ชื่อเรื่อง การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการ
เรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์
รายวิชาภาษาอังกฤษ อ23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนพังงูพิทยาคม
ชื่อผู้วิจัย อนัญญา ชุมแวงวาปี
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ รายวิชาภาษาอังกฤษ อ23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ในการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ รายวิชาภาษาอังกฤษ อ23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบ การเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ รายวิชาภาษาอังกฤษ อ23102 สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 3) ทดลองใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ รายวิชาภาษาอังกฤษ อ23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 และ 4) ประเมินผลและปรับปรุงเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ รายวิชาภาษาอังกฤษ อ23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนพังงูพิทยาคม ตำบลพังงู อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี จำนวน 1 ห้องเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 33 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม แบบแผนในการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Pre Experimental Design) แบบกลุ่มเดี่ยวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (The One Group Pretest- Posttest Design) เครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ และแผนการจัดการเรียนรู้ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และแบบสนทนากลุ่ม แบบประเมินความเหมาะสมและความสอดคล้อง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสำรวจความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่า t-test Dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) แล้วนำเสนอแบบพรรณนาความ
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ รายวิชาภาษาอังกฤษ อ23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนและผู้เกี่ยวข้องเห็นว่ารูปแบบของเอกสารประกอบการเรียน ควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายชัดเจน มีรูปภาพ มีการ์ตูนประกอบ สีสันสวยงามและมีเนื้อหาที่ให้ความรู้ด้านกลวิธีการหาคำศัพท์ เป็นเนื้อหาที่นักเรียนสามารถนำไปใช้ในการสอบเข้าเรียนต่อระดับที่สูงขึ้น หรือสามารถนำความรู้ไปใช้ในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเน้นกระบวนการกลุ่มแบบร่วมมือ มีการวัดและประเมินผลครอบคลุมด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ และเจตคติ โดยใช้เครื่องมือที่หลากหลาย
2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ รายวิชาภาษาอังกฤษ อ23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า เอกสารประกอบการเรียน ประกอบด้วย คู่มือครู และคู่มือนักเรียน เอกสารประกอบการเรียนมีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.80-1.00 ค่าประสิทธิภาพแบบรายบุคคล (Individual Tryout) เท่ากับ 65.33/63.33 ค่าประสิทธิภาพแบบกลุ่มย่อย (Small Group Tryout) เท่ากับ 74.89/73.70 และค่าประสิทธิภาพแบบภาคสนาม (Field Tryout) เท่ากับ 78.53/77.23
3. ผลการทดลองใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ รายวิชาภาษาอังกฤษ อ23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ รายวิชาภาษาอังกฤษ อ23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ คือ E1/E2 เท่ากับ 78.91/77.57 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
4. การประเมินผลและปรับปรุงเอกสารประกอบการเรียน ด้านความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง กลวิธีการเรียนคำศัพท์ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ รายวิชาภาษาอังกฤษ อ23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดสร้างสรรค์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อ การเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก