|
|
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์บนฐาน Technology-Enhanced Learning (TEL) ร่วมกับการประเมินเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีขั้นตอนการวิจัย 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 ศึกษาแนวคิดการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์บนฐาน Technology-Enhanced Learning (TEL) ร่วมกับการประเมินเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา ขั้นที่ 2 สร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ขั้นที่ 3 ศึกษาผลการใช้รูปแบบ การจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด (กวีธรรมสาร) อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 30 คน และขั้นที่ 4 เพื่อนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ไปขยายผลกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดหนองผา อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์บนฐาน Technology-Enhanced Learning (TEL) ร่วมกับการประเมินเป็นฐาน 2) แบบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหา และ 3)แบบประเมินความสามารถในการคิดแก้ปัญหาที่ใช้ในระหว่างเรียน การวิเคราะห์ข้อมูล โดยหาค่า ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. แนวคิดแนวคิดการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์บนฐาน Technology-Enhanced Learning (TEL) ร่วมกับการประเมินเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน มีการบูรณาการเทคโนโลยี ผู้สอนปรับเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวกและผู้ชี้แนะ ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติในการทำกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์อย่างหลากหลาย รับผิดชอบและกำกับตนเองในการเรียนรู้ มีการสะท้อนคิดเพื่อปรับปรุงการเรียนรู้ให้ดีขึ้น ผู้สอนต้องออกแบบการช่วยเหลือให้เหมาะสมกับระดับความสามารถของผู้เรียน ผู้เรียนกลุ่มเก่งและปานกลางควรส่งเสริมให้เป็นผู้ช่วยเหลือกลุ่มอ่อน
2. การสร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ พบว่า 1)รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์บนฐาน Technology-Enhanced Learning (TEL) ร่วมกับการประเมินเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างมีชื่อว่า WARUNYA Model มีกระบวนการเรียนรู้ ดังนี้ ขั้นที่ 1 นำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) ขั้นที่ 2 กระตุ้นความรู้เดิม (Activation of prior knowledge) ขั้นที่ 3 ระบุจุดประสงค์การเรียนรู้ (Rehearse the objective) ขั้นที่ 4 ทำความเข้าใจสถานการณ์ (Understanding situation) ขั้นที่ 5 ร่วมกันคิด (Notion Together) ขั้นที่ 6 แลกเปลี่ยนประสบการณ์ (Your knowledge exchange) และขั้นที่ 7 การยอมรับสิ่งที่ค้นพบ (Acceptance Finding) 2) ผลการตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า รูปแบบที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( = 4.36, = 0.58) และ 3) เมื่อนำรูปแบบ ที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้ พบว่า มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.7377
3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้น พบว่า 1) นักเรียน มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักเรียนมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) จำนวนนักเรียนที่มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหากลุ่มเกล่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จำนวนนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มอ่อนมีแนวโน้มลดลง
4. ผลการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ไปขยายผล พบว่า 1) นักเรียน มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักเรียนมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) จำนวนนักเรียนที่มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหากลุ่มเกล่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จำนวนนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มอ่อนมีแนวโน้มลดลง
|
โพสต์โดย ya : [9 ม.ค. 2565 เวลา 10:51 น.] อ่าน [3422] ไอพี : 223.207.227.126
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 23,559 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,650 ครั้ง
| เปิดอ่าน 146,430 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,008 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,975 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,413 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,382 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,957 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,934 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,649 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,054 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,805 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,174 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,208 ครั้ง
| เปิดอ่าน 49,375 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 15,406 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,370 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,305 ครั้ง
| เปิดอ่าน 53,095 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,630 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|