ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิค KWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิค KWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิค KWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิค KWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียน (หลังเรียน) ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิค KWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิค KWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านเก่า) อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย กองการศึกษา เทศบาลตำบลเมืองพาน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 32 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐานและความต้องการของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พิจารณาความสอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน เท่ากับ 1.00 แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นของครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ พิจารณาความสอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน เท่ากับ 1.00 2) แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิค KWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 เล่ม ผ่านการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด 4.84 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.29 3) แบบประเมินคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้ ผ่านการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด 4.86 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.30 แบบประเมินคุณภาพคู่มือประกอบการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด 4.92 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.18 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ พิจารณาความสอดคล้องกับจุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม (IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คนหาค่าความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.30–0.60 หาค่าอำนาจจำแนก (r)อยู่ระหว่าง 0.20 – 0.30 และหาค่าความเชื่อมั่นได้เท่ากับ 0.87 5) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียน แบบอัตนัย จำนวน 5 ข้อ 50 คะแนนพิจารณาความสอดคล้องกับจุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม (IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คนหาค่าความยากง่าย (PE) อยู่ระหว่าง 0.46–0.55 หาค่าอำนาจจำแนก (D) อยู่ระหว่าง 0.60 – 0.76 และหาค่าความเชื่อมั่นได้เท่ากับ 0.99 5) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ทุกเล่ม ค่าความเชื่อมั่นได้เท่ากับ 0.91

ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียน ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญเห็นความสำคัญต่อการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิคKWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เล่มที่ 1-5 โดยเฉลี่ยรวมมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้จาก 80/80 ได้เท่ากับ 81.86/81.81 3) การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการเปรียบเทียบคะแนนก่อนการเรียนรู้และหลังการเรียนรู้ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนการเรียนรู้ โดยมีคะแนนเฉลี่ยหลังการเรียนรู้เท่ากับ 25.00 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 83.33 และคะแนนเฉลี่ยก่อนการเรียนรู้ เท่ากับ 15.59 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 51.98จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน 4) ผลการศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียน (หลังเรียน) ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิค KWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ มีคะแนนเฉลี่ยหลังการเรียน 42.72 คิดเป็นร้อยละ 85.44 จากคะแนนเต็ม 50 คะแนน และความสามารถในการแก้ปัญหาตามขั้นตอนการแก้ปัญหาโดยใช้เทคนิค KWDL ในภาพรวม อยู่ในระดับดี 2.74 คิดเป็นร้อยละ 91.15 และ 5) ผลการวัดความพึงพอใจของนักเรียนต่อแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด 4.68 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.49

โพสต์โดย chat : [29 ม.ค. 2565 เวลา 17:31 น.]
อ่าน [3716] ไอพี : 58.8.64.249
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,032 ครั้ง
การยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบบำเหน็จบำนาญ
การยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบบำเหน็จบำนาญ

เปิดอ่าน 9,230 ครั้ง
ประโยชน์ของการหัวเราะ
ประโยชน์ของการหัวเราะ

เปิดอ่าน 17,448 ครั้ง
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 15,049 ครั้ง
แผ่นดินไหว
แผ่นดินไหว

เปิดอ่าน 28,222 ครั้ง
"ข้าว" ในสมัยพุทธกาล
"ข้าว" ในสมัยพุทธกาล

เปิดอ่าน 10,509 ครั้ง
วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน
วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน

เปิดอ่าน 17,363 ครั้ง
ทายใจจากอักษรท้ายชื่อ
ทายใจจากอักษรท้ายชื่อ

เปิดอ่าน 12,263 ครั้ง
ฉาวอีก! คลิปตำรวจไทย... "มาๆๆ ร้อยเดียวพอ"
ฉาวอีก! คลิปตำรวจไทย... "มาๆๆ ร้อยเดียวพอ"

เปิดอ่าน 14,797 ครั้ง
แสงสว่างของหิ่งห้อยมาจากไหน
แสงสว่างของหิ่งห้อยมาจากไหน

เปิดอ่าน 51,830 ครั้ง
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน

เปิดอ่าน 14,024 ครั้ง
เลี้ยงลูกรักให้มีพัฒนาการสมวัย
เลี้ยงลูกรักให้มีพัฒนาการสมวัย

เปิดอ่าน 20,297 ครั้ง
10 อันดับ ปริศนาของโลก
10 อันดับ ปริศนาของโลก

เปิดอ่าน 26,254 ครั้ง
ลายมือคนที่บั้นปลายของชีวิตมีเงินทอง มีหลักฐานมั่นคง
ลายมือคนที่บั้นปลายของชีวิตมีเงินทอง มีหลักฐานมั่นคง

เปิดอ่าน 10,632 ครั้ง
เอกสารประกอบคำบรรยายประชุมขับเคลื่อนการปฏฺิรูปการศึกษาฯ โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา เมื่อวันที่ 11-13 พ.ค. 59
เอกสารประกอบคำบรรยายประชุมขับเคลื่อนการปฏฺิรูปการศึกษาฯ โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา เมื่อวันที่ 11-13 พ.ค. 59

เปิดอ่าน 14,396 ครั้ง
ทำไมแบตเตอรี่มีอายุสั้นลง?
ทำไมแบตเตอรี่มีอายุสั้นลง?

เปิดอ่าน 12,190 ครั้ง
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี
เปิดอ่าน 13,987 ครั้ง
เรื่องปูนๆ กับท่อปูนที่คุณอาจยังไม่รู้
เรื่องปูนๆ กับท่อปูนที่คุณอาจยังไม่รู้
เปิดอ่าน 21,709 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
เปิดอ่าน 22,079 ครั้ง
รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน
รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน
เปิดอ่าน 194,177 ครั้ง
ปลาหมอสี วิธีการเลี้ยงปลาหมอสี อาหารปลาหมอสี
ปลาหมอสี วิธีการเลี้ยงปลาหมอสี อาหารปลาหมอสี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ