|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพแผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เรื่องการโปรแกรมภาษาซี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างกลุ่มเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษากับกลุ่มที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบปกติ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนรามันห์ศิริวิทย์ จังหวัดยะลา ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เรื่องการโปรแกรมภาษาซี 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ เรื่องการโปรแกรมภาษาซี 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งมีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.67-1.00 มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.27-0.80 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.20-0.53 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.89 และ 4) แบบวัดความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็ม มีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟา (alpha coefficient) ของ Cronbach เท่ากับ 0.85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test) แบบ independent sample
ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เรื่องการโปรแกรมภาษาซี มีค่าประสิทธิภาพไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ 83.72/81.58 ซึ่งเป็นไปที่สมมติฐานที่ตั้งไว้ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เรื่องการโปรแกรมภาษาซี สูงกว่ากลุ่มที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปที่สมมติฐานที่ตั้งไว้ และ 3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาอยู่ในระดับมาก
คำสำคัญ: สะเต็มศึกษา, ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
|
โพสต์โดย อัฟ : [6 ม.ค. 2565 เวลา 15:33 น.] อ่าน [3437] ไอพี : 27.55.82.172
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 14,921 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,851 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,449 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,834 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,786 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,707 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,942 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,441 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,153 ครั้ง
| เปิดอ่าน 67,857 ครั้ง
| เปิดอ่าน 72,201 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,633 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,327 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,884 ครั้ง
| เปิดอ่าน 39,680 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 37,535 ครั้ง
| เปิดอ่าน 38,482 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,646 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,066 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,464 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|