ชื่อเรื่อง รูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นางสาวปิยะนุช สุทธิสนธิ์
ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนช่ประทาย
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนการงานอาชีพ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อประเมินรูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาผลการทดลองใช้และประเมินการจัดการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/10 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนประทาย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1) รูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ 5) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 6) แบบประเมินรูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าที (t-test)
สรุปผลการวิจัย
1. ข้อมูลพื้นฐานสำหรับใช้ในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนการงานอาชีพ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 คือ จัดการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพต้องจัดการศึกษาตามแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการเชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ และการคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลาย แนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ต้องประกอบด้วย องค์ประกอบที่สำคัญดังนี้ คือ องค์ประกอบที่ 1 แนวคิดพื้นฐาน องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ องค์ประกอบที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนรู้ องค์ประกอบที่ 4 หลักการตอบสนอง องค์ประกอบที่ 5 ระบบสังคมและองค์ประกอบที่ 6 สิ่งสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนการงานอาชีพของนักเรียน พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.67 , S.D. = 0.65) และของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพในองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มที่ 6 พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.58 S.D. = 0.62) ความต้องการในการจัดการเรียนการสอนการงานอาชีพ เน้นการกระบวนการความคิดสร้างสรรค์ในการปฏิบัติจริง กระบวนการแก้ปัญหา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะต้องส่งเสริมให้กับผู้เรียนมีความสามารถในการคิดสร้างสรรค์
2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ได้รูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แบบ FRADPE MODEL ซึ่งมีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน คือ 1)การสร้างจุดสนใจ (Focusing) 2)การแสวงหาความรู้ (Research) 3)การวิเคราะห์งาน (Analysis) 4)การออกแบบชิ้นงาน (Design) 5)การนำเสนองาน(Presentation) 6)การประเมินและส่งเสริม (Evaluate and Promote) และได้นำรูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตรวจสอบและประเมินแล้ว ผลการประเมินมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 และผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.84 และนำไปทดลองใช้กับนักเรียนแบบเดี่ยว (1:1) จำนวน 3 คน ซึ่งผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอน มีค่าเท่ากับ 77.33/76.67 แบบกลุ่ม ( 1:10 ) จำนวน 9 คน ซึ่งผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการมีค่าเท่ากับ79.33/78.52 แบบภาคสนาม 1:100 จำนวน 30 คน ซึ่งผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการมีค่าเท่ากับมีค่าเท่ากับ 81.60/80.89 พบว่า ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
3. ผลการศึกษาการใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.44/82.04 ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7184 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการวัดความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการรู้ตามรูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.79 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.43
4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เรื่อง การทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) 4.81 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.38 ซึ่งผลการประเมินเมื่อเทียบกับเกณฑ์ โดยรวม ผ่าน