ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กลยุทธ์ 1ป 5ส โรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ ปีการศึกษา 2562 – 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดย ใช้กลยุทธ์ 1ป 5ส โรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ ปีการศึกษา 2562-2563 2) เพื่อศึกษาระดับคุณภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้(Happy Workplace) ของโรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 3) เพื่อศึกษาพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุขของครูโรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 4) เพื่อศึกษาระดับคุณภาพพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการมีความสุขของนักเรียนโรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 และ5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและองค์กรชุมชนต่อการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กลยุทธ์ 1ป 5ส โรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ ปีการศึกษา 2562-2563 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย 1) นักเรียน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดย ปีการศึกษา 2562 ใช้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ทุกคน ได้กลุ่มตัวอย่าง ปีการศึกษา 2562 จำนวน 69 คน ปีการศึกษา 2563 จำนวน 49 คน (เนื่องจากนักเรียนกลุ่มดังกล่าวมีความสามารถในการอ่าน สามารถสื่อข้อความจากแบบสอบถามได้ดีกว่ากลุ่มอื่นๆ) 2) ครู ศึกษาจากประชากรครู ปีการศึกษา 2562 จำนวน 15 คน ปีการศึกษา 2563 จำนวน 14 คน 3) ผู้ปกครอง กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยใช้ผู้ปกครองของนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นกลุ่มตัวอย่าง ได้กลุ่มตัวอย่างปีการศึกษา 2562 จำนวน 65 คน ปีการศึกษา 2563 จำนวน 47 คน 4) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยยกเว้นผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้แทนครูได้กลุ่มตัวอย่างปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 7 คน 5 ) องค์กรชุมชน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยใช้องค์กรเครือข่ายละ 3 คนได้กลุ่มตัวอย่างปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามและแบบสังเกตพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) ประกอบด้วยฉบับที่ 1 แบบสอบถามคุณภาพการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กลยุทธ์ 1ป 5ส โรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ ปีการศึกษา 2562-2563 (สำหรับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และภาคีเครือข่ายองค์กรชุมชน เป็นผู้ตอบแบบสอบถาม) ฉบับที่ 2 แบบสอบถามคุณภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุขของโรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 (สำหรับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน) ฉบับที่ 3 แบบสอบถามพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุขของครูโรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 (สำหรับนักเรียนโรงเรียนสังวาลย์วิท ๒) ฉบับที่ 4 แบบบันทึกผลการสังเกตพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการมีความสุขของนักเรียนโรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 (สำหรับครูที่ปรึกษาเป็นผู้สังเกตพฤติกรรมนักเรียนเป็นรายบุคคล) ฉบับที่ 5 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและองค์กรชุมชนต่อการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กลยุทธ์ 1ป 5ส โรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ ปีการศึกษา 2562-2563 (สำหรับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และองค์กรชุมชนเป็นผู้ตอบแบบสอบถาม)หลังการพัฒนาปีการศึกษา 2562 – 2563 มีการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ ตรงต่อเนื้อหา ได้คัดเลือกข้อที่มีค่าดัชนีความสอดคล้องมีค่ามากกว่า 0.75 ไว้เป็นข้อคำถามและจัดพิมพ์เป็นแบบสอบถาม เพื่อนำไปทดลองใช้หาคุณภาพเครื่องมือต่อไป (ค่า IOC ทั้ง 5 ฉบับ มีค่าเท่ากับ 0.80-1.00) การเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บข้อมูลด้วยตนเองโดยเก็บข้อมูล 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 หลังการพัฒนาเมื่อสิ้นปีการศึกษา 2562 ช่วงเดือนมีนาคม 2563 ครั้งที่ 2 หลังการพัฒนาเมื่อสิ้นปีการศึกษา 2563 ช่วงเดือนมีนาคม 2564 ผู้วิจัยดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS version 18 สถิติพื้นฐานร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ยเลขคณิตจากกลุ่มตัวอย่างและประชากร (Arithmetic Mean : , μ ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานจากกลุ่มตัวอย่างและประชากร (Standard Deviation : S.D., )

ผลการวิจัยพบว่า

1) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace)โดยใช้กลยุทธ์ 1ป 5ส โรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และภาคีเครือข่ายองค์กรชุมชน

ปีการศึกษา 2562 เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คุณภาพอยู่ในระดับมาก ( =4.39, S.D.= 0.29) รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( =4.38, S.D.= 0.48) ส่วนกลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คุณภาพอยู่ในระดับมากเช่นกัน ( =4.10, S.D.= 0.33)

ปีการศึกษา 2563 เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.51, S.D.= 0.67) รองลงมาได้แก่ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( =4.49, S.D.= 0.23) ส่วนกลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คุณภาพอยู่ในระดับมากเช่นกัน ( =4.22, S.D.= 0.25)

2) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุขของโรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 จำแนกตามกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม พบว่า

ปีการศึกษา 2562 เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คุณภาพอยู่ในระดับมาก ( =4.36, S.D.= 0.33) รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( =4.34, S.D.= 0.21) ส่วนกลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คุณภาพอยู่ในระดับมาก ( =4.14, S.D.= 0.34)

ปีการศึกษา 2563 เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คุณภาพอยู่ในระดับมาก ( =4.45, S.D.= 0.59) รองลงมาได้แก่ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( =4.44, S.D.= 0.27) ส่วนกลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คุณภาพอยู่ในระดับมาก ( =4.25, S.D.= 0.28)

3) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุขของครูโรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน พบว่า

ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.25, S.D.= 0.23) และเมื่อพิจารณาจำแนกเป็นรายการ พบว่า รายการที่ 12 ครูมีคู่มือนวัตกรรมที่สามารถนำมาพัฒนานักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.52, S.D.= 0.60) รองลงมาได้แก่ รายการที่ 14 ครูมีการวัดผลและประเมินผลความสามารถของนักเรียนด้วยวิธีการหลากหลาย อยู่ในระดับมาก ( =4.50, S.D.= 50) ส่วนรายการที่ 8 ครูสามารถจัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในห้องเรียนอย่างประหยัดใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและเทคโนโลยีในการจัดชั้นเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ( =3.98, S.D.= 0.55)

ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.46, S.D.= 0.20) และเมื่อพิจารณาจำแนกเป็นรายการ พบว่า รายการที่ 5 ครูจัดบรรยากาศในชั้นเรียนที่สะอาด ถูกสุขลักษณะและสวยงาม มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.63, S.D.= 0.52) รองลงมาได้แก่รายการที่ 14 ครูมีการวัดผลและประเมินผลความสามารถของนักเรียนด้วยวิธีการหลากหลาย อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.57, S.D.= 0.50) ส่วนรายการที่ 2 ครูมีการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติตนเป็นคนดีจนเป็นวิถีชีวิตประจำวัน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ( =4.28, S.D.= 0.64)

4) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการมีความสุขของนักเรียนโรงเรียน

สังวาลย์วิท ๒ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 โดยครูที่ปรึกษาเป็นผู้สังเกตและบันทึกพฤติกรรมนักเรียนเป็นรายบุคคล พบว่า

ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.30, S.D.= 0.23) และเมื่อพิจารณาจำแนกเป็นรายการ พบว่า รายการที่ 14 นักเรียนได้เรียนรู้จากสถานการณ์จริง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับ มากที่สุด ( =4.53, S.D.= 0.50) รองลงมาได้แก่รายการที่ 15 นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดแสดงผลงานของตนเองในห้องเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด( =4.53, S.D.= 0.54) ส่วนรายการที่ 7 นักเรียนมีพฤติกรรมการแสดงออกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก( =4.11, S.D.= 0.70)

ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.41, S.D.= 0.20) และเมื่อพิจารณาจำแนกเป็นรายการ พบว่า รายการที่ 5 นักเรียนสามารถสื่อสารกับครูและเพื่อนร่วมชั้นเรียนอย่างสมเหตุสมผลและเหมาะสมกับวัย มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.55, S.D.= 0.57) รองลงมาได้แก่ รายการที่ 13 นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงจากประสบการณ์ตรงที่ครูจัดกิจกรรมให้อย่างหลากหลาย อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.55, S.D.= 0.62) ส่วนรายการที่ 2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามระเบียบ ข้อตกลงและดูแลตนเองได้ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ( =4.27, S.D.= 0.62)

5) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและองค์กรชุมชนต่อการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) โดยใช้กลยุทธ์ 1ป 5ส โรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า

ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวม เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจสูงสุดอยู่ในระดับมาก ( = 4.50, S.D. = 0.08) รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง อยู่ในระดับมาก ( = 4.46, S.D. = 0.16)ส่วนกลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่ำสุด อยู่ในระดับมากเช่นกัน (μ = 4.31, σ = 0.19)

ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวม เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.58, S.D. = 0.18) รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52, S.D. = 0.17) ส่วนกลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่ำสุด อยู่ในระดับมาก (μ = 4.46, σ = 0.11)

ข้อเสนอแนะ

1.ข้อเสนอแนะเพื่อการนำผลการวิจัยไปใช้

1.1 โรงเรียนควรจัดอบรมพัฒนาเชิงปฏิบัติการ/ Work Shop เกี่ยวกับกระบวนการจัดการ

เรียนให้แก่ครูและบุคลากรในโรงเรียนโดยต่อยอดจากองค์กรที่มีความสุข เพื่อให้ครูมีทักษะการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายและจัดให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข เช่น การเรียนคณิตศาสตร์อย่างไรให้มีความสุข เรียนภาษาไทยอย่างไรให้สนุกสนาน พร้อมทั้งส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน

1.2 โรงเรียนต้องส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรความร่วมมือ ได้แก่ คณะกรรมการ

สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เครือข่ายผู้ปกครอง และผู้ปกครองนักเรียน ตลอดจนองค์กรความร่วมมืออื่นๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนโรงเรียนไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ให้เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนและเป็นระบบ ในการเข้ามามีส่วนร่วมในบทบาทหน้าที่ ตลอดจน นำภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้านให้มามีบทบาทต่อโรงเรียน ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในท้องถิ่น เพื่อให้นักเรียนตระหนักและเห็นความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่น

1.3 โรงเรียนควรส่งเสริมและต่อยอดขยายผล เรื่ององค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace) ให้มีในโรงเรียนอย่างยั่งยืน เพื่อให้ครูและบุคลากรปฏิบัติงานอย่างเต็มความรู้ความสามารถเกิดพลังบวกในการทำงาน ส่งผลให้นักเรียนอยากมาโรงเรียน ผู้ปกครองมีความพึงพอใจในการส่งบุตรหลานมาเรียน

2. ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข (Happy Workplace) อย่างยั่งยืน

2.2 ควรศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเรียนรู้อย่างมีความสุขของนักเรียนที่เกิดจากพลังเชิงบวกกับการเรียนรู้ที่ครูสอนแบบเดิมๆ ว่าผลการเรียนรู้ต่างกันเช่นไร

2.3 ควรศึกษาผลกระทบทางบวกของการเป็นองค์กรการเรียนรู้อย่างมีความสุขของครูของนักเรียนที่มีต่อชุมชนและสังคมโดยรอบสถานศึกษา

จากการวิจัยการพัฒนาโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข โดยใช้กลยุทธ์ 1ป 5ส โรงเรียนสังวาลย์วิท ๒ ปีการศึกษา 2562-2563 ครั้งนี้ทำให้ได้ค้นพบจุดเด่น ของการทำงานแบบ TEAM MODEL และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนซึ่งเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางในการพัฒนาการเป็นองค์กรแห่งความสุขต่อไป

โพสต์โดย ครูเมย์ : [26 ม.ค. 2565 เวลา 18:24 น.]
อ่าน [3773] ไอพี : 125.24.128.64
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,243 ครั้ง
คลิปรายการ "เจาะข่าวเด่น" ดร.ชินภัทร ชี้แจงกรณี "ลดการบ้านนักเรียน"
คลิปรายการ "เจาะข่าวเด่น" ดร.ชินภัทร ชี้แจงกรณี "ลดการบ้านนักเรียน"

เปิดอ่าน 20,033 ครั้ง
พระศิวะ
พระศิวะ

เปิดอ่าน 12,986 ครั้ง
นม ร.ร.ป้องกัน มะเร็ง ช่วยไม่ให้เกิดขึ้นเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่
นม ร.ร.ป้องกัน มะเร็ง ช่วยไม่ให้เกิดขึ้นเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่

เปิดอ่าน 151,267 ครั้ง
ขอให้หายไวๆ ภาษาอังกฤษคืออะไร
ขอให้หายไวๆ ภาษาอังกฤษคืออะไร

เปิดอ่าน 39,126 ครั้ง
สังคหวัตถุ 4
สังคหวัตถุ 4

เปิดอ่าน 31,505 ครั้ง
พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 26)พ.ศ. 2553
พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 26)พ.ศ. 2553

เปิดอ่าน 19,900 ครั้ง
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 9,754 ครั้ง
5 เหตุผลดีๆ ที่คุณควรออกกำลัง
5 เหตุผลดีๆ ที่คุณควรออกกำลัง

เปิดอ่าน 13,112 ครั้ง
แรงบิดและแรงม้า
แรงบิดและแรงม้า

เปิดอ่าน 13,129 ครั้ง
ดาวน์โหลดฟรีหลักสูตรแผนอาชีพ
ดาวน์โหลดฟรีหลักสูตรแผนอาชีพ

เปิดอ่าน 10,251 ครั้ง
10 วิธีถนอมสายตา หน้าจอคอมพิวเตอร์
10 วิธีถนอมสายตา หน้าจอคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 36,313 ครั้ง
หยุด การศึกษาที่สร้างทุกข์ให้นักเรียน และผู้ปกครอง
หยุด การศึกษาที่สร้างทุกข์ให้นักเรียน และผู้ปกครอง

เปิดอ่าน 24,763 ครั้ง
คณิตศาสตร์ไขปริศนาฟองเบียร์แฟบ
คณิตศาสตร์ไขปริศนาฟองเบียร์แฟบ

เปิดอ่าน 32,829 ครั้ง
ฝรั่งมาไทยแล้วอัพคลิป "Never Go To Thailand" เพราะอะไร? ไม่กดดู ไม่ได้แล้ว....
ฝรั่งมาไทยแล้วอัพคลิป "Never Go To Thailand" เพราะอะไร? ไม่กดดู ไม่ได้แล้ว....

เปิดอ่าน 15,767 ครั้ง
โรงเรียนสุขภาวะตอบโจทย์ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”
โรงเรียนสุขภาวะตอบโจทย์ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”

เปิดอ่าน 18,241 ครั้ง
วันออกพรรษา
วันออกพรรษา
เปิดอ่าน 8,933 ครั้ง
เตรียมตัวก่อนไปทะเล
เตรียมตัวก่อนไปทะเล
เปิดอ่าน 7,264 ครั้ง
กก.อิสระปฏิรูปการศึกษาช่วยที : โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์
กก.อิสระปฏิรูปการศึกษาช่วยที : โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์
เปิดอ่าน 31,835 ครั้ง
10 อาชีพเสี่ยงตกงาน “สูง”!!!
10 อาชีพเสี่ยงตกงาน “สูง”!!!
เปิดอ่าน 52,563 ครั้ง
คำบุพบท
คำบุพบท

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ