ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศ

ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้

(7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง

แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้วิจัย จารุวรรรณ ปานวิจิตร

สังกัด โรงเรียนต้นแก้วผดุงพิทยาลัย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนาชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 3) ทดลองใช้ชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4) ประเมินผลและปรับปรุงชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนต้นแก้วผดุงพิทยาลัย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 1 ห้องเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 24 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์และแบบสนทนากลุ่ม 2) ชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ 3) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา และ 5) แบบสำรวจความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ทดสอบสมมติฐาน โดยใช้ค่าทีและวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) แล้วนำเสนอแบบพรรณนาความ

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ผลการวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนต้นแก้ว ผดุงพิทยาลัย ที่จัดให้ผู้เรียนได้เรียนเนื้อหาเรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน วิชาวิทยาศาสตร์ เวลา 18 ชั่วโมง สำหรับองค์ประกอบของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สำคัญ มีดังนี้ ชื่อชุดฝึก คำนำ สารบัญ คำชี้แจง วัตถุประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ และแบบทดสอบหลังเรียน และจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า

2. ลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.80-1.00 ค่าประสิทธิภาพแบบรายบุคคล (Individual Tryout) เท่ากับ 64.47/64.18 ค่าประสิทธิภาพแบบกลุ่มย่อย (Small Group Tryout) เท่ากับ 73.01/72.50 และค่าประสิทธิภาพแบบภาคสนาม (Field Tryout) เท่ากับ 78.76/76.93

3. ผลการทดลองใช้ชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 24 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนต้นแก้วผดุงพิทยาลัย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า 1) ประสิทธิภาพ คือ E1/E2 เท่ากับ 78.63/77.83 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 2) นักเรียนมีความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเมื่อนักเรียนได้ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ให้ความสนใจในการเรียนรู้และฝึก การทำกิจกรรมบ่อยครั้ง จึงทำให้บรรยากาศในชั้นเรียนเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระดับความสามารถในการเรียนของนักเรียนจึงสูงขึ้น

4. ผลการประเมินและปรับปรุงชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ ด้านผลการประเมินความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา ก่อนและหลังใช้ชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาหลังใช้ชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับดี และด้านผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7Es) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามแนวคิดทฤษฎีของโพลย่า เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับดี เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า นักเรียนเห็นด้วยในระดับดีในทุกด้าน เรียงตามลำดับ คือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านการวัดและประเมินผล ด้านประโยชน์ที่ได้รับและด้านบรรยากาศในการเรียนรู้และให้นักเรียนเขียนแสดงความพึงพอใจเกี่ยวกับการใช้ชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ หลังสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนชอบชุดฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ ที่มีเนื้อหา ไม่ยากจนเกินไป สามารถเรียนรู้ได้ดีขึ้น เข้าใจง่าย เพราะระดับความยากง่าย เหมาะสมกับระดับความสามารถของนักเรียน บรรยากาศในชั้นเรียนสนุกสนาน

โพสต์โดย องค์ชาย : [22 ก.พ. 2565 เวลา 18:17 น.]
อ่าน [3674] ไอพี : 1.0.138.62
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,872 ครั้ง
วิธีฉีดน้ำหอมที่ถูกวิธี
วิธีฉีดน้ำหอมที่ถูกวิธี

เปิดอ่าน 9,082 ครั้ง
ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้
ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้

เปิดอ่าน 27,886 ครั้ง
เทคโนโลยีมัลติมีเดีย
เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 9,974 ครั้ง
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 11,634 ครั้ง
คุณแม่มือใหม่ดูเลย ที่ญี่ปุ่นมีโรงเรียนสอนแม่เลี้ยงลูก (รายการ ดูให้รู้)
คุณแม่มือใหม่ดูเลย ที่ญี่ปุ่นมีโรงเรียนสอนแม่เลี้ยงลูก (รายการ ดูให้รู้)

เปิดอ่าน 100,104 ครั้ง
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก

เปิดอ่าน 35,854 ครั้ง
ลายมือของคนจะสบายตอนบั้นปลาย
ลายมือของคนจะสบายตอนบั้นปลาย

เปิดอ่าน 21,797 ครั้ง
คลอสตริเดียม โบทูลินัม เชื้อโรคร้ายในอาหารกระป๋อง
คลอสตริเดียม โบทูลินัม เชื้อโรคร้ายในอาหารกระป๋อง

เปิดอ่าน 18,380 ครั้ง
ทำไมหนังสือที่เก็บไว้นาน ๆ กระดาษมักกลายเป็นสีเหลือง
ทำไมหนังสือที่เก็บไว้นาน ๆ กระดาษมักกลายเป็นสีเหลือง

เปิดอ่าน 38,232 ครั้ง
ระบบการเรียนการสอนของบริกส์ (Briggs Model)
ระบบการเรียนการสอนของบริกส์ (Briggs Model)

เปิดอ่าน 20,008 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การศึกษาตัวแปรที่สัมพันธ์กับความสำเร็จในการประกอบวิชาชีพครู
(ก.ค.ศ.)การศึกษาตัวแปรที่สัมพันธ์กับความสำเร็จในการประกอบวิชาชีพครู

เปิดอ่าน 63,664 ครั้ง
หมึกปากกา ทำมาจากอะไร
หมึกปากกา ทำมาจากอะไร

เปิดอ่าน 16,798 ครั้ง
SEO กับ SEM คืออะไร...ต่างกันแค่ไหน?
SEO กับ SEM คืออะไร...ต่างกันแค่ไหน?

เปิดอ่าน 16,370 ครั้ง
สำเร็จครั้งแรก! นำเชื้อธรรมชาติเพาะ ‘เห็ดโคนคอนโด’
สำเร็จครั้งแรก! นำเชื้อธรรมชาติเพาะ ‘เห็ดโคนคอนโด’

เปิดอ่าน 20,541 ครั้ง
โรคของเส้นผม ขน และเล็บ
โรคของเส้นผม ขน และเล็บ

เปิดอ่าน 8,324 ครั้ง
9 เคล็ดกับการใช้เงิน สำหรับคนอายุเริ่มต้นด้วยเลข 2
9 เคล็ดกับการใช้เงิน สำหรับคนอายุเริ่มต้นด้วยเลข 2
เปิดอ่าน 17,211 ครั้ง
คืนครูสู่ห้องเรียน
คืนครูสู่ห้องเรียน
เปิดอ่าน 14,744 ครั้ง
ประวัติ วะโฮรัมย์ เหรียญทองวีลแชร์พาราลิมปิก2008
ประวัติ วะโฮรัมย์ เหรียญทองวีลแชร์พาราลิมปิก2008
เปิดอ่าน 13,423 ครั้ง
เจ๋งมั๊ยล่ะ ไอเดียอะไรนะ? ของเด็กไทยที่ถูกเลือกไปทดลองในอวกาศ
เจ๋งมั๊ยล่ะ ไอเดียอะไรนะ? ของเด็กไทยที่ถูกเลือกไปทดลองในอวกาศ
เปิดอ่าน 12,935 ครั้ง
สูตรการเรียนเก่ง จากท่าน ว.วชิรเมธี
สูตรการเรียนเก่ง จากท่าน ว.วชิรเมธี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ