ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชั้นมัธยมศ

การศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อการศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต 4) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ประชากร เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 103 คน จำนวน 3 ห้องเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลนครขอนแก่น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 จำนวน 36 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม สังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลนครขอนแก่น จำนวน 1 ห้องเรียน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 8 แผน 11 ชั่วโมง 2 ) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3) แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ประเมินพฤติกรรมเป็นรายบุคคล จำนวน 5 ข้อ และประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม จำนวน 5 ข้อ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชนิดมาตราส่วน ประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ

ผลการวิจัยพบว่า

1. ประสิทธิภาพของผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 80.62/79.07 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 75/75

2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7370 แสดงว่าหลังจากที่นักเรียนได้เรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 73.70

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยก่อนเรียน มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 8.56คะแนน และหลังเรียนมี คะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 23.72 คะแนน และจากการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ย โดยใช้ Wilcoxon Signed Rank test ปรากฏว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนมีพฤติกรรมการทำงานกลุ่มจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนนรวม 31.99 คะแนน คะแนนเฉลี่ย 2.46 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.08 ในภาพรวมนักเรียนมีพฤติกรรมการทำงานกลุ่มในระดับ ดี

5. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของ van Hiele ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่อง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต มีความพึงพอใจในการเรียนรู้โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย นุท : [3 ก.พ. 2565 เวลา 04:19 น.]
อ่าน [3454] ไอพี : 184.22.127.42
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,431 ครั้ง
อยากเพิ่มหรือลดน้ำหนัก... 10 สีนี้ช่วยได้นะ
อยากเพิ่มหรือลดน้ำหนัก... 10 สีนี้ช่วยได้นะ

เปิดอ่าน 10,685 ครั้ง
วิธีดูแลรักษาที่นอน
วิธีดูแลรักษาที่นอน

เปิดอ่าน 48,161 ครั้ง
เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา
เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา

เปิดอ่าน 35,868 ครั้ง
Plasma TV คืออะไร
Plasma TV คืออะไร

เปิดอ่าน 11,789 ครั้ง
ทีลอซู น้ำตกในฝัน ของนักผจญภัย
ทีลอซู น้ำตกในฝัน ของนักผจญภัย

เปิดอ่าน 13,082 ครั้ง
ชีวิตยิ่งใช้ ยิ่งได้กำไรกลับคืน
ชีวิตยิ่งใช้ ยิ่งได้กำไรกลับคืน

เปิดอ่าน 110,960 ครั้ง
ประโยชน์ของผักใบเขียวมีอะไรบ้าง
ประโยชน์ของผักใบเขียวมีอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 10,872 ครั้ง
กิน"กระเทียม"ดีต่อสุขภาพหัวใจ
กิน"กระเทียม"ดีต่อสุขภาพหัวใจ

เปิดอ่าน 31,508 ครั้ง
พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 26)พ.ศ. 2553
พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 26)พ.ศ. 2553

เปิดอ่าน 17,906 ครั้ง
การออกแบบสาร (Message Design) เพื่อการนำเสนอ
การออกแบบสาร (Message Design) เพื่อการนำเสนอ

เปิดอ่าน 47,947 ครั้ง
หลักเกณฑ์การเขียนคำย่อ (ใหม่)
หลักเกณฑ์การเขียนคำย่อ (ใหม่)

เปิดอ่าน 1,086 ครั้ง
นวัตกรรมใหม่น่าสนใจของ Power Bank ในรูปแบบเข็มขัด แปลกแค่ไหน
นวัตกรรมใหม่น่าสนใจของ Power Bank ในรูปแบบเข็มขัด แปลกแค่ไหน

เปิดอ่าน 16,053 ครั้ง
รายได้ และ ค่าครองชีพ AEC
รายได้ และ ค่าครองชีพ AEC

เปิดอ่าน 9,959 ครั้ง
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (จบ)
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (จบ)

เปิดอ่าน 4,550 ครั้ง
วิธีใช้ "เขียง" ให้ปลอดภัย
วิธีใช้ "เขียง" ให้ปลอดภัย

เปิดอ่าน 13,110 ครั้ง
ผลไม้ล้างพิษ
ผลไม้ล้างพิษ
เปิดอ่าน 12,777 ครั้ง
การยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบบำเหน็จบำนาญ
การยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบบำเหน็จบำนาญ
เปิดอ่าน 33,037 ครั้ง
น้ำแร่และน้ำเปล่าแตกต่างกันอย่างไร
น้ำแร่และน้ำเปล่าแตกต่างกันอย่างไร
เปิดอ่าน 28,710 ครั้ง
โปรแกรมสำหรับช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษา
โปรแกรมสำหรับช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษา
เปิดอ่าน 22,558 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาส่วนภูมิภาค 6 เดือน กศจ.ไปต่ออย่างไร? โดย อดิศร เนาวนนท์
ปฏิรูปการศึกษาส่วนภูมิภาค 6 เดือน กศจ.ไปต่ออย่างไร? โดย อดิศร เนาวนนท์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ