ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการสอนแบบ 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูด เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอน 3P ด้วย

กระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 3 2) ออกแบบและพัฒนารูปแบบการสอน 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูด

เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนและทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังการ

เรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบ 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์และ4)

ประเมินและปรับปรุงรูปแบบการสอน 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผลการวิจัย

1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน ศึกษาแนวคิด

ในการวิจัยรูปแบบ ADDIE Model ของเควิน ครูส ร่วมกับกรอบแนวคิดทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา

ของเพียเจต์ (Piaget) ทฤษฎีการสร้างความรู้ (Constructivism) ของ Jean Piaget และ Lev Vygotsky

รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดของกานเย (Gagne’s Instructional Model) ทฤษฎีการคิด

สร้างสรรค์ตามแนวคิดของกิลฟอร์ด (Gilford) รูปแบบการเรียนการสอนกระบวนการคิดสร้างสรรค์ของ

จอยส์ และว ีล(Joyce & Weil) ว ิธ ีสอนแบบระ ดม พ ลั งสม อ ง (Brainstorming) ขอ งอ อ

สบอร์น (Alex F. Osborne) เป็นแนวทางในการกำหนดเกณฑ์ประเมิน การดำเนินการวิจัยโดยแบ่ง

ขั้นตอนการดำเนินการวิจัยออกเป็น 4 ระยะ คือ การวิจัยระยะที่ 1 การวิจัย (Research: R1) เป็นศึกษา

แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง และการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis) การวิจัยระยะที่ 2 การ

ออกแบบและพัฒนารูปแบบการสอน(Design and Development: D1) เป็นการออกแบบและพัฒนา

รูปแบบการสอน 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ แบ่งการดำเนินการ

เป็น 3 ขั้น คือ ขั้นร่างรูปแบบการสอน 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิง

สร้างสรรค์ขั้นตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการสอน 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริม

ทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ขั้นหาคุณภาพของรูปแบบการสอน 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริม

ทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์(Try-out) การวิจัยระยะที่ 3 การวิจัย (Research: R2) เป็นการทดลองใช้

รูปแบบการสอน 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้

ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยนำไปใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓/2

จำนวน 30 คน ที่มีความสามารถใกล้เคียงกัน ของโรงเรียนเทศบาลบูรพาอุบล สำนักการศึกษา เทศบาล

นครอุบลราชธานีอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานีที่ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random

Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม ระยะเวลาในการทดลองรวมทั้งสิ้น 16 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้

ประกอบด้วย รูปแบบการสอน 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ กลุ่ม

สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินความสอดคล้อง

ของรูปแบบการสอน แบบประเมินทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

สถิติค่าทีที (t-test Dependent Samples) การวิจัยระยะที่ 4 ประเมินการพัฒนารูปแบบการสอน 3P

ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 3 (Development: D2) แบ่งการดำเนินการเป็น 2 ขั้น คือ ขั้นนำเสนอรูปแบบการสอน

3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการอบรมครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษา เครื่องมือ

ที่ใช้ แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อรูปการสอน 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูด

เชิงสร้างสรรค์ขั้นปรับปรุง วิเคราะห์ข้อมูลโดยสรุปและตีความข้อมูลจากแบบสอบถาม ปรับปรุงแก้ไข

รูปแบบการสอน 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์กลุ่มสาระการเรียนรู้

ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

2. ผลการออกแบบ ได้รูปแบบการสอน 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะ

การพูดเชิงสร้างสรรค์กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีองค์ประกอบ ดังนี้

วัตถุประสงค์ สาระสำคัญ กระบวนการเรียนการสอน สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการ

ตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน มีกระบวนการเรียนการสอน 4 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 ขั้นนำ การเตรียมความ

พร้อมในการเรียนให้แก่ผู้เรียน ขั้นที่ 2 ขั้นกิจกรรม 3P คือ กิจกรรมนำเสนอเนื้อหา (Presentation Stage :

P) กิจกรรมฝึกฝน (Practice Stage : P ) กิจกรรมการใช้ภาษาออกแบบงาน (Production Stage : P ) ขั้น

ที่ 3 ขั้นอภิปราย การให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กระบวนการกลุ่ม ขั้นที่ 4 ขั้นสรุปและ

นำไปใช้ นำเสนองานและจัดทำคลิปวีดีโอ และผลการพัฒนาพบว่า รูปแบบการสอนมีประสิทธิภาพ

E1/E2 เท่ากับ 89.78/90.52 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่ามีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่

กำหนดไว้

3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ของ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบ 3P ด้วย

กระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์พบว่า

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ หลังเรียนสูงกว่า

ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 ผลการประเมินทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่

3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.3 นักเรียนมีความพึงพอใจรูปแบบการสอนแบบ 3P ด้วยกระบวนการกลุ่ม

เพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด

4. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษา มีความเห็นว่า

รูปแบบการสอนแบบ 3P ด้วยกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์กลุ่มสาระการ

เรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสม และสามารถนำไปใช้ได

โพสต์โดย ฺBanana889 : [24 ม.ค. 2565 เวลา 05:04 น.]
อ่าน [6840] ไอพี : 124.122.15.80
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,559 ครั้ง
แก่นขนุน
แก่นขนุน

เปิดอ่าน 11,538 ครั้ง
ดูทีวี-เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด
ดูทีวี-เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด

เปิดอ่าน 19,413 ครั้ง
เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับน้ำตาลในผัก
เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับน้ำตาลในผัก

เปิดอ่าน 58,316 ครั้ง
ธรรมชาติของห่วงโซ่อาหาร
ธรรมชาติของห่วงโซ่อาหาร

เปิดอ่าน 42,010 ครั้ง
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย

เปิดอ่าน 15,538 ครั้ง
สรุปผลการวิจัยเรื่องค่าใช้จ่ายเอกชนทางการศึกษาของนักเรียนไทย
สรุปผลการวิจัยเรื่องค่าใช้จ่ายเอกชนทางการศึกษาของนักเรียนไทย

เปิดอ่าน 30,317 ครั้ง
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"

เปิดอ่าน 22,422 ครั้ง
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?

เปิดอ่าน 3,631 ครั้ง
นัยสำคัญยุทธศาสตร์การศึกษาในพลวัตศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมอาเชียน อย่างยั่งยืนสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
นัยสำคัญยุทธศาสตร์การศึกษาในพลวัตศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมอาเชียน อย่างยั่งยืนสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย

เปิดอ่าน 19,598 ครั้ง
จัดสวนอย่างไร ให้มี "ฮวงจุ้ย" ดี
จัดสวนอย่างไร ให้มี "ฮวงจุ้ย" ดี

เปิดอ่าน 9,527 ครั้ง
คำตอบของ 3 จี ในประเทศไทย เอาไงกันแน่
คำตอบของ 3 จี ในประเทศไทย เอาไงกันแน่

เปิดอ่าน 23,787 ครั้ง
การฝึกทักษะการพูดและฟังภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ
การฝึกทักษะการพูดและฟังภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 14,970 ครั้ง
เชื้อรา และผื่นเรื่องต้องระวังเมื่อถึงหน้าร้อน
เชื้อรา และผื่นเรื่องต้องระวังเมื่อถึงหน้าร้อน

เปิดอ่าน 19,215 ครั้ง
โจทย์เลขสิงคโปร์ป่วนเน็ต หาคำตอบกันทั้งโลก
โจทย์เลขสิงคโปร์ป่วนเน็ต หาคำตอบกันทั้งโลก

เปิดอ่าน 45,377 ครั้ง
คณิตาสตร์กับปรากฏการณ์ธรรมชาติ
คณิตาสตร์กับปรากฏการณ์ธรรมชาติ

เปิดอ่าน 17,115 ครั้ง
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร
เปิดอ่าน 440,704 ครั้ง
การวิ่งระยะต่าง ๆ (พลศึกษา)
การวิ่งระยะต่าง ๆ (พลศึกษา)
เปิดอ่าน 26,077 ครั้ง
ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ - Linux
ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ - Linux
เปิดอ่าน 26,406 ครั้ง
ปราบชิคุนกุนยาด้วยสมุนไพร
ปราบชิคุนกุนยาด้วยสมุนไพร
เปิดอ่าน 54,081 ครั้ง
คุณค่าทางโภชนาการของ "หอยหวาน"
คุณค่าทางโภชนาการของ "หอยหวาน"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ