|
|
ชื่อผลงานทางวิชาการ การพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพของ
นักเรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือเป็นฐาน
โรงเรียนบ้านทม
ประเภทของผลงาน นวัตกรรมทางการศึกษาและเทคโนโลยีทางการศึกษา
สายงาน การบริหารสถานศึกษา
ชื่อผู้วิจัย นายภิรวัฒน์ ดาษดา
ปีที่ทำการวิจัย ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
ในการศึกษาการพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือเป็นฐาน โรงเรียนบ้านทมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ในการสร้างรูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือเป็นฐาน โรงเรียนบ้านทม 2) เพื่อสร้างรูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือเป็นฐาน โรงเรียนบ้านทม 3)เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือเป็นฐาน โรงเรียนบ้านทมและ4) เพื่อประเมินผลรูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือเป็นฐาน โรงเรียนบ้านทม กลุ่มเป้าหมายคือ ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ภาคีเครือข่ายความร่วมมือ ในโรงเรียนต้นแบบการจัดกระบวนการเรียนการสอนและการบริหารจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษอาชีพของผู้เรียน 3 โรงเรียน จำนวน 45 คน ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการศึกษาที่เป็นผู้ตรวจสอบเบื้องต้นรูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพของนักเรียน จำนวน 7 คน และนำไปทดลองใช้ในโรงเรียนบ้านทม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 กลุ่มเป้าหมายคือ ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและภาคีเครือข่ายความร่วมมือ จำนวน 60 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบสังเกต แบบบันทึกข้อมูล แบบตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ขององค์ประกอบหลักและองค์ประกอบย่อย แบบประเมินความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของร่างรูปแบบ แบบประเมินรูปแบบก่อน-หลังการพัฒนา แบบสังเกตพฤติกรรม และแบบวัดความสามารถในการใช้ทักษะอาชีพของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้สถิติบรรยาย ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
สภาพปัจจุบันและวิธีการในการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพมี 12 องค์ประกอบ คือ แนวคิดพื้นฐาน การบริหารจัดการ หลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา สภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา เงื่อนไขความสำเร็จ ทักษะอาชีพด้านความยืดหยุ่นและการปรับตัว ด้านการริเริ่มและกำกับตนเองได้ ด้านสังคมและทักษะข้ามวัฒนธรรม ด้านการมีผลงานและความรับผิดชอบตรวจสอบได้ ด้านภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ ผลการประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก รูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือเป็นฐาน โรงเรียนบ้านทม ที่สร้างขึ้น มี 8 องค์ประกอบได้แก่ 1) หลักการ 2) เป้าหมาย 3) จุดมุ่งหมาย 4) พฤติกรรมบ่งชี้ทักษะอาชีพของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 5) กลไกการดำเนินการ 6) การดำเนินการ 7) การประเมินผลและ 8) เงื่อนไขความสำเร็จ ซึ่งผลจากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในภาพรวมมีความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินรูปแบบพบว่า การพัฒนาตามองค์ประกอบของรูปแบบมีระดับการพัฒนาเพิ่มขึ้น นักเรียนแสดงออกถึงพฤติกรรมบ่งชี้ทักษะอาชีพและความสามารถในการใช้ทักษะอาชีพ มีระดับการพัฒนาเพิ่มขึ้น ผลการประเมินความพึงพอใจของครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและภาคีเครือข่ายความร่วมมือที่มีต่อรูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือเป็นฐาน โรงเรียนบ้านทม โดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก
|
โพสต์โดย ภิรวัฒน์ ดาษดา : [3 ม.ค. 2565 เวลา 12:34 น.] อ่าน [3401] ไอพี : 223.205.240.66
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 9,727 ครั้ง
| เปิดอ่าน 48,183 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,265 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,849 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,177 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,618 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,088 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,359 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,129 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,087 ครั้ง
| เปิดอ่าน 38,004 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,865 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,037 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,387 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,323 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 8,775 ครั้ง
| เปิดอ่าน 37,936 ครั้ง
| เปิดอ่าน 69,479 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,591 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,209 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|