ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาโดยการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โรงเรียนห้วยลึกผดุงวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

ชื่อผลงานทางวิชาการ การพัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาโดยการวิจัยเชิงปฏิบัติการ

แบบมีส่วนร่วม โรงเรียนห้วยลึกผดุงวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด

นครราชสีมา

ผู้วิจัยและพัฒนา นายสกุลพงศ์ โชคศิริชัยภักดิ์

ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนห้วยลึกผดุงวิทยา

ปีการศึกษาที่พัฒนา ปีการศึกษา 2562 - ปีการศึกษา 2564

หน่วยงานต้นสังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาโดยการวิจัย เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โรงเรียนห้วยลึกผดุงวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา โดยมีวัตถุประสงค์ 4 ประการ คือ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานของระบบการบริหารจัดการศึกษาที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาพัฒนาระบบให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการและความจำเป็นที่แท้จริง (2) เพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษา โรงเรียนห้วยลึกผดุงวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับข้อมูลพื้นฐานที่ได้เพื่อมากำหนดแนวทางการพัฒนาระบบ และกำหนดองค์ประกอบของระบบ (3) เพื่อศึกษาผลการใช้ระบบโดยการนำระบบการบริหารจัดการศึกษาไปสู่การปฏิบัติจริง ซึ่งเป็นผลจากการนำระบบการบริหารจัดการศึกษาไปสู่การปฏิบัติในสภาพการณ์จริง (4) เพื่อประเมินและปรับปรุงระบบ ซึ่งเป็นผลมาจากการประเมินผลหลังจากนำระบบการบริหารจัดการศึกษาไปใช้เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะต่าง ๆ สำหรับนำไปใช้ปรับปรุงองค์ประกอบต่าง ๆ ของระบบในส่วนที่ยังพบข้อบกพร่อง โดยดำเนินการวิจัยในลักษณะการวิจัยและพัฒนาโดยประยุกต์ใช้วิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research : PAR) โดยการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน ในการดำเนินการดังกล่าวผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการดำเนินการทุกขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วยแบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบสอบถาม แบบสังเกต และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานของระบบการบริหารจัดการศึกษาที่เกี่ยวข้อง พบว่า

สภาพปัจจุบันครูและบุคลากรทางการศึกษา ต่างคนต่างทำงาน ขาดการปรึกษาหารือเพื่อการทำงานร่วมกัน การปฏิบัติงานในแต่ละงานขาดการวางแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน ขาดการสื่อสารกัน การพรรณนาบทบาทหน้าที่ขาดความชัดเจน จึงเกิดปัญหาการปฏิบัติที่ก้าวก่ายกัน ผู้บริหารสถานศึกษายังกำกับติดตามงานไม่ต่อเนื่อง หัวหน้าฝ่ายและหัวหน้างานยังไม่มีภาวะผู้นำในการที่จะนิเทศบุคคลหรืองานได้ การประเมินผลการทำงานทุกงานและรายงานผู้บริหารสถานศึกษายังมีการปฏิบัติในระดับน้อย การนำหลักการบริหารจัดการศึกษาโดยการนำวิธีการเชิงระบบมาใช้พบว่าคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูและบุคลากรทางการศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจในด้านแนวคิดหลักการการบริหารเชิงระบบ บทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง บุคคลที่เป็นกลไกสำคัญที่สุดคือผู้บริหารสถานศึกษา รองลงมาคือครูและบุคลากรทางการศึกษา แต่ยังขาดการร่วมคิดร่วมทำ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษาน้อย ดูแลได้แต่เพียงการเรียนและพฤติกรรมของนักเรียนเท่านั้น องค์ประกอบหลักของการพัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษา ส่วนใหญ่เห็นว่าควรมีขั้นตอนหลัก ๆ คือ การวางแผนดำเนินการ ดำเนินการบริหารจัดการศึกษา ตรวจสอบการบริหารจัดการศึกษาและปรับปรุงการดำเนินการบริหารจัดการศึกษา ปัจจัยความสำเร็จอยู่ที่ คน ระบบและการบริหารจัดการและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรมีวิสัยทัศน์และเป้าหมายร่วมกัน

2. การพัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาโดยการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โรงเรียนห้วยลึกผดุงวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เป็นลักษณะการจัดองค์ประกอบตามแนวคิดเชิงระบบในการมองภาพงานวิจัยให้ชัดเจนขึ้นโดยจัดในกรอบความคิดด้านตัวปัจจัย (Input) ได้แก่ ระบบบริหารจัดการศึกษาเดิม ปัจจัยแห่งความสำเร็จ คน ระบบ การจัดการ และบริบทสถานศึกษา ด้านกระบวนการ (Process) ได้แก่ การพัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาโดยการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมและมีการประเมินเชิงปฏิบัติการเป็นกลไกควบคุม (Control) ด้านผลผลิต (Output) คือ ระบบการบริหารจัดการศึกษาใน 3 ด้านคือ (1) ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา (2) ด้านการเรียนการสอน (3) ด้านการพัฒนาอาคารสถานที่ บรรยากาศและแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน และประเมินผลระบบที่พัฒนาขึ้น ส่วนข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) จะเป็นการตรวจสอบในแต่ละส่วนเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนา นอกจากนี้ยังได้ศึกษาด้านผลลัพธ์ (Outcomes) ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาระบบด้วย ได้แก่ ผลที่เกิดกับผู้เรียน ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องเป็น

วงจร 4 ระบบ ได้แก่ ระบบวางแผน(Plan) ระบบปฏิบัติการ(Act) ระบบติดตามตรวจสอบ(Observe) และระบบสะท้อนผล (Reflect)

3. ผลการศึกษาการใช้ระบบโดยการนำระบบการบริหารจัดการศึกษาไปสู่การปฏิบัติจริง ด้านความเป็นประโยชน์ พบว่า ระบบที่พัฒนาขึ้นมีประโยชน์ในการนำไปใช้บริหารจัดการศึกษา ด้านความเป็นไปได้ในการปฏิบัติงานจริง พบว่า มีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติงานจริงเพราะได้นำลงสู่การปฏิบัติแล้วประสบความสำเร็จ ด้านความเหมาะสม พบว่า ระบบมีความเหมาะสม ด้านความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของข้อมูล พบว่า มีความถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือ เพราะร่วมกันตรวจสอบหลายด้าน ด้านผลที่เกิดขึ้นกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และผู้ปกครอง ได้รับประโยชน์จากการนำระบบการบริหารจัดการสู่การปฏิบัติทั้งทางตรงและทางอ้อม ในด้านความพึงพอใจ พบว่า ทุกฝ่ายมีความพึงพอใจต่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษา เพราะการนำวิธีการเชิงระบบมาใช้ในการบริหารจัดการศึกษาทำให้การพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษามีเป้าหมายที่ชัดเจนและสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา มีกระบวนการพัฒนาที่เป็นระบบแบบแผน ผู้ปฏิบัติมองเห็นกระบวนการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน

4. ผลการประเมินและปรับปรุงระบบ จากการสัมภาษณ์ พบว่า ด้านการเปลี่ยนแปลงที่การบริหารจัดการศึกษาทำให้เป้าหมายในการปฏิบัติงานชัดเจน เนื่องจากมีแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจน ด้านประโยชน์ของระบบทำให้เกิดการทำงานแบบมีส่วนร่วม ทำงานเป็นทีม มีการประสานงานและร่วมมือกันทำงานทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดความรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการศึกษา ด้านความพึงพอใจ ครูและบุคลากรทางการศึกษามีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด และมีปัจจัยที่ส่งผลสำเร็จของการบริหารจัดการศึกษาในด้านการวางระบบ การทำตามระบบ การตรวจสอบและประเมินผลระบบและการแก้ไขพัฒนาระบบ และจากแบบสอบถามถามมาตราส่วนประมาณค่า พบว่า ในการดำเนินงานทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการเรียนการสอนและด้านการพัฒนาอาคารสถานที่ บรรยากาศและแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน มีผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านทั้ง 4 ด้าน คือ (1) ด้านปัจจัย(Input) (2) ด้านกระบวนการ(Process) (3) ด้านผลผลิต (Output) และ (4) ด้านผลลัพธ์ (0utcome) มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย นายสกุลพงศ์ โชคศิริชัยภักดิ์ : [22 ก.พ. 2565 เวลา 12:05 น.]
อ่าน [3563] ไอพี : 202.80.247.74
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,121 ครั้ง
รวยด้วยมรรค 8
รวยด้วยมรรค 8

เปิดอ่าน 21,955 ครั้ง
บารัค โอบามา
บารัค โอบามา

เปิดอ่าน 425,516 ครั้ง
การวิ่งระยะต่าง ๆ (พลศึกษา)
การวิ่งระยะต่าง ๆ (พลศึกษา)

เปิดอ่าน 33,588 ครั้ง
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?

เปิดอ่าน 7,014 ครั้ง
รวมสื่อการสอน Back to School 2565
รวมสื่อการสอน Back to School 2565

เปิดอ่าน 5,374 ครั้ง
เผยเด็กไทยเจนวายหวังรวยทางลัด หันเล่นหุ้นเหมือนเด็กจีน
เผยเด็กไทยเจนวายหวังรวยทางลัด หันเล่นหุ้นเหมือนเด็กจีน

เปิดอ่าน 9,724 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์

เปิดอ่าน 15,831 ครั้ง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง

เปิดอ่าน 17,185 ครั้ง
เรียนคณิต ใครว่ายาก
เรียนคณิต ใครว่ายาก

เปิดอ่าน 25,344 ครั้ง
ดวงการเงิน 2558 ดูดวงการเงินปี 2558
ดวงการเงิน 2558 ดูดวงการเงินปี 2558

เปิดอ่าน 15,583 ครั้ง
เคล็ดลับ!! เติมพลังใจคนวัยทำงาน
เคล็ดลับ!! เติมพลังใจคนวัยทำงาน

เปิดอ่าน 19,356 ครั้ง
สมุนไพร "เบญจอำมฤตย์" รักษามะเร็งตับราคาพุ่ง
สมุนไพร "เบญจอำมฤตย์" รักษามะเร็งตับราคาพุ่ง

เปิดอ่าน 9,297 ครั้ง
Area-Based Education สร้างการศึกษาตอบโจทย์จังหวัด
Area-Based Education สร้างการศึกษาตอบโจทย์จังหวัด

เปิดอ่าน 28,857 ครั้ง
การศึกษาไทย เราโง่อย่างมีหลักการ
การศึกษาไทย เราโง่อย่างมีหลักการ

เปิดอ่าน 1,486 ครั้ง
7 พิกัดที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวง่ายๆ เที่ยวได้ทั้งปี
7 พิกัดที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวง่ายๆ เที่ยวได้ทั้งปี

เปิดอ่าน 13,027 ครั้ง
พื้นฐานการรับรู้ของมนุษย์
พื้นฐานการรับรู้ของมนุษย์
เปิดอ่าน 14,495 ครั้ง
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เปิดอ่าน 11,693 ครั้ง
14 สไตล์มรณะ ปัจจัยเสี่ยง "มะเร็ง‏"
14 สไตล์มรณะ ปัจจัยเสี่ยง "มะเร็ง‏"
เปิดอ่าน 5,806 ครั้ง
ดูโปรตั๋วเครื่องบินไปแม่สอด เที่ยวบินราคาประหยัด
ดูโปรตั๋วเครื่องบินไปแม่สอด เที่ยวบินราคาประหยัด
เปิดอ่าน 30,802 ครั้ง
การคูณด้วยไม้ตะเกียบแบบบูรณาการ (ชมคลิป)
การคูณด้วยไม้ตะเกียบแบบบูรณาการ (ชมคลิป)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ