ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดเกี่ยวกับทักษะปฏิบัติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดเกี่ยวกับทักษะปฏิบัติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3


ผู้รายงาน นางคนึงนิตย์ เสมอวงศ์


สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลอินทปัญญา วัดใหญ่อินทาราม สังกัดเทศบาลเมืองชลบุรี


ปีที่ศึกษา 2563


บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาและประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดเกี่ยวกับทักษะปฏิบัติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด (80/80) 2) และเพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดเกี่ยวกับทักษะปฏิบัติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ที่ศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาลอินทปัญญา วัดใหญ่อินทาราม สังกัดเทศบาลเมืองชลบุรี จำนวน 45 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดเกี่ยวกับทักษะปฏิบัติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คู่มือและแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้รูปแบบ แบบประเมินทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานอาชีพ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาการงานอาชีพ เรื่อง งานช่าง และแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดเกี่ยวกับทักษะปฏิบัติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 วิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) หาค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test for dependent samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)


ผลการวิจัยพบว่า

1.รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดเกี่ยวกับทักษะปฏิบัติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีองค์ประกอบสำคัญ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ คือ การจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดเกี่ยวกับทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เป็นรูปแบบวิธีการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ โดยผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ทักษะที่จำเป็นในเรื่องที่เรียนรู้ ปฏิบัติจากทักษะย่อยไปสู่ทักษะใหญ่จนสามารถเชื่อมโยงและประยุกต์ใช้ทักษะปฏิบัติในการทำงานได้ด้วยความชำนาญ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่มีลักษณะเป็นกลุ่มแบบร่วมมือ ที่มีสมาชิกตั้งแต่ 3-6 คน ประกอบด้วยนักเรียนที่เก่ง ปานกลาง และอ่อน โดยแต่ละคนมีบทบาทภายในกลุ่มอย่างชัดเจน ได้เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ในการทำงานร่วมกัน ทำให้ผู้เรียนที่ไม่เคยมีส่วนร่วมในการเรียน หรือผู้เรียนที่เรียนอ่อนมีทักษะกระบวนการทำงาน สามารถเรียนรู้ไปพร้อมกันกับเพื่อนในกลุ่ม ส่งผลให้ผู้เรียนมีความภาคภูมิใจในตนเอง ตระหนักรู้ว่าตนเองมีคุณค่าที่สามารถช่วยให้กลุ่มประสบผลสำเร็จได้ มีทักษะการปฏิบัติงานที่ดี และสามารถประยุกต์ใช้ทักษะการปฏิบัติงานในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ คือ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงานวิชาการงานอาชีพ และเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาการงานอาชีพ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ของรูปแบบ มี 8 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 ระบุวัตถุประสงค์ (Identify/Specify the objective) ขั้นที่ 2 จัดกลุ่มแบบร่วมมือ (Group cooperation) ขั้นที่ 3 วิเคราะห์ทักษะที่จำเป็น (Analyze the necessary skills) ขั้นที่ 4 สาธิตและปฏิบัติทักษะย่อย (Demonstrate and practice sub-skills) ขั้นที่ 5 แนะนำเทคนิคและเสริมแรง (Technique introduction and encouragement) ขั้นที่ 6 เชื่อมโยงทักษะที่สมบูรณ์ (Complete skill association) ขั้นที่ 7 ประเมินทักษะและผลสัมฤทธิ์ (Assessing skills and achievements) ขั้นที่ 8 ปรับประยุกต์ใช้ทักษะปฏิบัติ (Applying practical skills) 4) การวัดและประเมินผลของรูปแบบ คือ การประเมินทักษะการปฏิบัติงาน และการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาการงานอาชีพ 5) เงื่อนไขสำคัญของการใช้รูปแบบ ได้แก่ ด้านผู้เรียน คือ ผู้เรียนแต่ละคนต้องรับผิดชอบในบทบาทหน้าที่ของตนในฐานะสมาชิกของกลุ่ม ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ผู้เรียนลงมือปฏิบัติทักษะต่าง ๆ ด้วยตนเอง และช่วยเหลือสมาชิกในกลุ่มให้สามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จ ผู้เรียนชื่นชมและให้กำลังใจซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์ภายในกลุ่มแบบร่วมมือ ด้านผู้สอน คือ ผู้สอนต้องวิเคราะห์ความสามารถของผู้เรียนและจัดกลุ่มอย่างเหมาะสม ปรับเปลี่ยนกลุ่มผู้เรียนอยู่เสมอ เพื่อให้ผู้เรียนทำงานร่วมผู้อื่นได้ ผู้สอนทำหน้าที่เสมือนผู้อำนวยการสอน จัดเตรียมสื่อและอุปกรณ์ แนะนำเทคนิค การปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้รางวัล สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อเสริมแรงให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานให้ดีขึ้น ผู้สอนติดตามความก้าวหน้าวัดและประเมินผลการเรียนรู้ วัดทักษะการปฏิบัติงาน และสะท้อนผลให้ผู้เรียนได้ปรับปรุงการปฏิบัติงาน จนกระทั่งงานนั้นสำเร็จ ผลการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบ พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดเกี่ยวกับทักษะปฏิบัติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.22/80.81

2. ประสิทธิผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดเกี่ยวกับทักษะปฏิบัติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า 2.1) ทักษะการปฏิบัติงานของนักเรียน สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 ที่กำหนดไว้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาการงานอาชีพ เรื่อง งานช่าง หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ สูงกว่าก่อนใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2.3) ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดเกี่ยวกับทักษะปฏิบัติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า มีระดับความคิดเห็นโดยรวม อยู่ในระดับเห็นด้วยมาก โดยมีค่าเฉลี่ย (x̄ ) เท่ากับ 4.49 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.63


โพสต์โดย ครูอุ๋ย : [17 ก.พ. 2565 เวลา 19:42 น.]
อ่าน [3652] ไอพี : 110.168.207.195
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 6,025 ครั้ง
ดูโปรตั๋วเครื่องบินไปแม่สอด เที่ยวบินราคาประหยัด
ดูโปรตั๋วเครื่องบินไปแม่สอด เที่ยวบินราคาประหยัด

เปิดอ่าน 26,916 ครั้ง
 กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทน พ.ศ.2551
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทน พ.ศ.2551

เปิดอ่าน 12,774 ครั้ง
15 ภาพ "หมาธรรมดา" กลายเป็น "หมายักษ์" ด้วยมุมกล้อง
15 ภาพ "หมาธรรมดา" กลายเป็น "หมายักษ์" ด้วยมุมกล้อง

เปิดอ่าน 19,229 ครั้ง
คู่มือการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม ระดับการศึกษาปฐมวัย (แรกเกิด-2ปี) ฉบับสถานศึกษา
คู่มือการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม ระดับการศึกษาปฐมวัย (แรกเกิด-2ปี) ฉบับสถานศึกษา

เปิดอ่าน 81,103 ครั้ง
อาชีพที่จะหายไปและอาชีพในอนาคต
อาชีพที่จะหายไปและอาชีพในอนาคต

เปิดอ่าน 17,556 ครั้ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง

เปิดอ่าน 28,635 ครั้ง
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

เปิดอ่าน 142,192 ครั้ง
ศาสตราจารย์ศิลป์  พีระศรี
ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

เปิดอ่าน 15,486 ครั้ง
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน

เปิดอ่าน 16,930 ครั้ง
เหล็กปลอม ดูกันชัดๆ มันเป็นยังไง (ชมคลิป)
เหล็กปลอม ดูกันชัดๆ มันเป็นยังไง (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 24,536 ครั้ง
"ปลาไทย" โอเมก้าสูง กิน "เป็น" แล้ว "ดี"
"ปลาไทย" โอเมก้าสูง กิน "เป็น" แล้ว "ดี"

เปิดอ่าน 55,770 ครั้ง
ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้
ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้

เปิดอ่าน 37,274 ครั้ง
อบรมการสร้าง 7 อุปนิสัย ให้เด็กดีมีความสุข
อบรมการสร้าง 7 อุปนิสัย ให้เด็กดีมีความสุข

เปิดอ่าน 13,851 ครั้ง
ทั้งซาบซึ้ง-สะเทือนใจ หนูน้อย 7 ขวบสละชีวิต บริจาค"ไต"เพื่อช่วยชีวิตแม่
ทั้งซาบซึ้ง-สะเทือนใจ หนูน้อย 7 ขวบสละชีวิต บริจาค"ไต"เพื่อช่วยชีวิตแม่

เปิดอ่าน 16,184 ครั้ง
9 ประโยชน์เพื่อสุขภาพของกระเทียม ที่คุณอาจคาดไม่ถึง!
9 ประโยชน์เพื่อสุขภาพของกระเทียม ที่คุณอาจคาดไม่ถึง!

เปิดอ่าน 14,642 ครั้ง
10 อันตรายทลายโลก จากเทคโนโลยี
10 อันตรายทลายโลก จากเทคโนโลยี
เปิดอ่าน 104,180 ครั้ง
กรีฑา (Athletics)
กรีฑา (Athletics)
เปิดอ่าน 15,307 ครั้ง
เคี้ยวหมากฝรั่งหยับๆ เขยิบสมองให้ไวขึ้น
เคี้ยวหมากฝรั่งหยับๆ เขยิบสมองให้ไวขึ้น
เปิดอ่าน 45,938 ครั้ง
Chat GPT คืออะไร ใช้งานยังไง AI  สำหรับครูยุคใหม่จำเป็นต้องรู้
Chat GPT คืออะไร ใช้งานยังไง AI สำหรับครูยุคใหม่จำเป็นต้องรู้
เปิดอ่าน 16,464 ครั้ง
วิธีจำศัพท์
วิธีจำศัพท์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ