วัตถุประสงค์ของการศึกษา
เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ด้านการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง ปริมาตรทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
วิธีดำเนินการ
1. ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่ม
สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หนังสือที่เกี่ยวข้องกับการแก้โจทย์ปัญหา
2. ศึกษาค้นคว้า ตำรา เอกสารงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบบฝึกทักษะ แบบทดสอบวัด
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจนเข้าใจเป็นอย่างดี
3. สร้างแบบฝึกทักษะ จำนวน 1 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 20 ข้อ
4. ทดลองใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง ปริมาตรทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 35 คน
5. เก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลจากผลการทดสอบของนักเรียน และสรุปผลการ
ทดลองใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง ปริมาตรทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
1. แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง ปริมาตรทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 จำนวน 1 ชุด
2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ปริมาตรทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบปรนัย จำนวน 20 ข้อ 4 ตัวเลือก
ประชากร
ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลบ้านท่าพระยาจักร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 138 คน
กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนอนุบาล บ้านท่าพระยาจักร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 2 ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2563 จำนวน 35 คน โดยใช้การสุ่มอย่างง่ายโดยวิธีจับฉลาก
สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ในการทดลองใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง ปริมาตรทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลปรากฏ ดังนี้
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง ปริมาตรทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการเรียนรู้
อภิปรายผล
ผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง ปริมาตรทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้
จากการนำแบบฝึกทักษะไปทดลองใช้กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 35 คน ปรากฏว่า คะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนรู้ สูงกว่าคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่าแบบฝึกทักษะที่สร้างขึ้น ช่วยพัฒนาให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น สอดคล้องกับมัณฑนา ไทรวัฒนะศักดิ์ (2548 : 76) ได้ศึกษาผลการใช้แบบฝึกที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโจทย์ปัญหาวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ผลการศึกษาพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโจทย์ปัญหาวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่ได้รับการฝึกโดยใช้แบบฝึกการแก้โจทย์ปัญหาสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เช่นเดียวกับสุรภี ฤทธิวงศ์ (2550 : 40) ได้ทำการพัฒนาแบบฝึกซ่อมเสริมวิชาคณิตศาสตร์เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผลการศึกษาพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกซ่อมเสริมวิชาคณิตศาสตร์เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 50 โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
เห็นได้ชัดว่าแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง ปริมาตรทรงสี่เหลี่ยมุมฉาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สามารถทำให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ได้ดีขึ้น นักเรียนร่วมกิจกรรมการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน เพราะผู้รายงานเลือกใช้กิจกรรมที่หลากหลายไม่ทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่าย เช่น การร้องเพลง การเล่นเกม การทำงานเป็นกลุ่มที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ร่วมกัน ทำให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนคณิตศาสตร์เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนระดับชั้นที่สูงขึ้นต่อไป
ข้อเสนอแนะ
จากการจัดทำแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง ปริมาตรทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผู้รายงานมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
1. ก่อนใช้แบบฝึกทักษะครูผู้สอนและนักเรียนต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการใช้ โดยเฉพาะครูผู้สอนต้องเน้นย้ำเรื่องความซื่อสัตย์ต่อตนเองให้กับนักเรียน และดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2. ควรศึกษาเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในสาระอื่นๆ และระดับชั้นอื่นที่สามารถนำแบบฝึกทักษะไปใช้ได้อย่างเหมาะสม