บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียน
ตำบลโคกกรวด(ผดุงรัฐประชานุกูล) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบแบบฝึกทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 7 แผน แบบฝึกทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 7 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 ข้อ และ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ มัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 10 ข้อ การหาค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 80/80 คำนวณจากสูตร E1/E2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ t-test (Dependent) การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความยากง่าย (P) ค่าอำนาจจำแนก (B) และค่าความเชื่อมั่น (rcc)
ผลการศึกษา
1. แบบฝึกทักษะไวยากรณ์อังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพโดยรวมเท่ากับ 82.37/81.03 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1โดยเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.75,
S.D.= 0.44)