ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาชุดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผลงาน การพัฒนาชุดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI

เรื่อง ความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางพรทิพย์ ประเมธิ์ศรี

โรงเรียนคลองเมืองพิทยาคม อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา

ปี พ.ศ. 2564

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิค การสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้ตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างเรียนและหลังเรียนด้วยชุดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 3 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้ เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI เรื่อง ความน่าจะเป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนคลองเมืองพิทยาคม อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 ห้องเรียนมีนักเรียนจำนวน 28 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ 1) ชุดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยค่าสถิติพื้นฐาน คือ ค่าเฉลี่ยร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการทดสอบสมมติฐาน คือ ค่าสถิติทดสอบ t – test Dependent Sample

ผลการวิจัยพบว่า

1. ประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.04/81.70 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ความพึงพอใจของนักเรียนมีต่อชุดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยรวม (X- = 4.26, S.D. = 0.93) และเมื่อพิจารณารายด้านโดยเรียงลำดับจากมากไปน้อยได้ดังนี้ ด้านประโยชน์ที่ได้รับ มีความพึงพอใจมากที่สุด (X-= 4.31, S.D.

= 0.91) รองลงมาคือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (X-= 4.29, S.D. = 0.88) และลำดับสุดท้าย คือ ด้านรูปแบบชุดการเรียนรู้ (X-= 4.20, S.D. = 0.98)

โพสต์โดย แจ็ค : [20 ม.ค. 2565 เวลา 18:29 น.]
อ่าน [4047] ไอพี : 171.96.221.121
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 37,387 ครั้ง
อบรมการสร้าง 7 อุปนิสัย ให้เด็กดีมีความสุข
อบรมการสร้าง 7 อุปนิสัย ให้เด็กดีมีความสุข

เปิดอ่าน 9,502 ครั้ง
เจาะ..."ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"ครูควรรับมืออย่างไร ?
เจาะ..."ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"ครูควรรับมืออย่างไร ?

เปิดอ่าน 4,380 ครั้ง
กรมอนามัย แนะมีนมจืดติดบ้าน กระตุ้นวัยเรียน วัยรุ่น ดื่มนมเพิ่มความสูง
กรมอนามัย แนะมีนมจืดติดบ้าน กระตุ้นวัยเรียน วัยรุ่น ดื่มนมเพิ่มความสูง

เปิดอ่าน 8,963 ครั้ง
เมื่อบ้านมีระเบียบ ฮวงจุ้ยก็ดีได้
เมื่อบ้านมีระเบียบ ฮวงจุ้ยก็ดีได้

เปิดอ่าน 42,638 ครั้ง
นวดศีรษะและต้นคอก่อให้เกิดอันตรายจริงหรือ?
นวดศีรษะและต้นคอก่อให้เกิดอันตรายจริงหรือ?

เปิดอ่าน 15,979 ครั้ง
สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลตั้งชื่อดาวเคราะห์น้อยเพื่อเป็นเกียรติแก่นักดาราศาสตร์ไทย
สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลตั้งชื่อดาวเคราะห์น้อยเพื่อเป็นเกียรติแก่นักดาราศาสตร์ไทย

เปิดอ่าน 12,857 ครั้ง
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า

เปิดอ่าน 17,618 ครั้ง
เคล็ดลับเร่ง "ผม" ให้ยาวเร็วขึ้น
เคล็ดลับเร่ง "ผม" ให้ยาวเร็วขึ้น

เปิดอ่าน 35,875 ครั้ง
ทำโทรศัพท์มือถือเป็นเม้าส์ไร้สายกันเถอะ
ทำโทรศัพท์มือถือเป็นเม้าส์ไร้สายกันเถอะ

เปิดอ่าน 5,458 ครั้ง
สมรรถนะต่างประเทศ 4 ตัวอย่างหลักสูตร สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา
สมรรถนะต่างประเทศ 4 ตัวอย่างหลักสูตร สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา

เปิดอ่าน 16,236 ครั้ง
คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว
คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว

เปิดอ่าน 9,413 ครั้ง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง

เปิดอ่าน 16,877 ครั้ง
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?

เปิดอ่าน 41,912 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 7 ผู้รักษาเวลาและผู้ตัดสินที่ 3
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 7 ผู้รักษาเวลาและผู้ตัดสินที่ 3

เปิดอ่าน 13,039 ครั้ง
วิธีถ่ายรูปให้ดูดีกว่าตัวจริง
วิธีถ่ายรูปให้ดูดีกว่าตัวจริง

เปิดอ่าน 103,934 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลข้อต่อเคล็ดหรือแพลง
วิธีปฐมพยาบาลข้อต่อเคล็ดหรือแพลง
เปิดอ่าน 14,208 ครั้ง
ทำโยคะบนใบหน้าตนเอง เพื่อใบหน้าเต่งตึง
ทำโยคะบนใบหน้าตนเอง เพื่อใบหน้าเต่งตึง
เปิดอ่าน 42,065 ครั้ง
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
เปิดอ่าน 14,873 ครั้ง
สมุนไพรฤทธิ์เย็น ตัวช่วยดูแลผิว ประหยัด..ช่วงปลายฝนต้นหนาว
สมุนไพรฤทธิ์เย็น ตัวช่วยดูแลผิว ประหยัด..ช่วงปลายฝนต้นหนาว
เปิดอ่าน 13,240 ครั้ง
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ