บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เรียนรู้ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2556 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เรียนรู้ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เรียนรู้ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เรียนรู้ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เรียนรู้ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนบ้านวังม่วง อำเภอเอราวัณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 จำนวน 19 คน ซึ่งได้มาโดยการคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ (1) บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เรียนรู้ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 6 เล่ม (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ (3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูปเรื่อง เรียนรู้ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์คือ ค่าร้อยละ ค่าคะแนนเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูปเรื่อง เรียนรู้ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ พลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยการทดสอบที ( t-test) แบบ Dependent Sample
ผลการศึกษาพบว่า
1. บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เรียนรู้ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.33/83.51 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
2. ดัชนีประสิทธิผล (The Effectiveness Index) ของบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เรียนรู้ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้นมีค่าเท่ากับ 0.7432 หรือคิดเป็นร้อยละ 74.32 แสดงว่าบทเรียนสำเร็จรูป ทำให้นักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนเพิ่มขึ้นจากคะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน 0.7432 หรือคิดเป็นร้อยละ 74.32
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01โดยพบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนคะแนนเฉลี่ย( = 10.74,S.D.= 1.10) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนคะแนนเฉลี่ย ( =25.05, S.D.= 2.32)
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านวังม่วง มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูปเรื่อง เรียนรู้ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา คิดเป็นค่าเฉลี่ย ( =4.36, S.D.= 0.45) อยู่ในระดับพึงพอใจมาก