ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบห้องเรียนกลับด้านบนคลาวด์ โดยบูรณาการการเรียนรู้ใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบห้องเรียนกลับด้านบนคลาวด์ โดยบูรณาการการเรียนรู้ใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางสาวหนึ่งฤทัย คาร

ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ปีที่วิจัย 2563

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบห้องเรียนกลับด้านบนคลาวด์ โดยบูรณาการการเรียนรู้ใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบห้องเรียนกลับด้านบนคลาวด์ โดยบูรณาการการเรียนรู้ใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบห้องเรียนกลับด้านบนคลาวด์ โดยบูรณาการการเรียนรู้ใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบห้องเรียนกลับด้านบนคลาวด์โดยบูรณาการการเรียนรู้ใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4)ประเมินความพึ่งพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบห้องเรียนกลับด้านบนคลาวด์ โดยบูรณาการการเรียนรู้ใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์และการคิดวิเคราะห์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก เทศบาลนครนครศรีธรรมราช 1 ห้องเรียน จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบห้องเรียนกลับด้านบนคลาวด์ โดยบูรณาการการเรียนรู้ใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และ 5) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t-test) แบบไม่อิสระ (Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัย พบว่า

1. ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์เห็นด้วยกับการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบห้องเรียนกลับด้านบนคลาวด์ โดยบูรณาการการเรียนรู้ใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ มาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน ตามรูปแบบ “OWAPAE Model” ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นการเรียนรู้นอกห้องเรียน 2) ขั้นเตรียมความพร้อมเข้าสู่ห้องเรียน 3) ขั้นทำกิจกรรมรวบรวมความรู้ 4) ขั้นนำเสนอผลงาน 5) ขั้นวิเคราะห์และประยุกต์ใช้ และ6) ขั้นประเมินผล โดยผลการตรวจสอบความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎีมีค่าดัชนีความสอดคล้องรายข้อระหว่าง 0.8-1.00 ความเป็นไปได้ของรูปแบบการเรียนการสอน มีค่าดัชนีความสอดคล้องรายข้อระหว่าง 0.8-1.00 แสดงให้เห็นว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้ดังกล่าวมีความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎีและมีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้

2. ผลจากการตรวจสอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้ “OWAPAE Model” จากผู้เชี่ยวชาญ ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยการสอบถามและการสัมภาษณ์ พบว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ “ OWAPAE Model” สนับสนุนการเรียนรู้ตามศักยภาพของผู้เรียนอย่างแท้จริง ผู้เรียนเรียนรู้นอกห้องเรียนจากแหล่งเรียนรู้ที่ครูเตรียมไว้บนเทคโนโลยีคลาวด์ ในห้องเรียนจะทำกิจกรรมเพื่อเพิ่มความความเข้าใจยิ่งขึ้น ค่าประสิทธิภาพ E1 /E2 จากการทดลองภาคสนาม มีค่าเท่ากับ 83.50/83.22 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ และเมื่อนำมาใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน ได้ค่าประสิทธิภาพ E1 /E2 เท่ากับ 84.17/83.63 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80

3. ผลจากการประเมินความสามารถในการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบห้องเรียนกลับด้านบนคลาวด์ โดยบูรณาการการเรียนรู้ใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบห้องเรียนกลับด้านบนคลาวด์ อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.51, S.D.=0.58) และเมื่อแยกเป็นรายด้านเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย พบว่ามีความพึงพอใจด้านการออกแบบรูปแบบการสอน อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.62, S.D.=0.51) ด้านเนื้อหาการเรียนการสอนความพอใจมากสุด (x̄ = 4.53, S.D.=0.60) และด้านการออกแบบสื่อการเรียนรู้บนคลาวด์มีความพอใจอยู่ระดับมาก (x̄ = 4.43, S.D.=0.57)

โพสต์โดย เบื้องหลังแห่งความสำเร็จ : [26 ก.พ. 2565 เวลา 18:03 น.]
อ่าน [3622] ไอพี : 134.236.32.111
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,545 ครั้ง
เพราะเหตุใดขณะที่ต้มไข่ จึงมีฟองอากาศลอยออกมา
เพราะเหตุใดขณะที่ต้มไข่ จึงมีฟองอากาศลอยออกมา

เปิดอ่าน 27,320 ครั้ง
ยก "ครู" เป็นอาชีพทรงเกียรติ เด็กจึงจะเรียนเก่ง ตอน1
ยก "ครู" เป็นอาชีพทรงเกียรติ เด็กจึงจะเรียนเก่ง ตอน1

เปิดอ่าน 110,078 ครั้ง
มรรค 8 ( อัฏฐังคิกมรรค )
มรรค 8 ( อัฏฐังคิกมรรค )

เปิดอ่าน 2,964 ครั้ง
ยางนา
ยางนา

เปิดอ่าน 12,246 ครั้ง
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน

เปิดอ่าน 27,956 ครั้ง
ทำไมจึงไม่บรรจุน้ำอัดลมให้เต็มขวด?
ทำไมจึงไม่บรรจุน้ำอัดลมให้เต็มขวด?

เปิดอ่าน 15,982 ครั้ง
5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30
5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30

เปิดอ่าน 22,089 ครั้ง
ความรู้ ความเชื่อ และการปฏิบัติ
ความรู้ ความเชื่อ และการปฏิบัติ

เปิดอ่าน 9,528 ครั้ง
เคล็ดลับปรุงกาแฟแคลอรีต่ำ
เคล็ดลับปรุงกาแฟแคลอรีต่ำ

เปิดอ่าน 19,523 ครั้ง
ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินการปฏิบัติงานของข้าราชการ และ[คำสั่งมอบอำนาจการสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน
ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินการปฏิบัติงานของข้าราชการ และ[คำสั่งมอบอำนาจการสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน

เปิดอ่าน 25,431 ครั้ง
เมฆสีรุ้ง
เมฆสีรุ้ง

เปิดอ่าน 12,793 ครั้ง
"แอพฟรี"สูบแบตเตอรี่กว่าแอพเสียเงินจริงหรือ?
"แอพฟรี"สูบแบตเตอรี่กว่าแอพเสียเงินจริงหรือ?

เปิดอ่าน 17,283 ครั้ง
คึกคัก! นักท่องเที่ยวแห่ชม แมงกะพรุนหลากสี จ.ตราด ห้องพักเต็ม
คึกคัก! นักท่องเที่ยวแห่ชม แมงกะพรุนหลากสี จ.ตราด ห้องพักเต็ม

เปิดอ่าน 1,985 ครั้ง
Water Fasting คืออะไร ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า
Water Fasting คืออะไร ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า

เปิดอ่าน 23,348 ครั้ง
แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์
แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์

เปิดอ่าน 38,264 ครั้ง
TOEFL คืออะไร
TOEFL คืออะไร
เปิดอ่าน 46,496 ครั้ง
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก
เปิดอ่าน 37,624 ครั้ง
เด็กๆ ควรใช้นิ้วมือในการนับเลขหรือไม่
เด็กๆ ควรใช้นิ้วมือในการนับเลขหรือไม่
เปิดอ่าน 9,349 ครั้ง
สำรวจบ้าน-พิชิตโรค
สำรวจบ้าน-พิชิตโรค
เปิดอ่าน 19,091 ครั้ง
การออกแบบมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์
การออกแบบมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ