บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของการจัดการเรียนรู้
ภาษาไทยเพื่อเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม 2) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม 3) สร้างโปรแกรมการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม การดำเนินการวิจัยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนาแบ่งออกเป็น3 ระยะประกอบด้วย
ระยะที่ 1 การศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อ
เสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม ยืนยันโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน
ระยะที่ 2 การศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการจัดการเรียนรู้
ภาษาไทยเพื่อเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยจำนวน 86 คน
ระยะที่ 3 การพัฒนาโปรแกรมการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อ
เสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคามยืนยันโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คนเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และแบบประเมิน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเทคนิค Modified Priority Needs Index ( PNImodified ) ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1.องค์ประกอบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อเสริมสร้างการคิดอย่างมี
วิจารณญาณของนักเรียนสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคามประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ 23 ตัวชี้วัดยืนยันโดยผู้ทรงคุณวุฒิโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
2.สภาพปัจจุบันของการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อเสริมสร้างการคิดอย่างมี
วิจารณญาณของนักเรียนสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม โดยรวมอยู่ในระดับมากและสภาพ ที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
3.โปรแกรมการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อเสริมสร้างการคิด
อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม ที่พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบของโปรแกรมได้แก่ 1)หลักการของโปรแกรม 2) วัตถุประสงค์ของโปรแกรม3) เป้าหมายของโปรแกรม 4) เนื้อหาและกิจกรรมพัฒนาของโปรแกรมประกอบด้วย 6 Module คือ 4.1) การกำหนดจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ 4.2) การพิจารณาความพร้อมของผู้เรียน 4.3) การกำหนดเนื้อหา 4.4) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4.5) การประเมินผลและ 4.6) ข้อมูลป้อนกลับใช้ระยะเวลา 118 ชั่วโมงวิธีการพัฒนาได้แก่การอบรมและการพัฒนาตนเองโดยดำเนินการพัฒนา 4 ขั้นได้แก่ ขั้นที่ 1 การประเมินก่อนการพัฒนา ขั้นที่ 2 การพัฒนาขั้นที่ 3 การบูรณาการระหว่างปฏิบัติงานขั้นที่ 4 การประเมินหลังการพัฒนาและ 5) การประเมินผลโปรแกรมผลการประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิพบว่าความเป็นประโยชน์ความเป็นไปได้และความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด