ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์

ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา

(CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)

ชื่อผู้วิจัย นางสาวทิวาพร โพธิ์หลวง

ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านชุมแสง)

อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์

ปีที่ศึกษา 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา อุปสรรคด้านความรู้ และความจำเป็นในการประเมินทักษะและกระบวนการคิด สำหรับครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 2) สร้างแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) 3) ทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) 4) ประเมินผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านชุมแสง) อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์ครูเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ปัญหา อุปสรรคด้านความรู้และการประเมินทักษะ และกระบวนการคิด สำหรับครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 2) แบบสอบถามความคิดเห็นครูเกี่ยวกับความจำเป็นในการประเมินทักษะและกระบวนการคิดในการจัด การเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 3) แบบฝึกทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) จำนวน 5 ชุด 4) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) จำนวน 17 แผน 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ จำนวน 30 ข้อ และ 6) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 ข้อ ระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินการทดลอง 17 ชั่วโมง แบบแผนการทดลองเป็นแบบ One-Group Pretest-Posttest Design สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test dependent samples)

ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน พบว่า จากรายงานผลการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ประจำปีการศึกษา 2561-2562 ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านชุมแสง) ปีการศึกษา 2561 ในภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 58.43 ปีการศึกษา 2562 ในภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ย 61.02 เมื่อดำเนินการวิเคราะห์ผลการสอบจะเห็นว่า คะแนนทดสอบในกลุ่มสาระภาษาอังกฤษ มีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าทุกสาระและเมื่อพิจารณา ผลการทดสอบตามสาระการเรียนรู้ พบว่า การอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร มีคะแนนเฉลี่ยเป็น 60.19 จึงเป็นข้อสรุปที่โรงเรียนควรเร่งพัฒนาในสาระดังกล่าว

2. ก่อนการทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) ได้มีการหาคุณภาพความสอดคล้องและประสิทธิภาพก่อนนำมาใช้ทดลองและนำไปทดลองกับกลุ่มตัวอย่างแล้ว พบว่า มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 โดยมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 84.95/83.33 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

3. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 โดยมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 87.24/85.04 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษา ต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างภายหลังที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) สูงกว่าก่อนได้รับการสอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ภายหลังการเรียนโดยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD พบว่า ในภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษา ต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย กิตติพล ทิพย์วรรณ : [26 ก.พ. 2565 เวลา 12:15 น.]
อ่าน [63641] ไอพี : 110.77.134.225
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 91,941 ครั้ง
หลักการใช้ Verb to have
หลักการใช้ Verb to have

เปิดอ่าน 110,226 ครั้ง
วิธีซักผ้าที่มีรอยเปื้อนชนิดต่าง ๆ
วิธีซักผ้าที่มีรอยเปื้อนชนิดต่าง ๆ

เปิดอ่าน 3,128 ครั้ง
"วิศวกรเสียง สจล." แนะ 5 เทคนิคเลือกหูฟังถนอมหู
"วิศวกรเสียง สจล." แนะ 5 เทคนิคเลือกหูฟังถนอมหู

เปิดอ่าน 18,373 ครั้ง
สาววัย 27 ปีบริจาคตับช่วยชีวิตครูวัย 57 ปี เพราะซาบซึ้งบุญคุณที่เคยสอน
สาววัย 27 ปีบริจาคตับช่วยชีวิตครูวัย 57 ปี เพราะซาบซึ้งบุญคุณที่เคยสอน

เปิดอ่าน 18,953 ครั้ง
สรรพคุณของ "เสลดพังพอนตัวผู้"
สรรพคุณของ "เสลดพังพอนตัวผู้"

เปิดอ่าน 179,374 ครั้ง
หลักการออกแบบของ ADDIE model
หลักการออกแบบของ ADDIE model

เปิดอ่าน 53,389 ครั้ง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง

เปิดอ่าน 37,839 ครั้ง
มาฝึกออกเสียง 40 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานกันเถอะ
มาฝึกออกเสียง 40 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานกันเถอะ

เปิดอ่าน 17,914 ครั้ง
เอกสารแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558
เอกสารแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558

เปิดอ่าน 100,961 ครั้ง
จุดมุ่งหมายทั่วไปของการวิจัย
จุดมุ่งหมายทั่วไปของการวิจัย

เปิดอ่าน 103,383 ครั้ง
20 เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้
20 เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้

เปิดอ่าน 11,123 ครั้ง
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.

เปิดอ่าน 2,047 ครั้ง
ที่พักภูเก็ต รวมตัวเลือกหลากหลายพร้อมทริกจองที่พักสุดคุ้ม
ที่พักภูเก็ต รวมตัวเลือกหลากหลายพร้อมทริกจองที่พักสุดคุ้ม

เปิดอ่าน 17,274 ครั้ง
สื่อดิจิทัล "Learning Object" ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว
สื่อดิจิทัล "Learning Object" ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว

เปิดอ่าน 16,746 ครั้ง
จำปี ดอกจำปี ต้นจำปี
จำปี ดอกจำปี ต้นจำปี

เปิดอ่าน 242,961 ครั้ง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง
เปิดอ่าน 21,705 ครั้ง
ฟินแลนด์ vs ไทย อะไรคือกุญแจแห่งความสำเร็จทางการศึกษา
ฟินแลนด์ vs ไทย อะไรคือกุญแจแห่งความสำเร็จทางการศึกษา
เปิดอ่าน 33,062 ครั้ง
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"
เปิดอ่าน 270,987 ครั้ง
การประดิษฐ์ของใช้และของตกแต่ง
การประดิษฐ์ของใช้และของตกแต่ง
เปิดอ่าน 11,786 ครั้ง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ