ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์
ตามแนวคิดอภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางอุษา ทองแก้ว
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สถานที่ทำงาน โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ๑ (ดอนสักผดุงวิทย์)
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามแนวคิดอภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามแนวคิดอภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) รายงานผลการใช้พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามแนวคิดอภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 การวิจัยดำเนินการตามกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ 1) การสร้างและหาคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2) ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ๑ (ดอนสักผดุงวิทย์) สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวัดความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ 2) แบบวัดความสามารถด้านอภิปัญญา 3) แบบบันทึกการเรียนรู้เพื่อวัดความสามารถในการถ่ายโอนการเรียนรู้ของนักเรียน และแบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระจากกัน t-test ชนิด Dependent Samples
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามแนวคิดอภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า
1.1 รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามแนวคิด อภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มี 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) จุดมุ่งหมาย 3) เนื้อหา 4) กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบ่งออกได้เป็น 6 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 ขั้นกำหนดปัญหาและวางแผนการอ่านร่วมกัน ขั้นที่ 2 ขั้นสร้างประสบการณ์และปรับการเรียนรู้ ขั้นที่ 3 ขั้นตรวจสอบความเข้าใจในการอ่าน ขั้นที่ 4 ขั้นคิดไตร่ตรองสะท้อนประสบการณ์การเรียนรู้ ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผลการเรียนรู้ และขั้นที่ 6 ขั้นบันทึกและถ่ายโอนความรู้ 5) สื่อและแหล่งเรียนรู้ 6) การวัดและประเมินผล
1.2 ผลการใช้ตรวจสอบคุณภาพด้านความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามแนวคิดอภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีคุณภาพด้านความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
1.3 ผลการหาค่าดัชนีประสิทธิผลรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามแนวคิดอภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.61 ซึ่งแสดงว่า รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามแนวคิดอภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.61 คิดเป็นร้อยละ 61
2. ผลการใช้และศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่าน เชิงวิเคราะห์ตามแนวคิดอภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า
2.1 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่าน เชิงวิเคราะห์ตามแนวคิดอภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนมีความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ ร้อยละ 75
2.2 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่าน เชิงวิเคราะห์ตามแนวคิดอภิปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด