ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนกงหราพิชากร จังหวัดพัทลุง ปีการศึกษ

ชื่อผลงาน รายงานการประเมินโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข

(Happy Workplace) โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนกงหราพิชากร

จังหวัดพัทลุง ปีการศึกษา 2563

ผู้รายงาน นายขรรค์ชัย เหน็บบัว

ผู้อำนวยการโรงเรียนกงหราพิชากร

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2563

บทสรุป

การประเมินโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนกงหราพิชากร จังหวัดพัทลุง ปีการศึกษา 2563 โดยใช้รูปแบบการประเมินของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam’s CIPP Model) เป็นกรอบแนวคิดในการประเมิน 4 ด้าน มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) ระดับคุณภาพการดำเนินโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) 2) ระดับคุณภาพโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข 3) ระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุขของครู 4) ระดับคุณภาพการเรียนรู้อย่างมีความสุขของนักเรียน 5) ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องที่มีต่อการดำเนินโครงการ โดยศึกษาจากกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย กลุ่มตัวอย่างและประชากรดังนี้ นักเรียนกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (purposive sampling) โดย ใช้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, 2 และ 4, 5 ทุกคน ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 359 คน ครูศึกษาจากประชากรครู จำนวน 27 คน ผู้ปกครอง กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) โดยใช้ผู้ปกครองของนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 341 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) โดยยกเว้นผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้แทนครูได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 13 คน เครือข่ายชุมชน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างแบบ เจาะจง (Purposive sampling) โดยใช้ผู้แทนจากเครือข่ายองค์กรชุมชนละ 2 คน ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินรวมทั้งสิ้น 8 ฉบับ มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 แบบสอบถามด้านบริบท ฉบับที่ 2 แบบสอบถามด้านปัจจัยนำเข้า ฉบับที่ 3 แบบสอบถามด้านกระบวนการ ฉบับที่ 4 แบบสอบถามด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับคุณภาพการดำเนินโครงการ ฉบับที่ 5 แบบสอบถาม ด้านผลผลิตเกี่ยวกับคุณภาพโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข ฉบับที่ 6 แบบสอบถาม ด้านผลผลิตเกี่ยวกับพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ฉบับที่ 7 แบบบันทึกผลการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้อย่างมีความสุขของนักเรียน และฉบับที่ 8 แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินโครงการทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.954 – 0.982 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

สรุปผลการประเมิน

ผลการประเมินโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนกงหราพิชากร จังหวัดพัทลุง ปีการศึกษา 2563 สรุปผลได้ดังนี้

1. ผลการประเมินด้านบริบทของโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนกงหราพิชากร จังหวัดพัทลุง ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชน โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.65, S.D. = 0.22) ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มเครือข่ายชุมชน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.68, S.D. = 0.36) รองลงมาได้แก่ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.63, S.D. = 0.28)

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนกงหราพิชากร จังหวัดพัทลุง ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของครู พบว่าโดยรวมมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อยู่ในระดับมาก (μ = 4.65, σ = 0.28 ) ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดเมื่อพิจารณาแต่ละตัวชี้วัด พบว่า ตัวชี้วัดด้านหน่วยงานที่สนับสนุนโครงการ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.77, σ = 0.29) รองลงมา คือ ความพร้อมของบุคลากร (μ = 4.69 , σ = 0.26 ) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านความเพียงพอของงบประมาณมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (μ = 4.60, σ = 0.31) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

3. ผลประเมินด้านกระบวนการ (Process) ของโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนกงหราพิชากร จังหวัดพัทลุง ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ผู้ปกครองและครู โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดอยู่ในระดับมาก และมากที่สุดผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.57 ,σ = 0.23) รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.52, S.D. = 0.51) ส่วนกลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( x̄ = 4.45, S.D. = 0.59) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

4. ด้านผลิตของโครงการ จำแนกเป็น

4.1 ผลการประเมินคุณภาพการดำเนินโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนกงหราพิชากร จังหวัดพัทลุง ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อยู่ในระดับมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.64, S.D. = 0.51) รองลงมา คือ กลุ่มผู้ปกครองและกลุ่มครู อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ , μ = 4.63, S.D., σ = 0.48)

4.2 ผลการประเมินคุณภาพโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนกงหราพิชากร จังหวัดพัทลุง ปีการศึกษา 2563 จำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดอยู่ในระดับมากที่สุด ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.68, σ = 0.48) รองลงมา คือ ผู้ปกครองอยู่ในระดับ มากที่สุด ( x̄ = 4.64, S.D. = 0.48) ส่วน กลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.63, S.D. = 0.53) ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.3 ผลการประเมินพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุขของครู มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.61, S.D. = 0.52 ) ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.63, S.D. = 0.26) รองลงมาคือ ผู้ปกครองนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.61, S.D. = 0.26)

4.4 ผลการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้อย่างมีความสุขของนักเรียนโดยครูที่ปรึกษาเป็นผู้สังเกต โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดอยู่ในระดับดีมาก ( x̄= 4.60, S.D. = 0.17) ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

4.5 ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนกงหราพิชากร จังหวัดพัทลุง ปีการศึกษา 2563 จำแนกตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อยู่ในระดับมากที่สุด ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.66, S.D. = 0.15) รองลงมา คือ กลุ่มเครือข่ายชุมชน อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.65, S.D. = 0.29) ส่วนกลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( x̄ = 4.53, S.D. = 0.13) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอเพื่อนำผลการประเมินไปใช้

จากการดำเนินโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมี

ความสุข (Happy Workplace) โรงเรียนกงหราพิชากร ปีการศึกษา 2563 ครั้งนี้ ทำให้ได้ค้นพบจุดเด่นของการมีแบบอย่างที่ดีในการดำเนินงานโครงการ ซึ่งเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางในการนำกิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะไปประยุกต์ใช้ ดังนี้

1.1 การสื่อสารสร้างความเข้าใจ โรงเรียนควรสร้างความตระหนัก ความสำคัญของ

การพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับทราบ

1.2 การสร้างการมีส่วนร่วม ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดกรอบการพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข

1.3 การสอบถามนิเทศ ติดตาม โรงเรียนต้องนำผลการนิเทศ กำกับติดตามมาใช้ในการปรับปรุง / พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

1.4 การเสริมแรงเชิงบวก โรงเรียนควรมีการประกาศเกียรติคุณ ยกย่อง ชมเชยตามวาระและโอกาสต่างๆอย่างต่อเนื่อง

1.5 การสร้างและขยายเครือข่าย โรงเรียนควรมีการสร้างและขยายเครือข่ายทั้งหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอก และโรงเรียนควรจัดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้โรงเรียนอื่นๆ มาศึกษาดูงานได้

2. ข้อเสนอแนะเพื่อการประเมินและวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรศึกษารูปแบบหรือแนวทางในการประเมินโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) ในรูปแบบวิธีการอื่นที่นอกเหนือจากรูปแบบซิปป์ หรือ (CIPP Model)

2.2 ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยที่มีส่งผลต่อการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) เพื่อใช้เป็นสารสนเทศในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

2.3 ควรมีการศึกษาการประเมินโครงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) ในเชิงคุณภาพ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป

โพสต์โดย พี่ขรรค์ : [16 ก.พ. 2565 เวลา 17:06 น.]
อ่าน [3417] ไอพี : 184.22.140.247
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 31,897 ครั้ง
“การพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ”
“การพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ”

เปิดอ่าน 10,671 ครั้ง
10 ท่ากระชับสัดส่วนสวย
10 ท่ากระชับสัดส่วนสวย

เปิดอ่าน 31,478 ครั้ง
เข้าทางใครบางคนแน่ๆ นักวิจัยเผย "มนุษย์ชอบทำห้องรก" ยิ่งวางของเกะกะยิ่งฉลาด
เข้าทางใครบางคนแน่ๆ นักวิจัยเผย "มนุษย์ชอบทำห้องรก" ยิ่งวางของเกะกะยิ่งฉลาด

เปิดอ่าน 32,357 ครั้ง
คำศัพท์คุ้นหูที่แปลว่า “ครู” เหมือนกัน แต่ใช้ไม่เหมือนกัน มาดูกันว่า…มีอะไรบ้าง
คำศัพท์คุ้นหูที่แปลว่า “ครู” เหมือนกัน แต่ใช้ไม่เหมือนกัน มาดูกันว่า…มีอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 23,899 ครั้ง
"มะรุม" พืชมหัศจรรย์
"มะรุม" พืชมหัศจรรย์

เปิดอ่าน 401,935 ครั้ง
เทคนิคการใส่เลขหน้าใน MS Word แบบไม่เริ่มต้นที่หน้าแรก
เทคนิคการใส่เลขหน้าใน MS Word แบบไม่เริ่มต้นที่หน้าแรก

เปิดอ่าน 148,367 ครั้ง
ความหมายของครู
ความหมายของครู

เปิดอ่าน 14,384 ครั้ง
วิธีคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก-ไม่ขม
วิธีคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก-ไม่ขม

เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
กองทุนการศึกษา โครงการพระราชดำริสุดท้าย ด้วยความห่วงใยอนาคตชาติ
กองทุนการศึกษา โครงการพระราชดำริสุดท้าย ด้วยความห่วงใยอนาคตชาติ

เปิดอ่าน 11,051 ครั้ง
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!

เปิดอ่าน 52,805 ครั้ง
อนาคตของนักเรียน: ทักษะแรงงาน รายได้จากการทำงาน และโอกาสจากหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์
อนาคตของนักเรียน: ทักษะแรงงาน รายได้จากการทำงาน และโอกาสจากหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์

เปิดอ่าน 18,725 ครั้ง
ข้าวกล้องงอก
ข้าวกล้องงอก

เปิดอ่าน 88,426 ครั้ง
การปกครองสมัยรัตนโกสินทร์
การปกครองสมัยรัตนโกสินทร์

เปิดอ่าน 35,044 ครั้ง
จำนวนตรรกยะ
จำนวนตรรกยะ

เปิดอ่าน 1,099 ครั้ง
BLOCKCHAIN คืออะไร ?
BLOCKCHAIN คืออะไร ?

เปิดอ่าน 14,897 ครั้ง
น้ำผึ้งจากดอกลำไย
น้ำผึ้งจากดอกลำไย
เปิดอ่าน 67,492 ครั้ง
การอ่านแบบ Scanning
การอ่านแบบ Scanning
เปิดอ่าน 40,485 ครั้ง
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต
เปิดอ่าน 154,769 ครั้ง
ศัพท์กฏหมายภาษาอังกฤษน่ารู้
ศัพท์กฏหมายภาษาอังกฤษน่ารู้
เปิดอ่าน 56,210 ครั้ง
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ