั้ง
ศธ.สั่งลดเวลาเรียนในห้องเรียน เหลือเพียง 14.00 น. เด็กจะได้..
ศธ.สั่งลดเวลาเรียนในห้องเรียน เหลือเพียง 14.00 น. เด็กจะได้..

เปิดอ่าน 7,736 ครั้ง
"หรือฉันจะเป็นแม่ที่แย่ที่สุด" คลิปดูแล้วอาจจะน้ำตาไหล โดยเฉพาะคนเป็นแม่
"หรือฉันจะเป็นแม่ที่แย่ที่สุด" คลิปดูแล้วอาจจะน้ำตาไหล โดยเฉพาะคนเป็นแม่

เปิดอ่าน 65,453 ครั้ง
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่

เปิดอ่าน 40,693 ครั้ง
จัดโต๊ะทำงาน ตามฮวงจุ้ย
จัดโต๊ะทำงาน ตามฮวงจุ้ย

เปิดอ่าน 25,976 ครั้ง
เคล็ดลับๆก่อนอาบน้ำ
เคล็ดลับๆก่อนอาบน้ำ

เปิดอ่าน 12,282 ครั้ง
แชร์สนั่น!คลิปสาวนักพากย์คนใหม่
แชร์สนั่น!คลิปสาวนักพากย์คนใหม่

เปิดอ่าน 14,430 ครั้ง
สีสันกับสุขภาพจิต
สีสันกับสุขภาพจิต

เปิดอ่าน 14,211 ครั้ง
ชมย้อนหลังวอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-1เซตเมื่อ 16ก.ย.56
ชมย้อนหลังวอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-1เซตเมื่อ 16ก.ย.56

เปิดอ่าน 1,340 ครั้ง
ประโยชน์ของผลไม้สีแดง
ประโยชน์ของผลไม้สีแดง

เปิดอ่าน 28,581 ครั้ง
แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการพ.ศ. 2550 - 2554
แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการพ.ศ. 2550 - 2554

เปิดอ่าน 15,744 ครั้ง
15 วิธีการเลือกรถยนต์มือสองด้วยตัวเอง
15 วิธีการเลือกรถยนต์มือสองด้วยตัวเอง

เปิดอ่าน 13,744 ครั้ง
นม ร.ร.ป้องกัน มะเร็ง ช่วยไม่ให้เกิดขึ้นเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่
นม ร.ร.ป้องกัน มะเร็ง ช่วยไม่ให้เกิดขึ้นเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่

เปิดอ่าน 26,365 ครั้ง
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ
เปิดอ่าน 31,299 ครั้ง
โรงเรียนต้องปรับตัวอย่างไร เมื่อโควิด-19 รุกรานการศึกษา
โรงเรียนต้องปรับตัวอย่างไร เมื่อโควิด-19 รุกรานการศึกษา
เปิดอ่าน 33,057 ครั้ง
ล้างพิษตับ ขับสารพิษ...เทรนด์สุขภาพสุดฮิต พ.ศ. นี้
ล้างพิษตับ ขับสารพิษ...เทรนด์สุขภาพสุดฮิต พ.ศ. นี้
เปิดอ่าน 3,129 ครั้ง
"วิศวกรเสียง สจล." แนะ 5 เทคนิคเลือกหูฟังถนอมหู
"วิศวกรเสียง สจล." แนะ 5 เทคนิคเลือกหูฟังถนอมหู
เปิดอ่าน 33,882 ครั้ง
แตงกวา พืชใช้น้ำน้อย ปลูกข้างบ้านได้
แตงกวา พืชใช้น้ำน้อย ปลูกข้างบ้านได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ