ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนารูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODEL ร่วมกับเทคนิคการตั้ง
คำถามของบลูม(Bloom)เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ เรื่อง
พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย อรุณี รุ่งสกุล
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียน อบจ.บ้านตลาดเหนือ (วันครู2502)
อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
สังกัด กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
รายงานการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของบลูม(Bloom)เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) ทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของ
บลูม(Bloom)เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) ประเมินรูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของบลูม(Bloom) เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วย 3.1) ศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของบลูม(Bloom) เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3.2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยรูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของบลูม(Bloom) เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3.3) เปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนโดยรูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของบลูม(Bloom) เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3.4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยรูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของบลูม(Bloom) เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มประชากรได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอบจ.บ้านตลาดเหนือ (วันครู2502) จังหวัดภูเก็ต ปีการศึกษา 2562 จำนวน 118 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนอบจ.บ้านตลาดเหนือ(วันครู2502) จังหวัดภูเก็ต ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 35 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของบลูม(Bloom) เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 2 ฉบับซึ่งเป็นแบบทดสอบคู่ขนาน ฉบับที่ 1 เป็นแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน จำนวน 40 ข้อ ฉบับที่ 2 เป็นแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียนจำนวน 40 ข้อ 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบก่อนเรียน จำนวน 20 ข้อและหลังเรียนจำนวน 20 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนมีต่อการเรียนโดยรูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของบลูม(Bloom) เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t-test
ผลการวิจัย พบว่า 1) การศึกษาข้อมูลขั้นพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนแบบรูปแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของบลูม(Bloom) เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)ผลการใช้รูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของบลูม(Bloom) เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนโดยรูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของบลูม(Bloom) เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4)ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบ ARUNEE MODELร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถามของ
บลูม(Bloom) เรื่องพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ย X-bar 4.85 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) 0.50 ระดับคุณภาพมากที่สุด