ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐาน ทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐาน

ทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้

ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3

ผู้วิจัย นางอุษาวดี ซงตายา ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาล 3 (วิมุกตายนวิทยา) สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก

จังหวัดนราธิวาส

ปีที่ศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สรุปสาระที่ได้จากการวิจัย โดยมีวัตถุประสงค์ 4 ประการ (1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัย (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 (4) เพื่อประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยมีขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research: R1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research : R2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 Implement: l) และขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development: D2) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 (Evaluation: E) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบไปด้วยค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t–test (Independent Sample t – test)

ผลการวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐาน ทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานได้รูปแบบการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบ 3 ขั้นตอน ดังนี้

1.1 ขั้นนำ หมายถึง การเตรียมเด็กให้พร้อมในการเรียนโดยใช้กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อ

เข้าสู่หน่วยการจัดประสบการณ์ ดังนี้ ทักทายเด็ก เตรียมความพร้อมเด็ก แนะนำหน่วยการจัดประสบการณ์นำเข้าสู่หน่วยการจัดประสบการณ์ด้วยคำคล้องจอง เพลง ปริศนาคำทาย สัมผัสกล่องปริศนา สถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับกิจกรรม

1.2 ขั้นกระบวนการเรียนรู้ หมายถึง การดำเนินการจัดกิจกรรมใช้กระบวน การเรียนรู้ 5 ขั้นตอน เป็นการจัดกิจกรรมที่กระตุ้นให้เด็กได้เรียนรู้ คิด ลงมือปฏิบัติ สำรวจ ทดลอง สืบค้น เก็บรวบรวมข้อมูล โดยการใช้คำถาม สังเกต เปรียบเทียบ อธิบายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ เกิดการค้นพบ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม นำเสนอผลงาน ประเมินการเรียนรู้ร่วมกับครูและเพื่อนซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้

ขั้นที่ 1 ตั้งคำถาม หมายถึง การที่ครูจัดกิจกรรมโดยกระตุ้นเร้าความสนใจให้เด็กเกิดความอยากรู้อยากเห็น ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างใดอย่างหนึ่งที่เชื่อมโยงจากขั้นนำโดยครูใช้คำถามปลายเปิดเพื่อให้เด็กมุ่งความสนใจสู่เรื่องที่จะเรียน

ขั้นที่ 2 แสวงหาสารสนเทศ หมายถึง การที่ครูจัดกิจกรรมให้เด็กได้ค้นหาคำตอบจากข้อสงสัยด้วยการทำงานเป็นกลุ่ม วางแผนการสำรวจตรวจสอบ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการที่หลากหลาย ได้แก่ การสำรวจ สังเกต สืบค้น ทดลอง การสนทนา ซักถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น บันทึกข้อมูลการสำรวจตรวจสอบ

ขั้นที่ 3 สร้างความรู้ หมายถึง การที่ครูจัดกิจกรรมให้เด็กนำสิ่งที่ค้นพบจาก

การสำรวจ สังเกต สืบค้น มาสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยครูเชื่อมโยงสรุปความรู้เพื่อให้เข้าใจอย่างถูกต้องและบันทึกข้อมูลความรู้

ขั้นที่ 4 สื่อความหมาย หมายถึง การที่ครูจัดกิจกรรมให้เด็กนำเสนอบันทึก

ข้อมูล สรุปความรู้ด้วยการพูดอธิบาย มีกิจกรรม

ขั้นที่ 5 ขั้นประยุกต์และนำไปใช้ หมายถึง การที่ครูจัดกิจกรรมให้เด็กนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ โดยครูใช้คำถามให้เด็กหาคำตอบจากเหตุการณ์ใหม่ที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์เดิม ซึ่งเด็กตอบได้ หลากหลายวิธี เช่น การเล่าหรือสร้างผลงานใหม่ ครูสังเกตการให้เหตุผลของเด็ก ในการนำ ความรู้หรือประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้ในสถานการณ์ใหม่โดยการนำแนวคิดตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาวิเคราะห์ การดำเนินชีวิตตามหลักพอเพียง

1.3 ขั้นสรุป หมายถึง การสรุปเรื่องที่เรียนรู้ด้วยกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งผ่านการตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็น การแสดงผลงาน

2. รูปแบบการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด (มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00- 4.80) และความคิดเห็นของครูปฐมวัยต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีผลประเมินโดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 2.70, S.D. = 0.47)

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แสดงว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของรูปแบบการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถใน การแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ทำให้เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้เพิ่มขึ้น

4. ผลการประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย ดังนี้

4.1 เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์หลังใช้รูปแบบ การจัดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ถือว่าผ่านเกณฑ์

4.2 เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้หลังใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ถือว่าผ่านเกณฑ์

4.3 เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากถือว่าผ่านเกณฑ์

โพสต์โดย นิง : [28 ก.พ. 2565 เวลา 03:34 น.]
อ่าน [3378] ไอพี : 182.52.115.155
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,872 ครั้ง
ลักษณะของช้างดี
ลักษณะของช้างดี

เปิดอ่าน 318,303 ครั้ง
Nouns เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)
Nouns เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)

เปิดอ่าน 12,979 ครั้ง
ว่านชักมดลูก
ว่านชักมดลูก

เปิดอ่าน 24,317 ครั้ง
เพลง "วันแม่"
เพลง "วันแม่"

เปิดอ่าน 60,215 ครั้ง
สูตรคูณ
สูตรคูณ

เปิดอ่าน 21,768 ครั้ง
วิธีซ่อมก๊อกน้ำรั่ว
วิธีซ่อมก๊อกน้ำรั่ว

เปิดอ่าน 30,838 ครั้ง
ดร.ไพฑูรย์ ศรีฟ้า
ดร.ไพฑูรย์ ศรีฟ้า

เปิดอ่าน 30,760 ครั้ง
นมวัว กับ นมถั่วเหลือง.. นมไหนดีกว่ากัน
นมวัว กับ นมถั่วเหลือง.. นมไหนดีกว่ากัน

เปิดอ่าน 13,750 ครั้ง
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค

เปิดอ่าน 22,299 ครั้ง
วิธีดูสุริยุปราคาที่ถูกต้อง
วิธีดูสุริยุปราคาที่ถูกต้อง

เปิดอ่าน 15,487 ครั้ง
ประวัติวันเด็กแห่งชาติ
ประวัติวันเด็กแห่งชาติ

เปิดอ่าน 19,687 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 31,703 ครั้ง
พายุไต้ฝุ่น
พายุไต้ฝุ่น

เปิดอ่าน 26,010 ครั้ง
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัย
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัย

เปิดอ่าน 22,020 ครั้ง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง

เปิดอ่าน 82,539 ครั้ง
รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้ผล
รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้ผล
เปิดอ่าน 12,716 ครั้ง
ภาพรวมวันหยุดราชการประจำปี และ การกำหนดให้วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันฉัตรมงคล
ภาพรวมวันหยุดราชการประจำปี และ การกำหนดให้วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันฉัตรมงคล
เปิดอ่าน 12,035 ครั้ง
ฉลาดคิด-เตือนฝนผ่านมือถือ
ฉลาดคิด-เตือนฝนผ่านมือถือ
เปิดอ่าน 113,875 ครั้ง
ความเชื่อของชาวอีสาน
ความเชื่อของชาวอีสาน
เปิดอ่าน 11,158 ครั้ง
นอน ถูกท่า ถูกวิธี.. เพิ่มความงามแบบไม่รู้ตัว
นอน ถูกท่า ถูกวิธี.. เพิ่มความงามแบบไม่รู้ตัว

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ