|
Advertisement
|
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ ๒ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ๓) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ และ ๔) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๓ โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ เทศบาลเมืองท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ จำนวน ๒๖ คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster random sampling) โดยมีห้องเรียน เป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ จำนวน ๘ เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ ๒๔ แผน ๒๔ ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน ๓๐ ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น (KR-20) ๐.๘๑ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๘๔ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและ การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยสองค่าจากกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว (t-test for Paired Samples) พบว่า แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๓.๕๑/๘๒.๘๓ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ๘๐/๘๐ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.๐๑ ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะมีค่าเท่ากับ ๐.๗๓๒๐ หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๓.๒๐ แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนหรือมีความรู้เพิ่มขึ้น ๐.๗๓๒๐ หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๓.๒๐ ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๕๐ S.D. = ๐.๒๘)
|
โพสต์โดย ผึ้ง : [7 ธ.ค. 2564 เวลา 14:10 น.] อ่าน [4113] ไอพี : 58.11.96.172
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 150,942 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 25,581 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 48,151 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 75,409 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,675 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,441 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 28,677 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,287 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 68,539 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 33,962 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 31,443 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 172,488 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,192 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 25,713 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,251 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 18,759 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,199 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 68,572 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,290 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 39,061 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|