ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 รหัสวิชา อ22102

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนามีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบ การสอนภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจและทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 รหัสวิชา อ22102 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจและทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 รหัสวิชา อ22102 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจและทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 รหัสวิชา อ22102 3.1) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3.2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณโดยใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจและทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 รหัสวิชา อ22102 โดยนำไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง ม.2/2 จำนวน 38 คน โรงเรียนบัวใหญ่ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่ายและใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม ระยะเวลาในการทดลอง 15 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษที่มีชื่อว่า “AFRUT” แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ แบบประเมินทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษ สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่า t-test แบบ dependent

ผลการวิจัย พบว่า

1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนรายวิชา ภาษาอังกฤษ ในปีการศึกษา 2561 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 รหัสวิชา อ22102 ต่ำกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด (คะแนนเฉลี่ย 2.50) ประการแรก นักเรียนส่วนใหญ่สามารถอ่านบทความหรือเรื่องราวต่าง ๆ ได้และเข้าใจสิ่งที่อ่านตามตัวอักษร ตลอดจนสามารถตอบคำถามที่วัดความจากเนื้อเรื่องที่อ่านได้แต่ยังขาดวิจารณญาณในการอ่าน กล่าวคือเมื่อมอบหมายให้นักเรียนอ่านเรื่องราวและตอบคำถามซึ่งเป็นคำถามเชิงคิดวิเคราะห์ หรือมอบหมายให้นักเรียนเขียนสะท้อนความคิดเห็นต่อสิ่งที่อ่าน นักเรียนส่วนใหญ่มักตอบคำถามไม่ได้และเขียนงานออกมาในลักษณะของการเขียนเล่าเรื่องราวจากสิ่งที่อ่านหรือคัดลอกข้อความจากสิ่งที่อ่านมาเขียนเป็นคำตอบโดยที่ไม่มีการวิเคราะห์ข้อมูลหรือผนวกเอาความคิดที่ตนเองประเมินได้จากสิ่งที่อ่านไปเขียนสนับสนุน ประการที่สอง ครูยังใช้วิธีการสอนให้นักเรียนเพียงแค่ความจำแต่ไม่ได้ฝึกทักษะคิดให้เพียงพอ นักเรียนจึงขาดทักษะการคิดควบคู่ไปด้วย ขาดแนวทางในการแสวงหาคำตอบที่สะท้อนหรือตอบสนองต่อสิ่งที่พวกเขาอ่านอย่างแท้จริง อีกทั้งผลการสอบถามความต้องการของนักเรียน พบว่า นักเรียนต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียน การสอนที่หลากหลาย เน้นให้ฝึกซ้ำๆ จนเกิดความชำนาญในการอ่านเพื่อความเข้าใจ ตลอดจนสามารถประเมินและซาบซึ้งหรือเห็นคุณค่าในสิ่งที่อ่านแล้วสามารถเขียนหรือนำเสนอผลสะท้อนและความคิดเห็นต่อสิ่งที่อ่านได้ อีกทั้งยังสามารถใช้ความคิดเห็นและการตัดสินใจของตนเองในการประเมินเนื้อหาและโครงสร้างของสิ่งที่อ่านในรูปแบบต่าง ๆ ว่ามีคุณค่าหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ผลการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ พบว่า การจัดการเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษ ควรพัฒนาทั้งด้านความรู้ ทักษะการคิด และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ให้นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองและมีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณได้

2. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ ละทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 รหัสวิชา อ22102 มีชื่อรูปแบบการสอนว่า “AFRUT” ประกอบด้วย ทฤษฎีหลักการแนวคิด วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน ซึ่งมีกระบวนการเรียนการสอน 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ขั้นถามคำถามนำก่อน การอ่าน (Asking priming questions) ขั้นที่ 2 ขั้นหาความหมายของคำศัพท์ (Finding the meaning of vocabularies) ขั้นที่ 3 ขั้นอ่านเนื้อเรื่อง (Reading the text) ขั้นที่ 4 ขั้นทำความเข้าใจเนื้อเรื่องUnderstanding the Text) และขั้นที่ 5 ขั้นถ่ายโอนข้อมูลด้วยกระบวนการวิเคราะห์ QUEST (Transferring information with analyzing the QUEST section) ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) ของรูปแบบการสอนด้านความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เท่ากับ 83.85/83.21 และค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) ของรูปแบบการสอนด้านทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 82.56/82.16 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

3. ผลการใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษด้านความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และผลการใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษด้านทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษและทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 (อ22102) พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.56, S.D. = 0.64)

โพสต์โดย ครูเตือนใจ : [11 ก.พ. 2565 เวลา 12:42 น.]
อ่าน [2043] ไอพี : 171.101.102.90
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,774 ครั้ง
การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ
การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ

เปิดอ่าน 12,310 ครั้ง
ดูให้ชัด รัฐธรรมนูญ ม.286 ให้มีการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนแน่ หรือ?
ดูให้ชัด รัฐธรรมนูญ ม.286 ให้มีการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนแน่ หรือ?

เปิดอ่าน 20,711 ครั้ง
พ.ร.บ. ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนมากยิ่งขึ้น
พ.ร.บ. ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนมากยิ่งขึ้น

เปิดอ่าน 55,114 ครั้ง
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร

เปิดอ่าน 13,936 ครั้ง
ประโยชน์ของวิตามินบี...ที่ไม่ควรมองข้าม
ประโยชน์ของวิตามินบี...ที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 820 ครั้ง
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้

เปิดอ่าน 54,600 ครั้ง
ดาวน์โหลด แนวทางการจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง
ดาวน์โหลด แนวทางการจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง

เปิดอ่าน 12,338 ครั้ง
22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง
22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง

เปิดอ่าน 1,273 ครั้ง
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"

เปิดอ่าน 133,550 ครั้ง
นิยามทางการศึกษา
นิยามทางการศึกษา

เปิดอ่าน 10,078 ครั้ง
เส้นทางสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนของไทย ตอนที่ 1 เจรจา ทูตแห่งการค้าเสรี
เส้นทางสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนของไทย ตอนที่ 1 เจรจา ทูตแห่งการค้าเสรี

เปิดอ่าน 11,500 ครั้ง
"ราชบัณฑิตฯ" แจงชื่อเมืองหลวงใหม่ ใช้ได้ทั้ง Krung Thep Maha Nakhon และ Bangkok
"ราชบัณฑิตฯ" แจงชื่อเมืองหลวงใหม่ ใช้ได้ทั้ง Krung Thep Maha Nakhon และ Bangkok

เปิดอ่าน 14,300 ครั้ง
โกรธบ่อยโรคเพียบแน่ สุขภาพแย่ชัวร์ !
โกรธบ่อยโรคเพียบแน่ สุขภาพแย่ชัวร์ !

เปิดอ่าน 23,290 ครั้ง
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์

เปิดอ่าน 18,204 ครั้ง
โรคมะเร็งจอประสาทตา (Retinoblastoma)
โรคมะเร็งจอประสาทตา (Retinoblastoma)

เปิดอ่าน 20,828 ครั้ง
วีดิทัศน์คณิตศาสตร์ ชั้น ป.4 โดย สสวท.
วีดิทัศน์คณิตศาสตร์ ชั้น ป.4 โดย สสวท.
เปิดอ่าน 13,982 ครั้ง
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก
เปิดอ่าน 18,522 ครั้ง
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20
เปิดอ่าน 13,376 ครั้ง
การบวกเมตริก
การบวกเมตริก
เปิดอ่าน 27,739 ครั้ง
"นพ.ยง" มีคำตอบ! เคยติด "โควิด-19" ติดซ้ำได้หรือไม่-ต้อง "ฉีดวัคซีน" อีกหรือไม่.?
"นพ.ยง" มีคำตอบ! เคยติด "โควิด-19" ติดซ้ำได้หรือไม่-ต้อง "ฉีดวัคซีน" อีกหรือไม่.?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ