ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
านวิจัยชั้นเรียน การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

แนวทาง วิธีการปฏิบัติงาน/การจัดการเรียนการสอน

แนวคิดการพัฒนาผลงานทางวิชาการมาจากการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับนักเรียนที่รับผิดชอบ ตามหลักวิชาการ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ควบคู่กับการวิจัยในชั้นเรียน ที่สอดคล้องกับพัฒนาการของนักเรียน โดยการผลิตสื่อและนวัตกรรมเพื่อใช้ประกอบกระบวนการจัดการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการสอดแทรกคุณธรรมเพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข

การสร้างองค์ความรู้ได้จัดการเรียนรู้ควบคู่กับการวิจัยในชั้นเรียน การวิเคราะห์นักเรียนรายบุคคล สร้างและนำนวัตกรรมใหม่มาใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ เพื่อการพัฒนาและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้แก่ผู้เรียน จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จัดบรรยากาศที่เหมาะสมแก่การเรียนรู้ ใช้สื่อต่างๆและเทคโนโลยีประกอบการจัดการเรียนรู้ จึงได้สร้างและนำชุดบทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มาใช้ในการจัดกระบวนการเรียนการสอน

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1.เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม

๒. เพื่อพัฒนาชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐

๓. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย

๑. ชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ที่สร้างขึ้น จำนวน ๑๐ เล่ม

๒. แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๑๒ แผน

๓. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน ๒๐ ข้อ

วิธีการดำเนินการศึกษาค้นคว้า

๑. ผู้จัดทำได้อธิบายชี้แจงทำความตกลงกับนักเรียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในเรื่อง การเรียน เวลาเรียน และวิธีการ

ในการเรียน

๒. ทำการเก็บข้อมูลก่อนทดลอง โดยให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน ๒๐ ข้อ เพื่อนำคะแนนที่ได้เป็นคะแนนทดสอบก่อนเรียน

๓. ให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายเรียนด้วยชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมืองวัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ทั้ง ๑๐ เล่มโดยมีการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนทุกครั้ง ทั้ง ๑๐ เล่ม

๔. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน ๒๐ ข้อ เพื่อนำคะแนนที่ได้เป็นคะแนนทดสอบหลังเรียนและทำแบบวัดความพึงพอใจ จำนวน ๑๐ ข้อ

๕. ตรวจผลการทำแบบทดสอบประจำเล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ได้จากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนและแบบวัดความพึงพอใจ แล้วจึงนำไปวิเคราะห์โดยใช้วิธีการทางสถิติต่อไป

การเก็บรวบรวมข้อมูล

ใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลในสถานการณ์จริงในชั้นเรียน โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย และสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนระหว่างจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

การวิเคราะห์ข้อมูล

ข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน นำมาวิเคราะห์ หาค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วเปรียบเทียบคะแนนความก้าวหน้าของนักเรียนแต่ละคน

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มที่ศึกษา คือ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ทั้งหมดรวม ๒๐ คน มีการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน แล้วจึงดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย หลังจากนั้นจึงทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน แล้วจึงนำผลมาเก็บรวบรวม ข้อมูลก่อนเรียนและหลังเรียนที่รวบรวมได้จากเครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมาจำแนกผลการเรียนรู้ ดังนี้

ตารางที่ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของนักเรียนในการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย

ร้อยละ

ค่า S.D

ก่อนเรียน ๒๐ คน 231 11.55 57.75 2.31

หลังเรียน ๒๐ คน 341 17.05 85.25 1.05

จากตาราง สรุปได้ว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 11.55 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 17.05. จะเห็นได้ว่าคะแนนของค่าเฉลี่ยหลังเรียนมีค่ามากกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของก่อนเรียนมีค่าเท่ากับ 2.31 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานหลังเรียนมีค่าเท่ากับ 1.05 แสดงว่าข้อมูลมีค่าคะแนนใกล้เคียงกัน

สรุปผลการวิจัย

๑. ชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐

๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

๓. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วย๑. ชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยรวมอยู่ในระดับมาก

ประโยชน์ที่ได้รับจากผลงาน

ผลจากการนำชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มาใช้ในการจัดกระบวนการเรียนการสอน ทำให้นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียนรู้ มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียนและสถานศึกษา ดังนี้

๑) ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทยผ่านเกณฑ์การประเมิน

๒) ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย และสร้างชิ้นงานได้อย่างเหมาะสม

๓) ทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในการเรียนรู้และมีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น

๔) โรงเรียนมีสื่อ/นวัตกรรมที่ใช้ประกอบการเรียนการสอนมากขึ้น

โพสต์โดย โมมี่ : [9 ธ.ค. 2564 เวลา 09:53 น.]
อ่าน [2357] ไอพี : 182.232.132.14
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 44,127 ครั้ง
ธงชาติไทยเอกลักษณ์ความเป็นชาติ
ธงชาติไทยเอกลักษณ์ความเป็นชาติ

เปิดอ่าน 11,407 ครั้ง
5 วิธีชวนขับรถประหยัดน้ำมัน
5 วิธีชวนขับรถประหยัดน้ำมัน

เปิดอ่าน 43,980 ครั้ง
ไม่ต้องพิมพ์ให้เมื่อยมืออีกต่อไป Google Docs ให้เราพิมพ์ข้อความด้วยการพูดบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ดูวิธีใช้
ไม่ต้องพิมพ์ให้เมื่อยมืออีกต่อไป Google Docs ให้เราพิมพ์ข้อความด้วยการพูดบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ดูวิธีใช้

เปิดอ่าน 9,541 ครั้ง
สวยสู้ฤดูหนาว ด้วยสารพัดอาหารผิวจากธรรมชาติ
สวยสู้ฤดูหนาว ด้วยสารพัดอาหารผิวจากธรรมชาติ

เปิดอ่าน 17,728 ครั้ง
คลิปข่าวทุจริตสอบครู จากรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ 10 มี.ค.2556
คลิปข่าวทุจริตสอบครู จากรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ 10 มี.ค.2556

เปิดอ่าน 32,921 ครั้ง
ดร.อาจอง เผยหิมะตก ในประเทศไทย ม.ค. ปีหน้า
ดร.อาจอง เผยหิมะตก ในประเทศไทย ม.ค. ปีหน้า

เปิดอ่าน 13,373 ครั้ง
ลูกเรามีความคิดสร้างสรรค์แค่ไหน
ลูกเรามีความคิดสร้างสรรค์แค่ไหน

เปิดอ่าน 12,630 ครั้ง
รักษาอาการท้องเสียด้วยฝรั่ง
รักษาอาการท้องเสียด้วยฝรั่ง

เปิดอ่าน 23,490 ครั้ง
"ชงโค"..ไม้ประดับที่มีสรรพคุณรักษาโรค
"ชงโค"..ไม้ประดับที่มีสรรพคุณรักษาโรค

เปิดอ่าน 21,098 ครั้ง
สนามเด็กเล่น แหล่งรวมเกมส์ ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้
สนามเด็กเล่น แหล่งรวมเกมส์ ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้

เปิดอ่าน 18,516 ครั้ง
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20

เปิดอ่าน 10,774 ครั้ง
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย

เปิดอ่าน 9,936 ครั้ง
การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด
การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด

เปิดอ่าน 25,531 ครั้ง
รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ที่มีประสิทธิผลต่อการเป็นองค์กรคุณภาพของสถานศึกษาเข้มแข็ง
รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ที่มีประสิทธิผลต่อการเป็นองค์กรคุณภาพของสถานศึกษาเข้มแข็ง

เปิดอ่าน 20,929 ครั้ง
รูปแบบของผลการเรียนในโรงเรียน
รูปแบบของผลการเรียนในโรงเรียน

เปิดอ่าน 23,678 ครั้ง
ความเข้าใจเรื่องแผ่นดินไหว: ประเทศไทยกับ 3 รอยเลื่อนมีพลัง และพื้นที่เสี่ยงภัย 5 ระดับ
ความเข้าใจเรื่องแผ่นดินไหว: ประเทศไทยกับ 3 รอยเลื่อนมีพลัง และพื้นที่เสี่ยงภัย 5 ระดับ
เปิดอ่าน 35,318 ครั้ง
ลักษณะบุคคลที่มีความสามารถทางด้านพหุปัญญา
ลักษณะบุคคลที่มีความสามารถทางด้านพหุปัญญา
เปิดอ่าน 8,111 ครั้ง
แนวทางการจัดทำข้อมูล DMC ปีการศึกษา 2563
แนวทางการจัดทำข้อมูล DMC ปีการศึกษา 2563
เปิดอ่าน 66,622 ครั้ง
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
เปิดอ่าน 13,317 ครั้ง
ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ
ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ