ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาครูโดยใช้แผนการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมคุณภาพการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุง

ชื่อเรื่อง การพัฒนาครูโดยใช้แผนการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อส่งเสริมคุณภาพการจัด

การเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

โรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุง

ผู้วิจัย สาลี่ เชิดชู

ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุง

สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี

ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการและความเหมาะสมในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุง 2. เพื่อพัฒนาแผนการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุง 3. เพื่อเปรียบเทียบความรู้ก่อนอบรมและหลังการอบรมการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุง 4. เพื่อประเมินผลการพัฒนาความรู้และการนำทักษะการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนักเรียนโรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุง แบ่งการวิจัยออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการการอบรมการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การเปรียบเทียบความรู้ก่อนการอบรมและหลังการอบรมการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการประเมินผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ครูผู้สอนของโรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุง สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทำวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีดังต่อไปนี้ แบบสำรวจความต้องการและปัญหาในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19), แบบทดสอบแนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19), แบบทดสอบความรู้ในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19), แผนการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) , แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19), แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม และแบบประเมินความพึงพอใจต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุง การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์โดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. การสำรวจความต้องการและปัญหาในการทำการวิจัย พบว่า ครูทุกคนเคยได้ศึกษาเรื่อง การจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่ทุกคนยังต้องการเพิ่มเติมความรู้ และทุกคนมีความประสงค์เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยความรู้เรื่องการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ครูทุกคนต้องการศึกษาหรือต้องการศึกษาเพิ่มเติม ตามความต้องการ ได้แก่ แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการเรียนรู้และการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19), การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์(Constructivist) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การจัดการเรียนรู้ผ่านระบบการเรียนการสอนผ่านเครือข่าย Internet, ระบบการเรียนการสอนออนไลน์ และการเลือกใช้แอปพลิเคชันสำหรับการจัดการเรียนรู้ แบบ On-line สำหรับการวางแผนการอบรม พบว่า จากประเด็นความต้องการและปัญหาในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้นำมาประชุมร่วมกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อวางแผนการอบรม พร้อมทั้งเสนอแผนการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมคุณภาพการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ตรงกับปัญหาและความต้องการ กลุ่มเป้าหมายได้เสนอให้มีการฝึกปฏิบัติการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่สามารถใช้ได้ทั้งการสอนนักเรียนแบบ On-line และ On-hand ไปพร้อม ๆ กัน ฝึกทักษะการใช้แอปพลิเคชันสำหรับการเรียนรู้แบบ On-line การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปทดลองใช้ด้วยการประสานพลังผู้ปกครอง และให้ที่ประชุมร่วมกันกำหนดวันเวลาในการอบรมแต่ละครั้ง ได้ข้อสรุปว่าจะมีการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการจำนวน 5 ครั้ง รวม 5 วัน โดยนำเสนอเนื้อหาสาระในรูปแบบของการบรรยายไว้ดังนี้ แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการเรียนรู้และการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎี คอนสตรัคติวิสต์ (Constructivist) แนวคิดและรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระบบการเรียนการสอนผ่านเครือข่าย Internet, ระบบการเรียนการสอนออนไลน์ และการเลือกใช้แอปพลิชันสำหรับการจัดการเรียนรู้ แบบ On-line การออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การฝึกทักษะในการใช้แอปพลิเคชัน Zoom Meeting และ Microsoft Teams ในการจัดเรียนรู้ แบบ On-line ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

2. การอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

2.1 ดำเนินการอบรม โดยได้ทดสอบความรู้ก่อนอบรม พบว่า ผลคะแนนจากการทดสอบก่อนการอบรม ครูผู้สอนสามารถทำคะแนนในการทดสอบก่อนอบรมเกินครึ่งทุกคน ส่วนการอบรมและฝึกปฏิบัติเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้กลุ่มเป้าหมายฝึกปฏิบัติการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามความสนใจของแต่ละคน โดยผู้วิจัยได้ดำเนินการทั้งหมด 4 ครั้ง มีการประเมินผลการเรียนรู้เกี่ยวกับเนื้อหาการอบรมทุกครั้งและได้นำผลการประเมินแจ้งให้กลุ่มเป้าหมายทราบทันทีเมื่อการอบรมเสร็จสิ้นในแต่ละครั้ง ในการอบรมแต่ละครั้งใช้การบรรยายและลงมือปฏิบัติการวิจัยตามประเด็นที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ

2.2 นำแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปใช้กับนักเรียนตามตารางเรียนของโรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุงที่การจัดการเรียนรู้แบบต่อเนื่อง (Block course learning)

2.2.1 ครูวางแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยนำทฤษฎีการเรียนรู้ที่สนับสนุนแนวคิดการจัดการเรียนรู้ หลักการของการจัดการเรียนรู้ บทบาทครูในการจัดการเรียนรู้ การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แนวทางการบริหารจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระบบการเรียนการสอนออนไลน์ และการเลือกใช้แอปพลิเคชัน สำหรับการจัดการเรียนรู้ แบบ On-line การบริหารจัดการเวลาเรียนและการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แนวทางการวัดและประเมินผล ตลอดจนแนวทางในการประสานพลังความร่วมมือกับผู้ปกครองในการสนับสนุนการเรียนรู้ ดูแลช่วยเหลือนักเรียนและส่งเสริมให้นักเรียนมีวินัยในการเรียนรู้ด้วยตนเอง

2.2.2 แบ่งกลุ่มครูออกแจกเอกสารประกอบการเรียนตามแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้แก่นักเรียนตามจุดนัดหมายในชุมชนและเยี่ยมบ้านนักเรียนพร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง

2.2.3 ครูผู้สอนแต่ละวิชานำแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปใช้กับนักเรียนในช่วงเวลาตามตารางเรียน โดยจัดการเรียนการสอนแบบ On-line พร้อมทั้งประสานผู้ปกครองร่วมดูแลนักเรียนที่เรียนรู้แบบ On-hand

2.2.4 ผู้วิจัยและคณะครูเข้าสังเกตการจัดการเรียนรู้แบบ On-line เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันและนำผลการสังเกตไปปรับปรุง พัฒนา การจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยนำผลส่วนหนึ่งจากการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยครูและนักเรียนที่ร่วมเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยพิจารณา 4 ประเด็น ประกอบด้วย 1) เป้าหมายของงาน 2) ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง 3) ความแตกต่างที่เกิดขึ้นเพราะเหตุใด 4) สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้และข้อปฏิบัติในการทำงานครั้งต่อไป นำมาประชุมร่วมกันเพื่อซักถามสภาพปัญหา และแนวทางแก้ไข สำหรับนักเรียนที่ไม่สามารถเข้าเรียนแบบ On-line ได้ ผู้วิจัยและครูผู้สอนได้ออกเยี่ยมบ้านเพื่อติดตามและขอความร่วมมือกับผู้ปกครองในการช่วยเหลือนักเรียนและจัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เป็นการจัดการเรียนรู้แบบ On-hand พร้อมทั้งดำเนินการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ประชุมเพื่อซักถามสภาพปัญหา และหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน

3. การเปรียบเทียบความรู้ก่อนการอบรมและหลังการอบรมการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พบว่า ผลคะแนนจากการทดสอบความรู้หลังการอบรมหลังการอบรมสูงกว่าก่อนการอบรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนการอบรม เท่ากับ 12.33 คะแนน คะแนนเฉลี่ยหลังการอบรม เท่ากับ 18.50 คะแนน การประเมินทักษะในการจัดการเรียนรู้ด้วยการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ โดยการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มาใช้ในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว ภายหลังจากที่กลุ่มเป้าหมายทั้ง 3 กลุ่มนำเสนอผลการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พบว่า ผลการตัดสินคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้ของครูกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม สามารถจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับดีมาก

4. การประเมินผลการพัฒนาความรู้และทักษะการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

4.1 ประเมินผลที่เกิดกับนักเรียน นักเรียนร้อยละ 88.05 มีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ในการเข้าร่วมเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

4.2 ประเมินทักษะในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยการตัดสินจากคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ครูแต่ละคนได้จัดทำ พบว่า ร้อยละ 91.67 ของครูโรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุง สามารถออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับดีมาก

4.3. ประเมินผลการสะท้อนกลับที่มีต่อการเข้าร่วมการพัฒนาความรู้และทักษะในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครูผู้สอนที่เข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการได้แสดงความคิดเห็นตามขั้นตอนต่างๆ ผลการแสดงความคิดเห็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาครูสู่การจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังต่อไปนี้

4.3.1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการการอบรมการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

การสำรวจความต้องการและปัญหาในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครูผู้สอนที่เข้าร่วมการอบรมได้แสดงความคิดเห็นว่า เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีวินัยในตนเอง เป็นการออกแบบการจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มากที่สุด ทำให้เข้าใจการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความแตกต่างของนักเรียนแต่ละคน เป็นการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับความพร้อมของนักเรียนและผู้ปกครอง เพราะบางคนไม่สามารถเรียนรู้แบบ On-line ได้ ครูต้องวางแผนการจัดการเรียนรู้สำหรับการเรียนรู้แบบ On-hand ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งเป็นการจัดการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง ให้นักเรียนได้เรียนรู้จากวิถีประจำวัน ร่วมประสานพลังกับผู้ปกครอง เป็นห้องเรียนของครอบครัวได้ด้วย ทำให้ได้ทราบถึงความต้องการและปัญหาในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของแต่ละบุคคลว่ามีความต้องการและมีปัญหาอะไรบ้าง ได้นำความรู้จากการอบรมไปจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ โดยทั้งนักเรียนและครูต้องปรับการเรียนเปลี่ยนการสอน ให้เหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความปกติใหม่ (New Normal) ทำให้ครูได้พัฒนาทักษะการใช้แอปพลิเคชันในการจัดการเรียนรู้แบบ On-line ได้ดีขึ้น เกิดประโยชน์ต่อนักเรียน มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่ตรงเป้าหมาย ได้รับความรู้จากการอบรมการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพิ่มขึ้น และนำไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับนักเรียนเกิดการเรียนรู้และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ครูก็ยังมีความกังวลเรื่องการออกแบบแผนการจัดเรียนรู้ที่ต้องให้มีความพร้อมทั้งการสอนแบบ On-line สำหรับนักเรียนที่มีพร้อมด้านเครื่องมือและเทคโนโลยี และในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างสื่อ เอกสารประกอบการเรียนเพื่อใช้สำหรับการเรียนรู้แบบ On-hand ไปพร้อมกันด้วย เนื่องจากนักเรียนไม่สามารถมาเรียนที่โรงเรียนได้

4.3.2 การอบรมเชิงปฏิบัติการ การจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

4.3.2.1 การทดสอบความรู้ก่อนอบรม เป็นการประเมินความรู้ในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครูผู้สอนที่เข้าร่วมการอบรมได้แสดงความคิดเห็นว่า การทดสอบก่อนการอบรมทำให้ครูผู้สอนสามารถประเมินความรู้ของตนเอง ทั้งความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ทำให้รู้ว่าครูเข้าใจมากน้อยเท่าใดและสามารถนำมาปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ของตนเองได้หรือไม่ เพราะครูแต่ละท่านอาจจะไม่เข้าใจรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่จะนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ที่สำคัญยังเป็นการวัดความรู้และทักษะการใช้แอปพลิเคชันสำหรับการจัดการเรียนรู้แบบ On-line สำหรับครูผู้สอนก็ได้ทราบว่าตนเองมีความรู้พื้นฐานมากน้อยเพียงใด จะได้เตรียมตัวก่อนได้รับการอบรม

4.3.2.2 การจัดอบรมและฝึกปฏิบัติ ครูผู้สอนที่เข้าร่วมการอบรมได้แสดงความคิดเห็นว่า ได้ความรู้มากขึ้นจากประสบการณ์ตรง สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและอาชีพการงาน สามารถนำความรู้ไปพัฒนาการจัดการเรียนการสอน เพิ่มพูนความรู้ การจัดการอบรมพัฒนาทางด้านทักษะกระบวนการอาจไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อยู่ในระดับดีขึ้น ซึ่งเป็นการสะสมความรู้จากฝึกปฏิบัติจริงๆ ครูจะได้นำประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้รับจากการพัฒนาทักษะในการใช้เทคโนโลยีที่สอดคล้องกับความต้องการไปถ่ายทอดได้อย่างถูกต้อง เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพต่อไป

4.3.3 การเปรียบเทียบความรู้ก่อนการอบรมและหลังการอบรม การจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

การทดสอบความรู้หลังการอบรมเพื่อประเมินความรู้ในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครูผู้สอนที่เข้าร่วมการอบรมได้แสดงความคิดเห็นว่า ครูมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะได้ปรับปรุงวิธีการเรียนการสอนให้ดีขึ้น เป็นการวัดหรือประเมินความรู้ในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าได้ผลดีขึ้นกว่าเดิมมากน้อยเพียงใด เป็นการวัดความรู้ความสามารถของตนเองหลังการอบรมว่ามีความรู้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นมากน้อยเพียงใด การอบรมมีประโยชน์แต่ต้องพัฒนาต่อเนื่อง

4.3.4 การประเมินผลการพัฒนาความรู้และการนำทักษะในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ครูผู้สอนที่เข้าร่วมการอบรมได้แสดงความคิดเห็นว่า

4.3.4.1 ครูวางแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยนำทฤษฎีการเรียนรู้ที่สนับสนุนแนวคิดการจัดการเรียนรู้ หลักการของการจัดการเรียนรู้ บทบาทครูในการจัดการเรียนรู้ แนวทางการบริหารจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระบบการเรียนการสอนออนไลน์ และการเลือกใช้แอปพลิเคชัน สำหรับการจัดการเรียนรู้ แบบ On-line การบริหารจัดการเวลาเรียนและการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และแนวทางการวัดและประเมินผลการจัดแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และแนวทางในการประสานพลังความร่วมมือกับผู้ปกครองในการสนับสนุนการเรียนรู้ ดูแลช่วยเหลือนักเรียนและส่งเสริมให้นักเรียนมีวินัยในการเรียนรู้ด้วยตนเอง

4.3.4.2 ครูสามารถจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในหน่วยการเรียนรู้ตามรายวิชาที่จัดการเรียนการสอน โดยใช้แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายให้นักเรียนและผู้ปกครองมีส่วนร่วมเกิดการประสานพลังอย่างเป็นรูปธรรม

4.3.4.3 ครูสามารถดำเนินการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในแต่ละระดับชั้นตามแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้อย่างเหมาะสมครอบคลุมทั้งการสอนแบบ On-line และ On-hand

4.3.4.4 การประเมินผลที่เกิดกับนักเรียน นักเรียนมีผลการเรียนรู้ที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ภายหลังการเข้าร่วมเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ การประเมินทักษะในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครูมีความรู้และความเข้าใจวิธีการและสามารถจัดการเรียนรู้ตลอดจนมีการจัดการชั้นเรียนให้มีความพร้อมและเหมาะสม ติดตามให้นักเรียนได้รับการเรียนรู้และมีการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และมีผลสะท้อนกลับที่เกิดกับครู นักเรียน และสถานศึกษา ดังนี้

1) ครูมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการออกแบบการจัดการเรียนรู้และสามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งการสอนแบบ On-line และการสอนแบบ On-hand

2) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และสามารถผ่านเกณฑ์การประเมินในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ตามเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

3) สถานศึกษามี Best practice ด้านการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คือ ได้รับรางวัลสถานศึกษาที่บริหารจัดการควบคุมและป้องกันโควิด-19 ตามคำแนะนำคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรี ระดับดีเยี่ยม

แนวทางแก้ไขหรือข้อเสนอแนะในการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งต่อไป การอบรมควรจะมีการผลิตสื่อที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จัดอบรมเกี่ยวกับสมรรถนะครูดิจิทัลเพื่อนำมาพัฒนาคุณภาพการจัดเรียนรู้ในยุค New Normal ให้มากขึ้นและเน้นเฉพาะการฝึกปฏิบัติโดยตรง

4.4 การประเมินความพึงพอใจต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พบว่าครูผู้สอน ผู้ปกครอง และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของโรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุงอยู่ในระดับมากที่สุด ทุกด้าน ทั้งด้านการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ของผู้บริหารที่สุด (μ=4.81) ด้านการจัดการเรียนรู้ของครู (μ=4.73) ด้านคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน (μ=4.73) และด้านการสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ของผู้ปกครอง (μ=4.62)

โพสต์โดย ปุ้ม : [15 ก.พ. 2565 เวลา 12:06 น.]
อ่าน [3539] ไอพี : 101.109.85.119
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,886 ครั้ง
คำว่า สปา มาจากไหน
คำว่า สปา มาจากไหน

เปิดอ่าน 13,694 ครั้ง
สับปะรดมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยจากธรรมชาติ
สับปะรดมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยจากธรรมชาติ

เปิดอ่าน 3,298 ครั้ง
เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก อาการเริ่มปัญหาของหัวใจ อย่ารอช้ารีบพบแพทย์
เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก อาการเริ่มปัญหาของหัวใจ อย่ารอช้ารีบพบแพทย์

เปิดอ่าน 11,158 ครั้ง
กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต
กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต

เปิดอ่าน 13,802 ครั้ง
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย

เปิดอ่าน 914,241 ครั้ง
แบบฟอร์มทางราชการ
แบบฟอร์มทางราชการ

เปิดอ่าน 11,715 ครั้ง
คลิปซาบซึ้งความผูกพัน "ครูควรดู-นร.ควรชม"
คลิปซาบซึ้งความผูกพัน "ครูควรดู-นร.ควรชม"

เปิดอ่าน 17,155 ครั้ง
จริงไหม? ...กินไก่แล้วทำให้ลูกเป็นสาวเร็ว หรือทำให้หน้าอกใหญ่จริงหรือ?
จริงไหม? ...กินไก่แล้วทำให้ลูกเป็นสาวเร็ว หรือทำให้หน้าอกใหญ่จริงหรือ?

เปิดอ่าน 125,104 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 12 การเล่นที่ผิดกติกาและประพฤติผิด
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 12 การเล่นที่ผิดกติกาและประพฤติผิด

เปิดอ่าน 22,325 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549

เปิดอ่าน 107,863 ครั้ง
ดาวน์โหลดเกณฑ์ประเมิน วฐ.(เดิม) ว25
ดาวน์โหลดเกณฑ์ประเมิน วฐ.(เดิม) ว25

เปิดอ่าน 15,636 ครั้ง
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)

เปิดอ่าน 20,934 ครั้ง
"พลูด่าง" ไม้มงคลเสริมโชคลาภ
"พลูด่าง" ไม้มงคลเสริมโชคลาภ

เปิดอ่าน 1,205 ครั้ง
ประโยชน์ของการเดิน
ประโยชน์ของการเดิน

เปิดอ่าน 9,197 ครั้ง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง

เปิดอ่าน 101,921 ครั้ง
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)
เปิดอ่าน 75,765 ครั้ง
ความหมายและความสำคัญของการเกษตร
ความหมายและความสำคัญของการเกษตร
เปิดอ่าน 16,643 ครั้ง
โอกาสไม่ถึง 50-50 จะได้เห็น ขั้วโลกเหนือปลอดน้ำแข็งหุ้ม
โอกาสไม่ถึง 50-50 จะได้เห็น ขั้วโลกเหนือปลอดน้ำแข็งหุ้ม
เปิดอ่าน 59,211 ครั้ง
Revo Uninstall สุดยอดโปรแกรมถอนการติดตั้ง
Revo Uninstall สุดยอดโปรแกรมถอนการติดตั้ง
เปิดอ่าน 18,049 ครั้ง
การวัดมุมในระนาบดิ่ง
การวัดมุมในระนาบดิ่ง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ