ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ส

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริม

กระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะ

เด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

ผู้วิจัย เดชา ทิพยทิฆัมพร

ปีการศึกษา 2563

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน วิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ดังนี้ 3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 3.2) เพื่อเปรียบเทียบผลการพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วิมุกตายนวิทยา) ตำบลสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย 1) แบบวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Focus Group) จำนวน 1 ฉบับ 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา จำนวน 5 ชุด 3) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ 5) แบบวัดกระบวนการคิดวิเคราะห์ จำนวน 20 ข้อ และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และวิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้ t-test (Dependent Sample)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา จากการวิเคราะห์เอกสารมีหลากหลาย ประกอบด้วย 1) สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน 2) วิสัยทัศน์การศึกษาในศตวรรษที่ 21 3) ที่มาและความสำคัญของทักษะในศตวรรษที่ 21 4) ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 5) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) 6) สภาวการณ์ และบริบทแวดล้อมที่มีผลต่อการพัฒนาการศึกษาของประเทศ 7) การคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking) 8) การจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษา 9) การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน 10) หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 11) วิธีการสอนแบบสืบสอบ 7E ของ Eisenkraft 12) วิธีการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการใช้คำถาม (Questioning) ของ Bloom และ 13) แนวคิดการจัดการเรียนรู้ Active Learning ของ Brookeld

2. รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีชื่อเรียกว่า “2E1PADC Model” (ทูอีวันพีเอดีซี โมเดล) ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นตอนที่ 1

ขั้นเร้าความสนใจ (Engagement : E) 2) ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตรวจสอบความรู้เดิม (Elicitation : E) 3) ขั้นตอนที่ 3 ขั้นการนำเสนอบทเรียนใหม่ (Presentation of Learning Task : P) 4) ขั้นตอนที่ 4 ขั้นปฏิบัติ (Analytical Thinking Practice : A) 5) ขั้นตอนที่ 5 ขั้นอภิปรายผลการปฏิบัติและการนำเสนอผลงาน (Discussion and Presentation : D) และ 6) ขั้นตอนที่ 6 ขั้นสรุปและประเมินผล (Conclusion and Evaluation : C) พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.38/83.71 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการ คิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา พบว่า

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษา

เพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทย

ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 การพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ก่อนและหลังการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ

การจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อกระบวนการคิดวิเคราะห์ก่อนและหลังการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการสร้างเสริมสุขภาพสอดคล้องกับคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา อยู่ในระดับพึงพอใจมาก

โพสต์โดย kratai : [18 ก.พ. 2565 เวลา 06:42 น.]
อ่าน [2539] ไอพี : 125.25.93.40
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,910 ครั้ง
35 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ ของคนวัย 35 ที่น่าเลียนแบบ
35 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ ของคนวัย 35 ที่น่าเลียนแบบ

เปิดอ่าน 36,757 ครั้ง
การใช้ตราสัญลักษณ์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
การใช้ตราสัญลักษณ์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 9,102 ครั้ง
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่

เปิดอ่าน 9,822 ครั้ง
Animator vs Animation ภาค 4 กลับมาแล้ว สุดยอดมาก ชมคลิปกันเลย
Animator vs Animation ภาค 4 กลับมาแล้ว สุดยอดมาก ชมคลิปกันเลย

เปิดอ่าน 27,405 ครั้ง
พระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555
พระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555

เปิดอ่าน 15,822 ครั้ง
เพลงประจำอาเซียน
เพลงประจำอาเซียน

เปิดอ่าน 11,823 ครั้ง
โรคทางใจที่ควรรู้ไว้พิจารณา >> ว.วชิรเมธี
โรคทางใจที่ควรรู้ไว้พิจารณา >> ว.วชิรเมธี

เปิดอ่าน 747 ครั้ง
จัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย เพื่อความสุขในทุกวัน
จัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย เพื่อความสุขในทุกวัน

เปิดอ่าน 13,234 ครั้ง
ชมคลิป ตำรวจไทยโชว์เต้นบีบอย งานกีฬากองทัพไทย
ชมคลิป ตำรวจไทยโชว์เต้นบีบอย งานกีฬากองทัพไทย

เปิดอ่าน 9,383 ครั้ง
นักโภชนาการชี้ อย่าตระหนกกินเนื้อแดง-ผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูป ก่อมะเร็ง แนะหม่ำหลากหลาย
นักโภชนาการชี้ อย่าตระหนกกินเนื้อแดง-ผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูป ก่อมะเร็ง แนะหม่ำหลากหลาย

เปิดอ่าน 11,709 ครั้ง
วัคซีน"หวัด09"เข็มเดียวอยู่
วัคซีน"หวัด09"เข็มเดียวอยู่

เปิดอ่าน 17,231 ครั้ง
พระอุมา
พระอุมา

เปิดอ่าน 21,895 ครั้ง
รู้จักวิตามิน H
รู้จักวิตามิน H

เปิดอ่าน 14,827 ครั้ง
ปรุง...ต้านมะเร็ง ด้วยเมนูโฮมเมด
ปรุง...ต้านมะเร็ง ด้วยเมนูโฮมเมด

เปิดอ่าน 63,355 ครั้ง
ตารางธาตุ
ตารางธาตุ

เปิดอ่าน 10,101 ครั้ง
ตรวจสอบคุณภาพยางรถ
ตรวจสอบคุณภาพยางรถ
เปิดอ่าน 16,032 ครั้ง
ดื่มน้ำแค่ไหนจึงจะพอ?
ดื่มน้ำแค่ไหนจึงจะพอ?
เปิดอ่าน 12,235 ครั้ง
อยากเพิ่มหรือลดน้ำหนัก... 10 สีนี้ช่วยได้นะ
อยากเพิ่มหรือลดน้ำหนัก... 10 สีนี้ช่วยได้นะ
เปิดอ่าน 16,867 ครั้ง
วิธีขจัด "สิวผด" ให้หายเกลี้ยง
วิธีขจัด "สิวผด" ให้หายเกลี้ยง
เปิดอ่าน 14,158 ครั้ง
เจ๋ง! วิธีทำหน้าจอคอมฯ ให้มีแต่คนที่ใส่แว่นเท่านั้นที่เห็น
เจ๋ง! วิธีทำหน้าจอคอมฯ ให้มีแต่คนที่ใส่แว่นเท่านั้นที่เห็น

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ