ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประทาย จังหวัดนครราชสี

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณาญาณของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประทาย จังหวัดนครราชสีมา เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้ แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณาญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 โรงเรียนประทาย จังหวัดนครราชสีมา 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ พัฒนาความสามารถ ในการอ่านอย่างมีวิจารณาญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประทาย จังหวัดนครราชสีมา 3) ศึกษาผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาความสามารถ ในการอ่านอย่างมีวิจารณาญาณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประทาย จังหวัดนครราชสีมา 4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประทาย ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนประทาย อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา ที่กำลังเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษ1 รหัสวิชา อ31101 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียน จำนวน 36 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ซึ่งการจัดนักเรียนแต่ละห้องเรียนเป็นการจัดนักเรียน แบบคละความสามารถ ตัวแปรอิสระ ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอน แบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความสามารถทางการอ่านอย่างมีวิจารรญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประทาย ที่ได้รับการจัด การเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้ แบบร่วมมือ และความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประทาย ที่มีต่อการจัด การเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้ แบบร่วมมือ ใช้ระยะเวลาในการทดลองสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 9 สัปดาห์ รวมทั้งสิ้น 16 ชั่วโมง โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แผนการจัด การเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้ แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณาญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 จำนวน 9 แผน ใช้เวลา 16 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบ วัดความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอน แบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้ แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณาญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 โรงเรียนประทาย จังหวัดนครราชสีมา มี 7 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) แนวคิดทฤษฎี 2) หลักการ 3) วัตถุประสงค์ 4) เนื้อหาสาระ 5) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 6) ระบบสังคม 7) การวัดและประเมินผล ใช้ทฤษฎีโครงสร้างความรู้ (Schema Theory) ทฤษฎีการรับรู้และการเข้าใจตนเอง (Metacognition Theory) และทฤษฎีประมวลผลข้อมูล (Information Processing Theory) มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ หลักการ คือ นำวิธีสอนแบบ SQ4R และการสอน แบบร่วมมือมาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสามารถใน การอ่านอย่างมีวิจารณญาณและความสามารถ ในการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เนื้อหาสาระที่ใช้ได้แก่ หน่วยการเรียนเรื่อง News & Advertisements กระบวนการจัดการเรียนรู้เรียกว่า “2W2PC Model” มี 5 ขั้น ได้แก่ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 2) ขั้นฝึกอ่านด้วยตนเอง (Practice) 3) ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และระดมความคิด (Production) 4) ขั้นวิเคราะห์วิจารณ์บทอ่านและแสดงความคิดเห็น (Comment) 5) ขั้นสรุปและวัดผลประเมินผล (Warp up) ครูมีบทบาทกระตุ้นเสริมแรงและให้การสนับสนุนการเรียนของนักเรียน นักเรียนมีบทบาท ในการกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งแบบรายบุคคลและทำกิจกรรมกลุ่มแบบร่วมมือกันเรียนรู้ การวัดและประเมินผลโดยทดสอบความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณาญาณก่อนและหลังเรียน ประเมินความสามารถในการทำงานกลุ่ม และประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัด การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ ผลการตรวจสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องกับ 0.95 ซึ่งมีความเหมาะสมและสอดคล้องกัน และผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 83.05/82.26 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1 รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณาญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประทาย จังหวัดนครราชสีมา ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80

2. ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณาญาณก่อนและหลังเรียน ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ พบว่า การทดสอบค่าสถิติ t = 19.72, df = 35 ความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณาญาณก่อน และหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยคะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 19.50 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.89 และหลังเรียนมีเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 33.19 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.31 ซึ่งยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 2 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประทาย ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

3. ผลของการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประทายที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R และการเรียนรู้แบบร่วมมือ พบว่า ความพึงพอใจรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( = 4.24, S.D. = 1.12)

โพสต์โดย นริสรา : [28 ม.ค. 2565 เวลา 10:12 น.]
อ่าน [3745] ไอพี : 110.49.27.68
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 54,719 ครั้ง
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

เปิดอ่าน 3,447 ครั้ง
"พริกด่างญี่ปุ่น" พืชผักสวนครัว ผลทานได้
"พริกด่างญี่ปุ่น" พืชผักสวนครัว ผลทานได้

เปิดอ่าน 15,712 ครั้ง
สูตรดีท็อกซ์ทำเองได้! ง่าย ๆ แค่ 7 วัน
สูตรดีท็อกซ์ทำเองได้! ง่าย ๆ แค่ 7 วัน

เปิดอ่าน 10,913 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น

เปิดอ่าน 10,642 ครั้ง
คลิปข่าว ศธ. จ่อใช้ระบบสอบกลาง ประถม-มัธยม ปี 57 หากตกต้องซ้ำชั้น
คลิปข่าว ศธ. จ่อใช้ระบบสอบกลาง ประถม-มัธยม ปี 57 หากตกต้องซ้ำชั้น

เปิดอ่าน 45,047 ครั้ง
แผนภาพของเวน (Venn Diagram)
แผนภาพของเวน (Venn Diagram)

เปิดอ่าน 12,284 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 35,352 ครั้ง
จำนวนตรรกยะ
จำนวนตรรกยะ

เปิดอ่าน 15,774 ครั้ง
เหรียญงานพระราชสงครามยุโรป
เหรียญงานพระราชสงครามยุโรป

เปิดอ่าน 33,641 ครั้ง
ปิแอร์ เดอ แฟร์มาต์ นัก คณิตศาสตร์
ปิแอร์ เดอ แฟร์มาต์ นัก คณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 55,013 ครั้ง
แผนผังขั้นตอนการดำเนินการของ กศจ. ในการดำเนินการย้ายครู ผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์
แผนผังขั้นตอนการดำเนินการของ กศจ. ในการดำเนินการย้ายครู ผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์

เปิดอ่าน 11,843 ครั้ง
ปลาชะลอสมองเสื่อม
ปลาชะลอสมองเสื่อม

เปิดอ่าน 22,609 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549

เปิดอ่าน 45,826 ครั้ง
วันเนา
วันเนา

เปิดอ่าน 23,071 ครั้ง
เผด็จการคืออะไร
เผด็จการคืออะไร

เปิดอ่าน 8,042 ครั้ง
รัฐบาลทำงานอย่างไร? จึงจะถูกใจประชาชน
รัฐบาลทำงานอย่างไร? จึงจะถูกใจประชาชน
เปิดอ่าน 20,937 ครั้ง
การศึกษากับมุมมองของคนเวียดนาม
การศึกษากับมุมมองของคนเวียดนาม
เปิดอ่าน 14,675 ครั้ง
ตัวอย่างแนววินิจฉัยของ ก.พ.ค. 24 กรณี
ตัวอย่างแนววินิจฉัยของ ก.พ.ค. 24 กรณี
เปิดอ่าน 30,834 ครั้ง
ทิศหก
ทิศหก
เปิดอ่าน 17,824 ครั้ง
ใช้ข้อสอบเดียวกันตัดสินเด็กทั้งประเทศ ยุติธรรมแล้วหรือ!
ใช้ข้อสอบเดียวกันตัดสินเด็กทั้งประเทศ ยุติธรรมแล้วหรือ!

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ