ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย : นุชรี เนียมรัตน์

ปีที่วิจัย : ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และความต้องการในการพัฒนา การจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยศาสตร์พระราชา 2) เพื่อร่างรูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อประเมินผล และปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 44 คน โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) ซึ่งได้จากการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลแบบสอบถามความเหมาะสมขององค์ประกอบของรูปแบบ แบบทดสอบ ประเมินพฤติกรรมนักเรียนที่แสดงออกตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชา และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน การสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) เพื่อสอบถามความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test การวิเคราะห์เนื้อหา และการถอดบทเรียน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และความต้องการในการพัฒนาการจัดการ สรุปว่า การจัดการเรียน ควรเร่งพัฒนาความรู้นักเรียนในสาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ โดยนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชามาใช้ในการจัดการเรียนการสอน มุ่งความพอประมาณกับศักยภาพ ของนักเรียน พอประมาณกับภูมิสังคมของโรงเรียน และชุมชนที่ตั้ง ฝึกให้นักเรียนคิดเป็นทำเป็น อย่างมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันในด้านต่างๆ โดยการดำเนินกิจการต้องนำไปสู่ความยั่งยืนของผล โดยที่นักเรียนมีความรู้ และเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชาน้อมนำสู่วิถีชีวิต และเผยแพร่สู่ครอบครัว ชุมชน

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้รูปแบบ “AGKC Model” ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้ การทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knowledge : A) ขั้นกิจกรรมกลุ่ม (Group Process : G) การแสวงหาความรู้ใหม่ (Knowledge Acquisition : K) สรุป และขยายผล (Conclusion and extend results : C) การประเมินความเหมาะสมของการกำหนดองค์ประกอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ส่วนการทดลองใช้ในการทดลองภาคสนามพบว่า มีประสิทธิภาพ 80.75/81.33

3. การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 การทดสอบหาค่าประสิทธิภาพ ขั้นทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีประสิทธิภาพ 82.96/83.93

4. การประเมินผล และถอดบทเรียน การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 10.44 และหลังเรียนเท่ากับ 25.18 และเมื่อนำเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่าคะแนนก่อนเรียน และหลังเรียนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 การประเมินพฤติกรรมนักเรียนที่แสดงออกตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชา อยู่ในระดับมาก การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนอยู่ในระดับมาก

การถอดบทเรียน รูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เศรษฐศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ นักเรียนได้รับการจัดการเรียนรู้แบบการถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา ที่เน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริงอย่างเป็นระบบขั้นตอน เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พบเจอปัญหา และคิดค้นวิธีการต่างๆ เพื่อแสวงหาคำตอบด้วยตัวเองนักเรียนมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น อภิปรายปัญหา และหาข้อสรุปในการแก้ปัญหาร่วมกัน

โพสต์โดย ครูกุ้ง : [10 ธ.ค. 2564 เวลา 16:07 น.]
อ่าน [2405] ไอพี : 182.232.215.97
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,716 ครั้ง
"ประกาศสงกรานต์" ปี 2556
"ประกาศสงกรานต์" ปี 2556

เปิดอ่าน 16,386 ครั้ง
เม็ดแมงลัก สมุนไพรเด็ด ช่วยให้หุ่นสวย สุขภาพดี
เม็ดแมงลัก สมุนไพรเด็ด ช่วยให้หุ่นสวย สุขภาพดี

เปิดอ่าน 186,535 ครั้ง
ความหมายของระบบ
ความหมายของระบบ

เปิดอ่าน 31,274 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"

เปิดอ่าน 11,882 ครั้ง
กาแฟเย็นทำให้อ้วน ให้แคลอรีมากเท่ากับข้าวมื้อใดมื้อหนึ่ง
กาแฟเย็นทำให้อ้วน ให้แคลอรีมากเท่ากับข้าวมื้อใดมื้อหนึ่ง

เปิดอ่าน 14,513 ครั้ง
5 คำถามเพื่อสาขาเรียนที่ใช่ สู่อาชีพที่ชอบ
5 คำถามเพื่อสาขาเรียนที่ใช่ สู่อาชีพที่ชอบ

เปิดอ่าน 36,008 ครั้ง
เอกภพสัมพัทธ์ (Relative Universe)
เอกภพสัมพัทธ์ (Relative Universe)

เปิดอ่าน 31,515 ครั้ง
กฎหมายน่ารู้ ตอน "ครูยึดโทรศัพท์นักเรียน มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์"
กฎหมายน่ารู้ ตอน "ครูยึดโทรศัพท์นักเรียน มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์"

เปิดอ่าน 2,391 ครั้ง
ยางนา
ยางนา

เปิดอ่าน 18,240 ครั้ง
โคขุน..."ไทยแบล็ค" ลูกผสมพันธุ์ใหม่ให้เนื้อมาก
โคขุน..."ไทยแบล็ค" ลูกผสมพันธุ์ใหม่ให้เนื้อมาก

เปิดอ่าน 14,976 ครั้ง
ช็อกโกแลต ช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่าจริงหรือ
ช็อกโกแลต ช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่าจริงหรือ

เปิดอ่าน 11,248 ครั้ง
ครูอินเดีย ลุยน้ำไปสอนหนังสือเด็กนานกว่า 20 ปี
ครูอินเดีย ลุยน้ำไปสอนหนังสือเด็กนานกว่า 20 ปี

เปิดอ่าน 27,007 ครั้ง
ประกาศ
ประกาศ

เปิดอ่าน 16,947 ครั้ง
ตะลึง! พบตำราพิชัยสงคราม จ.เพชรบูรณ์ อายุ 200 ปี
ตะลึง! พบตำราพิชัยสงคราม จ.เพชรบูรณ์ อายุ 200 ปี

เปิดอ่าน 11,808 ครั้ง
ชาวเน็ตควรรู้ไว้ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ มีผล 4 ส.ค. แชร์ภาพผู้อื่นต้องระวังให้ดี
ชาวเน็ตควรรู้ไว้ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ มีผล 4 ส.ค. แชร์ภาพผู้อื่นต้องระวังให้ดี

เปิดอ่าน 19,530 ครั้ง
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 1
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 1
เปิดอ่าน 74,840 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง รายการ เคลียร์ คัด ชัดเจน ตอน "โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล" โดย ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ กพฐ.
รับชมย้อนหลัง รายการ เคลียร์ คัด ชัดเจน ตอน "โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล" โดย ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ กพฐ.
เปิดอ่าน 88,359 ครั้ง
ฮือฮา! รถใช้น้ำแทนน้ำมัน วิ่งได้ 56 กิโลเมตร/ลิตร
ฮือฮา! รถใช้น้ำแทนน้ำมัน วิ่งได้ 56 กิโลเมตร/ลิตร
เปิดอ่าน 12,213 ครั้ง
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM
เปิดอ่าน 10,911 ครั้ง
5 อภิมหาม้าเหล็ก ทุบสถิติ วิ่งเร็วที่สุดในโลก
5 อภิมหาม้าเหล็ก ทุบสถิติ วิ่งเร็วที่สุดในโลก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ