ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแสงและการ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์

ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es)

เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ผู้วิจัย นางสาวสิริยลริยา วศิริอารยา

ปีที่วิจัย 2562

โรงเรียน เทศบาลสวนสนุก เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ ใช้วิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) และมีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 เป็นหน่วยการวิเคราะห์ มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย คือ (3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน จากการใช้รูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (3.2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน จากการใช้รูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ (4) เพื่อประเมินรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ โดยศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวนวิธีสอนละ 32 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัค-ติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เรื่อง แสงและการมองเห็น จำนวน 6 แผนฯ ใช้เวลาเรียน 12 ชั่วโมง (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบปรนัยเลือกตอบ ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย ระหว่าง 0.20-0.80 มีค่าอำนาจจำแนก 0.20 ขึ้นไป และมีค่าความเชื่อมั่นที่ 0.760 (3) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 30 ข้อ และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 1 ฉบับ 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Pair)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แบบประเมินค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบบันทึกการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) และแบบสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พบว่า มีความสอดคล้อง โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 1.00 ทุกรายการ และพบว่า ควรมีการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก

2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ร่างรูปแบบการเรียนรู้ ตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ได้รูปแบบการเรียนรู้ ควรมีองค์ประกอบ 5 ด้าน ได้แก่ หลักการแนวคิดทฤษฎี หลักการจัดการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และการประเมินผล ซึ่งผลการประเมินรูปแบบการเรียนรู้ ตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ มีความเหมาะสมมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.60

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ 85.16/85.31 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.70 หรือคิดเป็นร้อยละ 70.00 พบว่า

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.2 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับวิธีสอนแบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแสงและการมองเห็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.45

โพสต์โดย ครูปิ๋ม : [13 ก.พ. 2565 เวลา 18:14 น.]
อ่าน [2647] ไอพี : 58.11.28.172
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 130,407 ครั้ง
เล่นฮูลาฮูป ลดน้ำหนักได้จริงหรือ?
เล่นฮูลาฮูป ลดน้ำหนักได้จริงหรือ?

เปิดอ่าน 11,324 ครั้ง
ฮีโร่&วายร้าย คนเด่นโลกปี 2554
ฮีโร่&วายร้าย คนเด่นโลกปี 2554

เปิดอ่าน 6,970 ครั้ง
กรี๊ดสิครับ กรี๊ดเลย กรี๊ด ระบายมันออกมา "กรี๊ด" วิธีบำบัดที่ไม่ต้องเสียเงิน
กรี๊ดสิครับ กรี๊ดเลย กรี๊ด ระบายมันออกมา "กรี๊ด" วิธีบำบัดที่ไม่ต้องเสียเงิน

เปิดอ่าน 8,029 ครั้ง
อย. ยัน ไม่มีน้ำว่านหางจระเข้รักษาอีโบลาได้
อย. ยัน ไม่มีน้ำว่านหางจระเข้รักษาอีโบลาได้

เปิดอ่าน 15,351 ครั้ง
กล้องโทรทรรศน์โซเฟียค้นพบหลุมดำ 11 หลุมในอวกาศ
กล้องโทรทรรศน์โซเฟียค้นพบหลุมดำ 11 หลุมในอวกาศ

เปิดอ่าน 24,058 ครั้ง
ลายมือแบบไหนคือ "ลายมือเสน่ห์นิยม"
ลายมือแบบไหนคือ "ลายมือเสน่ห์นิยม"

เปิดอ่าน 18,752 ครั้ง
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า

เปิดอ่าน 11,393 ครั้ง
"Li-Fi" เน็ตไร้สายเร็วกว่าไว-ไฟ100เท่า
"Li-Fi" เน็ตไร้สายเร็วกว่าไว-ไฟ100เท่า

เปิดอ่าน 446,386 ครั้ง
บางคนเกษียณแล้วร้องไห้หนักมาก เพราะไม่รู้สิบข้อนี้
บางคนเกษียณแล้วร้องไห้หนักมาก เพราะไม่รู้สิบข้อนี้

เปิดอ่าน 113,548 ครั้ง
การทำเทียนหอมกันยุง
การทำเทียนหอมกันยุง

เปิดอ่าน 10,078 ครั้ง
แก๊สโซฮอล์ปล่อยสารก่อมะเร็ง
แก๊สโซฮอล์ปล่อยสารก่อมะเร็ง

เปิดอ่าน 27,384 ครั้ง
ที่มาภาพมือเป็นรู ที่แชร์กันให้กลัวกันทั่วไลน์ ที่แท้มาจาก....
ที่มาภาพมือเป็นรู ที่แชร์กันให้กลัวกันทั่วไลน์ ที่แท้มาจาก....

เปิดอ่าน 15,460 ครั้ง
ทำไมคนไทยปฏิรูปการศึกษาไม่ได้ผล
ทำไมคนไทยปฏิรูปการศึกษาไม่ได้ผล

เปิดอ่าน 4,295 ครั้ง
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน

เปิดอ่าน 27,442 ครั้ง
สอนทำ header hi5 ด้วย photoshop
สอนทำ header hi5 ด้วย photoshop

เปิดอ่าน 13,544 ครั้ง
คลิปสาธิตวิธีการทำแจกันหลอดไฟ
คลิปสาธิตวิธีการทำแจกันหลอดไฟ
เปิดอ่าน 12,064 ครั้ง
ถือศีล กินเจ
ถือศีล กินเจ
เปิดอ่าน 8,937 ครั้ง
Professor Switch ชั้นเรียนสุดอลังการ เวทีหมุนเปลี่ยนคลาสเรียน
Professor Switch ชั้นเรียนสุดอลังการ เวทีหมุนเปลี่ยนคลาสเรียน
เปิดอ่าน 15,491 ครั้ง
กินถั่วฝักยาวเยอะๆดีต่อสุขภาพ
กินถั่วฝักยาวเยอะๆดีต่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 23,845 ครั้ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ