|
|
อภิปรายผล
จากผลการศึกษาครั้งนี้ มีประเด็นที่น่าสนใจและสามารถนำมาอภิปรายผล ดังนี้
1. การหาประสิทธิภาพแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียน ชุด ตะลุยเมืองมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนบ้านแบรอ มีประสิทธิภาพ 84.87/83.42 หมายความว่า นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยระหว่างฝึกปฏิบัติกิจกรรมในแบบฝึกเสริมทักษะทั้ง 9 เล่ม คิดเป็นร้อยละ 84.87 และคะแนนจากการทำแบบทดสอบหลังเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียน ชุด ตะลุยเมืองมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 คิดคะแนนเฉลี่ย 9 เล่ม เป็นร้อยละ 83.42 แสดงว่าแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียน ชุด ตะลุยเมืองมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ได้ตั้งไว้ การที่แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียน ชุด ตะลุยเมืองมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพนั้น ทั้งนี้อาจเนื่องจากแบบฝึกเสริมทักษะที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น ได้ดำเนินการสร้างตามขั้นตอนการสร้างแบบฝึกเสริมทักษะ โดยได้ศึกษาหลักสูตรวิเคราะห์และศึกษาวิธีการสร้างตามขั้นตอน ทั้งยังนำแบบฝึกเสริมทักษะที่สร้างขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาให้คำแนะนำ ปรับปรุงและแก้ไขก่อนนำไปทดลองใช้เพื่อหาคุณภาพ ทั้งนี้เพื่อให้แบบฝึกเสริมทักษะที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีคุณภาพก่อนที่จะนำไปทดลองใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่าง จึงทำให้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียน ชุด ตะลุยเมืองมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพนักเรียนได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริงควบคู่ไปกับการบูรณาการการสอนของจรวย จันทร์ทองพูน (๒๕๕๘) ได้ศึกษาผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่มีตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านท่าหิน จังหวัดสตูล ผลการศึกษา พบว่า ผลการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่มีตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพ เท่ากับ ๘๕.๕๒/๘๓.๕๐ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 เบญจมาศ วงศ์วาลย์ (2559) ได้วิจัยผลการใช้ชุดกิจกรรมการอ่านที่มีต่อความสามารถในการอ่านมาตราตัวสะกดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดโยธีราษฎร์ศรัทธาราม จังหวัดนครนายกแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 85.63/80.12 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80/80 นอกจากนั้น อรุณรัตน์ ระวิโชติ (2560) ได้ศึกษาผลการใช้แบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 85.63/80.12 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80/80
2. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียน ชุด ตะลุยเมืองมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนบ้านแบรอ ผลปรากฏว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียน แสดงว่าแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง ที่ฝึกมากยิ่งขึ้นซึ่ง ประดับ ยอดดี (2557) ได้ศึกษาการพัฒนาการอ่านและเขียนโดยใช้แบบฝึกกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบฝึกการอ่านและเขียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนผลการศึกษาพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกการอ่านและการเขียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติทีระดับ .05 และฐิติวรรณ วัฒนรังสี (2556) ได้ศึกษาการจัดการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษา โดยใช้หนังสือประกอบการเรียน เรื่อง มาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย หนังสือประกอบการเรียน เรื่อง มาตราตัวสะกด แผนการจัดการเรียน แบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษา แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนต่อหนังสือประกอบการเรียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ผลการศึกษาพบว่า หนังสือประกอบการเรียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษามีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.07/83.47 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษา โดยใช้หนังสือประกอบการเรียน เรื่อง มาตราตัวสะกด หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและเขียน ชุด ตะลุยเมืองมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียน ชุด ตะลุยเมืองมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้อาจเนื่องจากแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียน ชุด ตะลุยเมืองมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 นั้น ได้เรียงลำดับเนื้อหาจากง่ายไปหายาก จากเนื้อหาที่เรียนตามหลักสูตร บูรณาการควบคู่ไปกับกิจกรรมการเรียนที่สนุกสนานที่มีลำดับขั้นตอนการทำกิจกรรมอย่างเป็นระบบ ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และทำกิจกรรมการเรียนด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับผลงานวิจัยของประดับ ยอดดี (2557) ได้ศึกษาการพัฒนาการอ่านและเขียนคำตามมาตราตัวสะกดโดยใช้แบบฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึก การอ่านและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึก 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกการอ่านและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นปะถมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนบ้านยะวึก (ผจงราษฎร์วิทยาคาร) ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2555 จำนวน 25 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบฝึกการอ่านและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และทดสอบค่าที (ttest แบบ Dependent samples) ผลการศึกษาพบว่า 1) ประสิทธิภาพของแบบฝึกการอ่านและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 87.38/86.83 2) ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกการอ่านและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7452 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกการอ่านและเขียนคำตามมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) นักเรียนมีความ พึงพอใจต่อการพัฒนาการอ่านและเขียนคำตามมาตราตัวสะกด โดยใช้แบบฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
|
โพสต์โดย รีน : [11 มี.ค. 2565 เวลา 05:43 น.] อ่าน [3676] ไอพี : 49.48.241.111
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 14,392 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,010 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,394 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,793 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,907 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,213 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,791 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,424 ครั้ง
| เปิดอ่าน 114,037 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,728 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,085 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,402 ครั้ง
| เปิดอ่าน 56,347 ครั้ง
| เปิดอ่าน 63,960 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,734 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 14,233 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,521 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,524 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,439 ครั้ง
| เปิดอ่าน 64,802 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|