ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนประกอบเทคนิค การสอนแบบ TAI

ชื่อเรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนประกอบเทคนิค

การสอนแบบ TAI

ผู้วิจัย นางสาวสุดารัตน์ พิพิธกุล

ตำแหน่ง ครู

วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

สังกัด โรงเรียนชุมชนหนองบัวโคก (ทองวิทยานุกูล) อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3

บทคัดย่อ

การเรียนการสอนคณิตศาสตร์ในปัจจุบันครูจะต้องคำนึงถึงการสอนให้ผู้เรียนคิดเป็น

ทำเป็นและแก้ปัญหาเป็น ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสกระทำด้วยตนเอง รู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง

รับผิดชอบต่อการเรียนของตนเองมากขึ้น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ TAI

ช่วยให้เกิดแรงจูงใจและกระตุ้นให้ผู้เรียนได้เรียนตามความสามารถของตนเอง ส่งเสริมการช่วยเหลือกัน

ปลูกฝังนิสัยที่ดีในการอยู่ร่วมกันในสังคม ดังนั้นการทำวิจัยในครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษา

ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิคการสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75

(2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิคการสอน

แบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

(3) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิค

การสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (4) เพื่อศึกษาความ

พึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิคการสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียน

ที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนชุมชนหนองบัวโคก (ทองวิทยานุกูล) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่

การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive

Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 4 ชนิด ประกอบด้วย (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิคการสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จำนวน 10 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยในแต่ละชุดกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ระหว่าง 4.61 ถึง 4.73 หมายถึง ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิคการสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (2) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จำนวน 10 แผน มีค่าเฉลี่ยในภาพรวมเท่ากับ 4.74 หมายถึง แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.42 ถึง 0.77 ค่าความยากง่าย ตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.79 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิคการสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) จำนวน 12 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ตั้งแต่ 0.42 ถึง 0.67 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.83 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

GJ1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิคการสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 88.99/84.58

ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 75/75

2. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิคการสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีค่าเท่ากับ 0.76 หมายถึงผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 76

3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิค

การสอนแบบ TAI มีคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนเท่ากับ 10.54 คะแนน และ 25.38 คะแนน ตามลำดับ คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิคการสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับ

มากที่สุด

โดยสรุป การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิคการสอนแบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิว

และปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ได้ผลการวิจัยที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยที่ตั้งไว้ ซึ่งสรุปได้ว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบเทคนิคการสอน

แบบ TAI เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมที่จะนำไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชาคณิตศาสตร์ เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

โพสต์โดย Noi : [18 ม.ค. 2565 เวลา 07:13 น.]
อ่าน [65012] ไอพี : 183.89.76.114
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 32,762 ครั้ง
รู้แล้ว สโตนเฮนจ์ มีไว้ทำไม
รู้แล้ว สโตนเฮนจ์ มีไว้ทำไม

เปิดอ่าน 5,605 ครั้ง
เงินเฟ้อ คืออะไร
เงินเฟ้อ คืออะไร

เปิดอ่าน 193,979 ครั้ง
ตำนาน บ้านบางระจัน
ตำนาน บ้านบางระจัน

เปิดอ่าน 36,982 ครั้ง
แนวทางการคัดเลือกหนังสือสำหรับเด็กปฐมวัยที่สอดคล้องกับกระทรวงฯ
แนวทางการคัดเลือกหนังสือสำหรับเด็กปฐมวัยที่สอดคล้องกับกระทรวงฯ

เปิดอ่าน 25,773 ครั้ง
แบบเต็ม ๆ อีกครั้ง สำหรับชุดประจำชาติไทยสู่เวทีสากล
แบบเต็ม ๆ อีกครั้ง สำหรับชุดประจำชาติไทยสู่เวทีสากล

เปิดอ่าน 21,144 ครั้ง
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษาและเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา 2563 : 8 กลุ่มสาระ โรงเรียนวัดหนองดินแดง (ประชารัฐอุทิศ)
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษาและเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา 2563 : 8 กลุ่มสาระ โรงเรียนวัดหนองดินแดง (ประชารัฐอุทิศ)

เปิดอ่าน 12,132 ครั้ง
ปราบกลิ่นเท้าให้อยู่หมัด
ปราบกลิ่นเท้าให้อยู่หมัด

เปิดอ่าน 30,890 ครั้ง
8 ตัวอย่างภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย
8 ตัวอย่างภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย

เปิดอ่าน 17,925 ครั้ง
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว

เปิดอ่าน 20,612 ครั้ง
10 อันดับเมืองที่มลพิษมากที่สุดในโลก
10 อันดับเมืองที่มลพิษมากที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 18,367 ครั้ง
Microsoft Office สำหรับไอแพด
Microsoft Office สำหรับไอแพด

เปิดอ่าน 12,709 ครั้ง
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ

เปิดอ่าน 10,877 ครั้ง
เตือนภาชนะจากพลาสติก อันตรายต่อสมอง
เตือนภาชนะจากพลาสติก อันตรายต่อสมอง

เปิดอ่าน 13,430 ครั้ง
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน

เปิดอ่าน 16,447 ครั้ง
ผู้อยู่ลำดับสี่ในตารางสัมภาษณ์งาน มีโอกาสได้งานทำมากที่สุด ผลการวิจัยบอก
ผู้อยู่ลำดับสี่ในตารางสัมภาษณ์งาน มีโอกาสได้งานทำมากที่สุด ผลการวิจัยบอก

เปิดอ่าน 2,875 ครั้ง
ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้วมีกี่ขั้นตอน
ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้วมีกี่ขั้นตอน
เปิดอ่าน 17,330 ครั้ง
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า
เปิดอ่าน 37,029 ครั้ง
ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21
ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 11,995 ครั้ง
จัดการผมยุ่งเหยิงยามเช้าตรู่อย่างไรดี
จัดการผมยุ่งเหยิงยามเช้าตรู่อย่างไรดี
เปิดอ่าน 10,583 ครั้ง
คลิปประทับใจ สานฝันเด็กพิเศษ ให้กลายเป็นจริง
คลิปประทับใจ สานฝันเด็กพิเศษ ให้กลายเป็นจริง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ