ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ผู้เขียน นางสาวปิยพร กันทะวงศ์

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 การวิจัยครั้งนี้มีแบบแผนการทดลองแบบศึกษากลุ่มเดียว วัดก่อนหลังการทดลอง (One-Group Pretest Posttest Design) มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 6 (วัดป่ารวก) ปีการศึกษา 2562 จำนวน 15 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบฝึกทักษะการใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แผนการจัดการเรียนรู้การใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และแบบสอบถามความพึ่งพอใจในการใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้สถิติการหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที

สรุปผลการวิจัย ผลการสร้าง และพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ประกอบด้วย แบบฝึกทักษะการใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 บทเรียน ได้แก่ ฉันชื่อ Scratch สลับร่างสร้างฉาก ตัวละครเคลื่อนไหว สนุกกับเสียงเพลง บ้านในฝัน ลากเส้นเล่นลาย เริ่มร่างสร้างเรื่องราว บอกเล่าเป็นนิทาน เรียนเล่นจนเป็นเกมและเกมสร้างสรรค์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แผนการจัดการเรียนรู้การใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 แผน และแบบสอบถามความพึงพอใจในการใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 ข้อ การจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน (E1 /E2 ) 87.33 / 87.11 เป็นไปตามสมมุติฐานที่วางไว้ ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อน – หลังผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อน - หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ .05 เป็นไปตามสมมุติฐาน ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อน - หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รายบุคคล นักเรียนกลุ่มตัวอย่างทั้งจำนวน 15 คน มีการพัฒนาการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เป็นไปตามสมมุติฐาน ผลการศึกษาความพึงพอใจหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 คะแนนเต็ม 5.00 คะแนน ได้คะแนนเฉลี่ยรวม 4.73 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 94.53 การแปลผล มีความพึงพอใจในระดับ มากที่สุด เมื่อทำการศึกษาความพึงพอใจหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของข้อคำถามรายข้อ ทุกข้อมีพึงพอใจระดับมากที่สุดและพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจสูงที่สุด คือ นักเรียนทุกคนได้เรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (ar{x}= 4.93) รองลงมา คือ นักเรียนมีส่วนร่วมในการประเมินระหว่างการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (ar{x}= 4.87) รองลงมา คือ การเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทำให้นักเรียนอยากร่วมกิจกรรมมากขึ้น (ar{x}= 4.80) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยกว่าข้ออื่น ๆ คือ นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Scratch ในการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (ar{x}= 4.53)

โพสต์โดย ปิยพร กันทะวงศ์ : [20 ก.พ. 2565 เวลา 13:43 น.]
อ่าน [7475] ไอพี : 49.228.240.151
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,446 ครั้ง
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน

เปิดอ่าน 103,373 ครั้ง
ประเภทของระบบสารสนเทศ
ประเภทของระบบสารสนเทศ

เปิดอ่าน 19,373 ครั้ง
อำลาโทรเลขไทย 133 ปี
อำลาโทรเลขไทย 133 ปี

เปิดอ่าน 41,925 ครั้ง
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 2,565 ครั้ง
ภาวะ LONG COVID เกิดได้ในเด็กและวัยรุ่น ฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วยลดภาวะรุนแรงได้
ภาวะ LONG COVID เกิดได้ในเด็กและวัยรุ่น ฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วยลดภาวะรุนแรงได้

เปิดอ่าน 12,848 ครั้ง
ความลับของกลดึงกระต่ายออกมาจากหมวก
ความลับของกลดึงกระต่ายออกมาจากหมวก

เปิดอ่าน 13,811 ครั้ง
เรียนยังไงให้ "เก่ง" และต้องเก่งกว่าครูบาอาจารย์ คำแนะนำจากนักเรียนทุนชื่อ "ดร.ป๋วย"
เรียนยังไงให้ "เก่ง" และต้องเก่งกว่าครูบาอาจารย์ คำแนะนำจากนักเรียนทุนชื่อ "ดร.ป๋วย"

เปิดอ่าน 109,706 ครั้ง
ฝึกพูด ภาษาอังกฤษ กับลูก ด้วยคำถาม คำสั่ง คำชม ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ฝึกพูด ภาษาอังกฤษ กับลูก ด้วยคำถาม คำสั่ง คำชม ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 20,507 ครั้ง
13 เรื่องจริงของสุนัขที่คุณอาจยังไม่เคยรู้
13 เรื่องจริงของสุนัขที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

เปิดอ่าน 114,299 ครั้ง
การทำเทียนหอมกันยุง
การทำเทียนหอมกันยุง

เปิดอ่าน 48,496 ครั้ง
สุภาษิต หรือ ภาษิต
สุภาษิต หรือ ภาษิต

เปิดอ่าน 4,603 ครั้ง
สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์  การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย

เปิดอ่าน 17,270 ครั้ง
ค้นพบคุณประโยชน์ของพวกผลไม้หลังสุด มีคุณมากกว่าเก่า 5 เท่า
ค้นพบคุณประโยชน์ของพวกผลไม้หลังสุด มีคุณมากกว่าเก่า 5 เท่า

เปิดอ่าน 12,397 ครั้ง
แนวทางดำเนินงานโครงการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ
แนวทางดำเนินงานโครงการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ

เปิดอ่าน 29,943 ครั้ง
สิ่งมีชีวิตนอกโลก มีจริงหรือไม่
สิ่งมีชีวิตนอกโลก มีจริงหรือไม่

เปิดอ่าน 12,816 ครั้ง
ดิจิตอลอีสาน...ใบลานอิเลคทรอนิกส์
ดิจิตอลอีสาน...ใบลานอิเลคทรอนิกส์
เปิดอ่าน 15,474 ครั้ง
คลี่ปม "หนี้ครู" 1.2 ล้านล้านบาทมาจากไหน?
คลี่ปม "หนี้ครู" 1.2 ล้านล้านบาทมาจากไหน?
เปิดอ่าน 16,389 ครั้ง
สรรพคุณของพืชผัก
สรรพคุณของพืชผัก
เปิดอ่าน 10,964 ครั้ง
โยคะในรถยามจราจรติดขัด
โยคะในรถยามจราจรติดขัด
เปิดอ่าน 12,856 ครั้ง
"โดนัท เซลฟี่" เทรนด์ใหม่มาแรง คืออะไร ไปดูกันครับ
"โดนัท เซลฟี่" เทรนด์ใหม่มาแรง คืออะไร ไปดูกันครับ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ